ลูกสาวหม่ำ! “เอ็ม บุษราคัม” สวยมั่นเพราะศัลย์สร้าง เปิดหมดทำอะไร?ที่ไหน?

By Lady Manager

คิดมาแต่แรกแล้ว ว่าถ้าวันหนึ่งเอ็มทำศัลยกรรม เอ็มจะเปิดเผย เพราะดีกว่าคนอื่นไปขุดคุ้ยภาพเรามาเปรียบเทียบ เราจะอายมากกว่า”

เอ็ม – บุษราคัม วงษ์คำเหลา ลูกสาวสุดรักของหม่ำ จ๊กมก ตลกร้อยล้านชื่อดัง ยอมรับแบบแมนๆ เลยว่าเธอสวยด้วยศัลยแพทย์ พร้อมเปิดเผยจัดหนักจัดเต็มทั้งข้อมูลพร้อมพิกัดร้านอย่างละเอียดยิบ แบบโดนใจชาวโซเชียลเลยว่า ไปทำอะไรกับหน้ามาบ้างถึง ทำจมูกที่ไหน จิ้มโบท็อกซ์ เมโสแฟตร้านใดถึงวีเชฟขนาดนี้

แน่นอนว่า ไม่ใช่แค่ดัดฟัน น้ำหนักลด มุมกล้อง หรือกรดไหลย้อน เพราะเธอเล่าแบบไม่แทงกั๊กแจงสวยทุกรูขุมขน!

ศัลย์จมูกยัดซิลิโคน กรีดตา จิ้มหน้าเรียว คิ้วสามมิติ!

“ปกติไม่ใช่คนรักสวยรักงามเลย ตอนเด็กตัวดำๆ เพื่อนเรียก “อิเฉาก๊วย” โกรธมาก!”

เธอเล่าว่า ตอนเรียนปริญญาตรีด้านภาพยนตร์ และปริญญาโท ด้านธุรกิจบันเทิงที่อเมริกา ฝรั่งเขาไม่ได้สนใจเรื่องรูปร่างหน้าตา ไม่ได้แข่งกันสวย เลยไม่ได้รู้สึกว่า จะสวย หรือจะแต่งหน้าไปทำไม ตื่นมาปุ้บอาบน้ำ ปัดคิ้วบางๆ ทาแป้งเด็ก แค่นี้จบ แล้วก็ไปเรียนเลย บวกกับคุณพ่อบอกให้เรียนจบปริญญาโทก่อนค่อยศัลย์

ส่วนจุดเริ่มต้นของการทำศัลยกรรมนั้นคือ “จมูก” เพราะเธอบอกว่า ปีกจมูกเยอะ และบานมากมาย

“ครั้งแรกทำศัลยกรรมหลังเรียนจบปริญญาโทตอนอายุ 24 ปี เริ่มจากการทำจมูกก่อนค่ะ อยากให้ปีกจมูกเล็กลง จึงอยากให้คุณหมอตัดปีกจมูกให้ แต่คุณหมอก็ไม่ทำให้ จึงเอาแค่สันจมูกขึ้นก่อน และเหตุผลคุณหมอไม่ตัดปีกจมูกให้นั้น หากย้อนไปเมื่อก่อนการตัดปีกจมูกจะมีแผลข้างจมูกคือเย็บด้านนอกจะเห็นเลยว่าตัดปีกจมูกและจะเป็นแผลนูนๆขึ้นมาซึ่งหายยาก พอเรารอมาสัก 2-3 ปี วิวัฒนาการทางการแพทย์เปลี่ยนไป การตัดปีกจมูกที่แต่เดิมมีแผลด้านข้างจมูกนั้นจึงกลับกลายเป็นแผลใต้จมูกแทนซึ่งจะไม่รู้ว่าตัดปีกจมูกมาเลยเพราะซ่อนแผล จึงทำให้เรารู้สึกโชคดีที่คุณหมอไม่ตัดปีกจมูกให้ในตอนนั้น

