Advice

หญิงไทยเที่ยวคนเดียวรอบโลก “มิ้นท์-มณฑล” เธอทำได้ยังไง?

Pinterest LinkedIn Tumblr

By Lady Manager

ผู้หญิงกับการเดินทางรอบโลกคนเดียว แถมเป็นเส้นทางสายโหด เดินป่าวันละหลายสิบกิโลฯ มิ้นท์ – มณฑล กสานติกุล เจ้าของบล็อก “I Roam Alone” และหนังสือ “Trans-Siberian” สาวหน้าใสยิ้มเก่งในวัย 26 ปี ที่เดินทางมาแล้วกว่า 50 ประเทศตั้งแต่อายุ 23

เธอบอกว่า อาศัยความบ้าเข้ามาตัดสินใจล้วนๆ


“หลังจากจบปริญญาตรีจากคณะอักษรศาสตร์ สาขาภาษาสเปน จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จากนั้นมิ้นท์ไปต่อปริญญาโทที่เมืองมาดริด ประเทศสเปน ที่ Universidad Complutense de Madrid

พอระหว่างกำลังกับธีสิส (Thesis)ก่อนจบปริญญาโท ก็นึกอยากทำอะไรสนุก มิ้นท์เรียนวรรณกรรมสเปน ช่วงปีนั้นเรียนหนักมาก พอคลาสจบ เราเลยอยากทำอะไร จึงจองตั๋วเครื่องบินไปหมู่เกาะอะซอเรส (Azores) ในกลางมหาสมุทรแอตแลนติก (Atlantic )ที่โปรตุเกส 3 อาทิตย์ แล้วค่อยโทรบอกคุณแม่หลัง”


นี่คือทริปแรกในการเที่ยวคนเดียวของเธอค่ะ


“ตอนนั้นไม่กลัวอะไรเลย เพราะใช้ความบ้าเข้ามาตัดสิน ด้วยความที่เรามั่นใจในตัวเอง ว่าเราเดินทางมาเยอะแล้ว เพราะก่อนหน้านั้นเดินทางไปกับเพื่อนที่เรียนด้วยกันที่สเปน แต่ไปกับเพื่อนตลอด เจอตั๋วถูกก็ไป เราจึงมีความรู้สึกว่า เที่ยวคนเดียวก็น่าจะโอเคนะ จึงไปด้วยความที่ไม่คิดอะไรมาก


พอไปถึงปุ้บ จุกเลย! เพราะมันเป็นสถานที่ที่ไม่ได้เหมาะจะไปคนเดียวเลย ไม่มีระบบขนส่งสาธารณะเลย โฮสเทล (Hostel)ไม่มีเลย เพราะเราไม่ได้ศึกษาข้อมูล คือจองตั๋ว 2 วัน แล้วก็จัดกระเป๋าไปเลย มารู้ที่หลังว่า มันไม่เหมาะกับการเที่ยวคนเดียวเลยที่นั่น ทุกอย่างแพงหมด เพราะเราต้องเช่าแท็กซี่สำหรับการเที่ยวรอบเกาะ หมู่เกาะอะซอเรสจะมีหลายๆเกาะ มีภูเขาไฟ ระหว่างเกาะก็ใช้บินเอา แต่ก็สนุก เหมือนเป็นครั้งแรกที่เราเดินทางคนเดียว” มิ้นท์ เล่าให้ฟังถึงทริปแรกในการเดินทางคนเดียวของเธอ

ไม่ใช่คนกล้า แต่เป็นคนเป็นบ้า!

ทว่า หลังจากทริปแรกหมู่เกาะออซอเรสแล้สนั้นมิ้นท์ก็ได้หยุดเที่ยวคนเดียวไปครึ่งปีเพราะนอยด์เหมือนกัน

“จากนั้นก็เจอเรื่องไม่ดี โดนไล่ออกจากโรงแรมบ้าง ไปคนเดียวเหงาบ้าง กว่าจะเที่ยวคนเดียวได้อีกครั้งก็ประมาณครึ่งปี เพราะเราเป็นคนที่ อะไรที่เรากลัว เราต้องยิ่งทำ จะคิดแบบนี้ตลอด


จริงๆไม่ใช่คนกล้านะ แต่เป็นคนบ้ามากกว่า!