จากนั้นทำครั้งแรกก็ไม่พอใจ จึงไปแก้จมูกเป็นครั้งที่ 2 ครั้งนี้ได้ตัดปีกจมูกแล้ว แต่จากนั้นก็ไม่พอใจอีกจึงไปแก้ครั้งที่ 3 ก็คือจมูกปัจจุบันนี้ ที่ต้องไปแก้เพราะมีปัญหาเบี้ยว ไม่เป็นธรรมชาติ ปีกจมูกบาน ทำกับคุณหมอจิ๊บ จักรภาศ ที่สยามเลเซอร์คลินิค ให้คุณหมอตัดปีกจมูกเพิ่ม และ ทำให้จมูกดูยาวขึ้นหน่อย

ประจวบเหมาะกับการทำจมูกครั้งนี้คุณหมอถามว่าจะทำตาสองชั้นเพิ่มไหม เพราะเอ็มตาชั้นสองชั้นหลบใน และตาสองข้างกลมไม่เท่ากัน คือข้างหนึ่งกลม ข้างหนึ่งรี ดูตาเศร้า ตาตก ยิ้มแล้วไม่ไปพร้อมกับปากและรอยยิ้ม เหมือนคนหน้าดุ จึงตัดสินใจทำตาพร้อมกับการเสริมจมูกเลย ไหนๆจะเจ็บแล้วก็เจ็บไปเลยครั้งเดียว ทำแบบกรีดค่ะ พร้อมดูดไขมันที่ตาด้วย แต่หลังทำชั้นตาก็จะดูหนา เป็นหอยแครงปลิ้นเลยนะ ตอนแรกก็ตกใจ ว่าทำไมกรีดให้หนาจัง แต่พอเริ่มยุบ ก็สวยงามแบบที่อยากได้ ส่วนคิ้วก็ไปสักคิ้วสามมิติมาค่ะ

ทว่า ตอนนี้เราก็พอใจโอเคกับจมูกแล้ว คงจะไม่ทำเพิ่ม เพราะตัดปีกจมูกเจ็บมาก เพราะขณะฉีดยาชาเข้าไปตรงจมูกเอ็มเจ็บจนตัวสั่นมาก แบบว่า จะไม่ทำ ไม่เอาแล้ว ไม่ไหวแล้ว ตอนนี้พอใจเกือบมากที่สุดแล้วสำหรับหน้า

นอกจากนี้ ก็มีการเก็บรูปหน้า ทำหน้าเล็ก เป็นวีเชฟ เช่น ฉีดโบท็อกซ์, Meso-Fat, Ulthera และการดัดฟันก็ช่วยให้หน้าเรียวเล็กได้ แต่เอ็มไม่เอาแก้มออกนะคะ เพราะผู้หญิงมีแก้มจะดูหน้าเด็ก แถมเป็นแก้มรับทรัพย์

ส่วนคางมีคนถามกันเยอะมากว่าไปฉีดฟิลเลอร์ที่ไหน บอกเลยค่ะ ว่าไม่ได้ทำ ไม่เคยฉีดคาง ดังนั้นเอ็มไม่เคยฉีดฟิลเลอร์เข้าหน้าเลย ส่วนขาเล็กลงก็ไม่ได้ฉีดไปทำอะไรมาทั้งนั้น และไม่ได้เสพติดศัลยกรรมเลยค่ะ

สวยไม่กั๊ก! หวังเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้หญิงรักตัวเอง เพิ่มความมั่น

“นิสัยเอ็มแมนๆ ทำก็บอกว่าทำ แต่ถ้าเราไม่ได้ทำแล้วมายัดเยียดว่าเราทำ จะโกรธมาก ทำบอกทำ ไม่กั๊ก เพราะท้ายที่สุดแล้วไม่ว่าเราจะเอนไปจุดไหนเราก็ถูกวิจารณ์อยู่ดี