แต่ก่อนเป็นคนไม่มั่นใจในตัวเองเลยนะ มาเริ่มมั่นใจในตัวเองมากขึ้นเมื่อออกเดินทางเพราะเดินทางคนเดียวเยอะมาก เหมือนเรารู้แล้วว่า เราดูแลตัวเองได้นะ จึงมั่นใจในตัวเองมากขึ้น เมื่อก่อนจะบ้าอย่างเดียว ลุยๆ ไม่ค่อยคิด


จากนั้นไปออสเตรีย สโลวาเนีย สวิตเซอร์แลนด์ ประเทศละ 3 อาทิตย์ คือตั๋วถูกเราก็ไปเลย หรือเป็นช่วงโปรโมชั่น ก็คอยเช็กตั๋วเครื่องบินอยู่ตลอด มิ้นท์ใช้หลายเว็บเลยค่ะ ใช้ edreams , Skyscanner, lastminute เช็กตั๋วหลายที่


มิ้นท์ชอบแอฟริกานะ เราไม่ชอบความสมบูรณ์แบบ อะไรที่เดินทางยากๆ เหมือนการเดินทางเป็นตัวมิ้นท์ไปแล้ว ไม่ว่า ใครจะรักสิ่งไหน เขาก็อยากจะท้าทายตัวเองขึ้นเรื่อยๆ อยากให้สนุกขึ้นเรื่อยๆ อเมริกาใต้ อเมริกากลางนี่แหล่ะที่ไปแรกๆแล้วรู้สึกว่ายาก คือเรายังปรับตัวกับเขาไม่ได้ เรายังไม่เข้าใจวัฒนธรรมของเขา “ มิ้นท์ กล่าว

จุดหมายไม่สำคัญ เส้นทางที่พาไปสนุกกว่า!

“ประทับใจที่สุดคือทวีปอเมริกาใต้ และอเมริกากลาง ตั้งแต่เม็กซิโกลงมาเลย เพราะเป็นที่ที่คนเขาไม่กลัวกัน เช่น ที่กรุงเทพฯ เราไปนั่งบนรถไฟฟ้า เราอยากจะคุยกับคนข้างๆ เราก็จะไม่กล้าคุย แต่ทวีปนั้นไม่เป็นแบบนี้ อยากจะคุยก็คุยได้เลย แล้วเขาก็คุยกับเรากลับด้วย ไปนั่งปุ้บคุยกับเราแล้ว จึงไม่เคยรู้สึกเลยว่า ต้องอยู่คนเดียวขณะเดินทางในทวีปนั้น

เพราะยิ่งประเทศที่เจริญมากขึ้นเท่าไหร่ มนุษย์จะมีช่องว่างระหว่างกันมากขึ้น อย่างในกรุงเทพฯก็จะเป็นแบบนี้ แต่พอไปต่างจังหวัดจะเป็นอีกอย่างเลย เรากล้าคุยกับคนในจังหวัดนั้นมากขึ้น อย่างขึ้นรถสองแถวเราก็จะกล้าถามเขา เขาก็จะช่วยเหลือกันโดยไม่หวังผลตอบแทนเลย


มิ้นท์ชอบแบบนี้มาก เพราะเวลามิ้นท์จะไปในแต่ละที่มิ้นท์ไม่ได้ต้องการอยากจะไปถ่ายรูปกับอะไร แต่มิ้นท์ไปเพื่อไปเอาประสบการณ์กับคน เพราะมันไม่ได้อยู่ในไกด์บุ้ก (Guidebook) ที่ไหนเลย คือ ไม่ได้หมายความว่า มิ้นท์ไปปารีสแล้วไม่ไปหอไอเฟลนะ เราก็ไป แต่จะให้ความสนใจกับการเดินบนถนน การคุยกับคน มากกว่า เพราะเราอยากได้ประสบการณ์จากการเดินทางมากกว่า


เราจะบอกตลอดเวลามีคนมาถามว่า เดินทางคนเดียวได้อย่างไร มิ้นท์ก็จะบอกว่า เราต้องมองว่าจุดมุ่งหมายมันไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุดนะ แต่เส้นทางที่พาเราไปนี่แหล่ะที่มันเต็มไปด้วยประสบการณ์ ความสนุก และมันก็จะไม่เหมือนใครด้วย ลองคิดดูเราไปถ่ายรูปกับอนุสาวรีย์ที่ไหนก็ไม่รู้ จากนั้นเรามาดูรูปเราก็ยังไม่รู้ว่าเขาคือใคร

แต่อย่างตอนนั้นที่เราไปโมร็อกโค ลุงชวนเรากินชา หรือคุณลุงที่อะซอเรสที่พาเราไปเที่ยว อันนี้เป็นความทรงจำที่จะอยู่กับเราจนเราตาย แต่อนุสาวรีย์ที่เราไปถ่ายรูปด้วยคือใครก็ไม่รู้”

ระวัง ความเจ็บป่วยทำหมดสนุก!