ทว่า เหตุผลจริงๆแล้ว เอ็มอยากให้เป็นความรู้แก่คนที่เขาอยากจะทำศัลยกรรม อยากให้ดูเอ็มเป็นตัวอย่างว่าทำที่นี่ดี สักคิ้วที่นี่ดีเราก็แนะนำ เราไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรเลยนะ แต่รู้ว่าทำแล้วดีต้องบอกต่อ จมูก ตาทำที่นี่แล้วดีก็บอก ราคาเท่าไหร่ เจ็บไหม เตรียมตัวอย่างไร พักฟื้นนานไหม

เพราะเอ็มรู้สึกว่า ช่วงที่ไปทำศัลยกรรมครั้งแรกๆ เป็นช่วงที่ไม่มีใครกล้าว่า ฉันทำ จึงทำให้เราหาข้อมูลยากมาก เพราะเขาไม่เปิดเผย ค้นในอินเตอร์เน็ตก็ไม่เจอ เอ็มว่าเรื่องความสวยความงามมันดีเสียอีกที่เราจะไปแนะนำ บอกคนอื่น เพื่อเป็นข้อมูล

อันไหนดีเราก็บอก ไปทำไปสวยเหมือนๆกัน อยากจะเป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่นมั่นใจในตัวเองมากกว่านี้ เอ็มไม่ได้สนับสนุนให้ทำศัลยกรรมนะ แต่ถ้ามันทำให้เรามั่นใจมากขึ้นก็ไปทำเถอะ ทำเพื่อตัวเอง เพราะท้ายที่สุดแล้วความ พึงพอใจมันไม่ได้อยู่ที่คนอื่น มันอยู่ที่เรา เราส่องกระจกก็จะเห็นตัวเอง มันอยู่แค่เราจริงๆ ไม่ใช่เก็บเงินเป็นแสนเป็นล้านไปทำหน้า อยากให้แฟนประทับใจ สุดท้ายเลิกกับแฟนแล้วเสียดายเงินที่ทำไป แต่ถ้าเราเพื่อตัวเองมันก็จะอยู่กับเรา”

เตือน! อายุไม่ถึง 20 อย่าริทำศัลย์ระวังหน้าแก่ ล้ำยานแม่

ในการทำศัลยกรรม อายุและวุฒิภาวะเป็นสิ่งสำคัญมาก พูดเลย!

“เรื่องอายุสำคัญมากในการทำศัลยกรรม อย่างเด็กวัยรุ่นบางคนอายุแค่ 16 -17 ไปทำศัลยกรรม เอ็มไม่เห็นด้วยเลยอย่างยิ่ง เพราะเค้าโครงหน้ายังไม่เข้ารูปเลย เขายังโตไม่เต็มที่

อย่างเอ็มถือว่าโชคดีเพราะคุณพ่อ คุณแม่ห้ามไว้ เพราะตอนนั้นเอ็มอายุ 17 ปี อยากทำจมูกก่อนไปเรียนต่างประเทศ คุณแม่บอกว่า ยังโตไม่เต็มที่เลย เดี๋ยวหน้าก็จะต้องเปลี่ยนอีก รอก่อน ซึ่งรู้สึกคุ้มมากที่เรารอจนถึงอายุ 24 ปี ถามว่านานไหม ก็นาน แต่คุ้มค่าค่ะ

จากประสบการณ์ที่เอ็มพบมา มีเยอะที่ไปทำศัลยกรรมตอนอายุ 17 พอโตขึ้นโครงหน้ามันเปลี่ยน บางรายซิลิโคนห้อยย้อย กลายเป็นคนหน้าแก่ไปเลย ทั้งๆที่อายุยังน้อยแต่หน้าเกินไปเยอะ