“โบลิเวียเป็นที่ที่มิ้นท์อยากไปมาก เพราะมี Salar de Uyuni

Salar de Uyuni เป็นทะเลสาบน้ำเค็ม หรือ ทะเลสาบแห้ง ทีใหญ่ที่สุดในโลก มองดูเหมือนนาเกลือขนาดใหญ่มาก ด้วยพื้นที่ประมาณ 11,000 ตารางกิโลเมตร และอยู่เหนือระดับน้ำทะเลราว 3,600 เมตร บนเทือกเขาแอนดีส ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศโบลิเวีย ด้วยความสูงถึงเพียงนี้จึงราวกับว่า Uyuni เป็นดินแดนที่อยู่ท่ามกลางฟากฟ้าและก้อนเมฆ


ยามปกติจะเป็นพื้นที่ราบขนาดใหญ่ที่มีน้ำทะเลขังอยู่เพียงตื้้น ๆ ส่วนในบางฤดู น้ำอาจระเหยออกจนกลายเป็นทะเลเกลือขาวโพลนซึ่งให้ความสวยงามไปอีกแบบ


“เราจะเห็นทุกอย่างสะท้อนหมดเลย คือมองไปไม่รู้เลยว่า ตรงไหนคือเส้นขอบฟ้า ตรงไหนคือขอบน้ำ มันกลืนกันไปหมดเลย ด้วยความที่เกลือมันเป็นสีขาวเลย

อยู่โบลิเวีย 3 อาทิตย์ มิ้นท์ไม่ชอบ เพราะคนที่นั่นเหมือนชีวิตเขาลำบาก ไม่มีทางออกทะเล สมัยก่อนไปรบกับชิลิ ชิลิก็เอาทางออกทะเลของโบลิเวียไป เหมือนเขาใช้ชีวิตแบบคับแค้นใจ ดูเขาไม่มีความสุข คือเขาจะหน้าบูดตลอดเวลา คือ ต้องบอกว่า นี่เป็นประสบการณ์ส่วนบุคคล เขาอาจจะไม่ได้หน้าบูดแต่หน้าเขาเป็นแบบนั้นเองก็ได้


แถมอาหารเป็นพิษอีก จริงๆ มิ้นท์กระเพาะแข็งแรงมากเลยนะ แต่อยู่โบลิเวียนี่พังมาก และที่สำคัญเป็น Altitude sickness เพราะด้วยความที่เมืองตั้งอยู่บนที่สูงมาก จึงทำให้อ็อกซิเจนน้อย เราจะปวดหัวมาก

อันนี้แล้วแต่คนนะคะ ว่าใครจะเป็นมากเป็นน้อย แต่มิ้นท์ลุกไม่ขึ้นเลย เหมือนหัวจะแตก แล้วก็หนาวมากด้วย เขาไม่มีระบบทำความร้อน มันคือการต้องนอนห่มผ้าห้าชั้น เป็นมัมมี่ นอนใส่หมวกไหมพรม ชุดกันหนาวเต็มที่ เหมือนผีอำตลอดเวลา มันหนาวถึงกระดูกและเป็นอย่างนี้ 24 ชั่วโมงต่อวัน

บรรยากาศหนาว ฝนตก คนก็อึมครึม ก็แนะนำนะ ว่าใครที่ไม่เคยไปอยากให้ไป เพราะเป็นประเทศที่สวยมากๆ ไม่น่าเชื่อว่าจะสวยขนาดนี้ “

เที่ยวรอบโลกเฉลี่ยต่อทริป 50,000 ต่อเดือน

แน่นอนเที่ยวเยอะรอบโลกขนาดนี้ต้องใช้เงินเยอะพอสมควร! แต่เธอบริหารเงินเป็นเพราะไม่ชอบช้อปปิ้งและเที่ยวอย่างประหยัด

“คุณแม่เป็นผู้สนับสนุนหลัก ให้เงินเดือนทุกเดือน เราก็บริหารของเราเอง และตัวมิ้นท์เองก็มีเงินเก็บ เพราะทำงานด้วย ตอนเรียนก็ได้เงินจากแม่ เราก็เก็บ เพราะมิ้นท์ไม่ได้ช้อปปิ้งหรือใช้เงินเยอะ ไม่กินอาหารแพงๆ เวลาเดินทางก็จะคอยประหยัด เดินทางนอนโฮสเทล คืนละ 10 ดอลลาร์


ถ้าเป็นประเทศที่อาหารราคาถูกก็จะทานข้างนอก แต่ถ้าเป็นประเทศที่อาหารเขาแพง เราก็จะไปซูเปอร์มาร์เก็ตทำของกินเองเพราะโฮสเทลมีครัว มีจาน ตู้เย็น ซื้อข้าว ไข่ ผัก แครอท 1 ถุง เราก็มานั่งกินก็ง่ายดี หุงข้าวในหม้อ สาวเกาหลีเป็นคนสอน พอหุงข้าวเป็นก็สบายแล้ว ทอดไข่เจียว หรือไก่ 1 ชิ้น


บางคนคิดว่าการเดินทางจะต้องใช้เงินมหาศาล มันแล้วแต่ Priority ของแต่ละคน อย่างเพื่อนมิ้นท์บางคนฐานะเท่ากับเรา แต่เขาก็บ่นกว่าไม่มีตังค์ แต่เขาก็เอาเงินไปทำอย่างอื่น ไปกินร้านอาหารแพงๆ หรือซื้อของแบรนด์เนม Priority ก็ไม่เท่ากัน


อย่างมิ้นท์ทุกอย่างมาลงที่การเดินทาง มิ้นท์เดินทางช้า ทำกับข้าวกินเอง มันจึงไม่ใช่อย่างที่ทุกคนคิดว่าต้องมีเงินมาก ปกติเราจะเห็นทัวร์ไปยุโรป 10 วัน 2 แสน ซึ่งหากเป็นมิ้นท์นี่อยู่ได้หลายเดือนเลยนะ

แพงสุดก็ไปล่องเรือในแอตตาร์กติกา 10 วัน เพราะจะมีจุดที่แบบจ่ายแพงมาก 300,000 กว่าบาท แต่คุ้มมันมาก จากนั้นก็กินแกลบเลย นั่งรถบัส 30 ชั่วโมงก็นั่ง เครื่องบินไม่ขึ้น ก็ถัวๆกันไป อย่างประเทศอื่นก็ไม่ได้แพงขนาดนี้เพราะเราเดินป่า กางเต็นท์นอน ไม่ได้เสียเงินอะไร


มิ้นท์จะพยายามใช้เงินรวมทุกอย่างตั๋วเครื่องบิน ที่พัก อาหาร เที่ยว อยู่ที่ 50,000 บาทต่อเดือน เพราะมิ้นท์เดินทางช้า ไม่ช้อปปิ้ง เพราะอย่างบางเดือนก็ไม่ค่อยได้ใช้เงินเลยก็มี” มิ้นท์ เล่าให้ฟังถึงการใช้เงินในการเที่ยวรอบโลก เพราะนางเน้นเดินทางแบบประหยัดกินอยู่ไม่หรูหราไม่ช้อปปิ้งซื้อของแบรนด์เนมแบบผู้หญิงคนอื่น จึงถัวเฉลี่ยเงินต่อเดือนไม่ได้สูงมากกว่าที่คิด


อ่ะ! ยังไม่จบแต่เพียงเท่านี้นะคะ พรุ่งนี้ยังมีต่อเรื่องกฎเหล็กของผู้หญิงที่ต้องเที่ยวคนเดียวด้วย ว่า ต้องเตรียมตัวเผชิญหน้ากับปัญหาอย่างไรกันบ้างสำหรับผู้หญิงในเส้นทางที่ไม่ได้สะดวกสบาย
* ช่วยคลิก Like ด้วยนะคะ เพื่อเป็นแฟนเพจ Lady Manager รับข่าวสารแซ่บๆ ของผู้หญิงในแวดวงสุขภาพความงาม แฟชั่น และความสัมพันธ์ (**)

->พิเศษสำหรับแฟนเพจ! ส่งความสวย เตรียมรับปี58 เชิญทำทรีตเมนต์ฟรี ประเดิมด้วยโปรแกรมล้างพิษผม “Hair Reform”เพียงร่วมสนุกง่ายๆ เริ่มแล้ว 3-16 พย.ศกนี้

 

>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่  http://www.celeb-online.net
 

Comments are closed.

Pin It