ส่วนเรื่องข้อมูล เช่น การเลือกสถานความงาม และศัลยแพทย์ก็เป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก ก่อนทำเราต้องหาข้อมูลก่อนทำศัลยกรรมเสมอ อย่างที่สยามเลเซอร์คลินิคที่เอ็มทำจมูก และตา เพื่อนเป็นคนแนะนำว่าทำแล้วดี จึงเข้าไปปรึกษาเอ็มคิดว่า หมอไทยเก่งๆ เยอะแยะค่ะ ขนาดชาวต่างชาติยังเดินทางมาทำศัลยกรรมที่เมืองไทยเลย การดูแลพักฟื้นหลังทำศัลยกรรมก็ดีกว่า เรื่อแปลงเพศหมอไทยก็เก่งมาก คุณพ่อยังบอกเลย ไปทำที่เกาหลีระวังหน้าออกมาบล็อกเดียวกันนะ หมอไทยนี่แหล่ะเก่งสุดแล้ว”

จับธุรกิจความงาม เป็นอะไรที่ผู้หญิงยอมจ่าย!

นอกจากช่วยงานคุณพ่อ ขึ้นแท่นเป็นโปรดิวเซอร์หนังแล้ว เธอยังทำธุรกิจส่วนตัวอีกซึ่งไม่พ้นความสวยความงาม

“เอ็มมีธุรกิจอยู่ 3 อย่างค่ะ เป็นเสื้อผ้าชื่อแบรนด์ Mamacita และแบรนด์จิวเวอร์รี่ GMgems ขายเพชรรัสเซีย และครีมชื่อ Nurich เป็นธุรกิจออนไลน์หมดเลย ไม่มีหน้าร้าน เคยเปิดหน้าร้าน แล้วรู้สึกว่าเหมือนเรามีลูก เราต้องคอยเฝ้า ด้วยความที่เราทำงานด้านบันเทิงจึงไม่สะดวกเรื่องการแบ่งเวลาไปดูแลร้าน

จึงตัดสินใจทำธุรกิจออนไลน์ ช่วงที่เรายุ่งๆกับธุรกิจหนังเรายังพอได้มานั่งตอบไลน์ แต่พอเราจบโปรเจ็กท์หนังเราก็มาใส่ใจกับธุรกิจออนไลน์ของเราได้อีก อยากมีหน้าร้านก็ออกบูธ”

ส่วนที่ตัดสินใจทำธุรกิจเกี่ยวกับความงามนั้น มีที่มาที่ไป

“เพราะชอบมีคนถามว่า พี่เอ็มใส่เสื้อผ้าของอะไร เสื้อสวยจังเลยซื้อที่ไหน จากนั้นเราไปเปิดตู้เสื้อผ้ารื้อออกมาขายเสื้อผ้ามือสอง ขายดีมากจนตกใจ ทุกคนโอเคที่จะใส่เสื้อผ้ามือสองของเรา แต่เราก็จะนำเสื้อผ้ามือหนึ่งมาขายด้วยแต่ จะแจ้งตลอดว่าตัวไหนมือหนึ่ง มือสอง ส่วนใหญ่จะเป็นราคาที่ลูกค้าสามารถจับต้องได้ ส่วนใหญ่ไม่เกิน 500 บาท อย่างแพงสุดก็ 1,500 บาท เสื้อผ้าดูแพงแต่ถูก

ส่วนธุรกิจจิวเวลรี่ไม่เคยคิดว่าจะได้ทำ เพราะไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญทางนี้ แต่ได้แรงบันดาลใจมาจากคนที่เขาใส่เพชรจริง แล้วทำหาย สองแสน สามแสน เราก็เลยคิดว่าทำไมเราไม่ทำจิวเวลรี่ที่เป็นโคลนนิ่งคล้ายเพชรให้ได้มากที่สุด ให้ ความหรูหรา แต่ราคาจับต้องได้ เพราะใครๆก็อยากจะไฮโซทั้งนั้น แต่พอเปิดราคามา 50,000 บาท 100,000 บาท ไม่มีใครอยากซื้อแล้ว เพราะจับต้องไม่ได้ แต่พอไม่เกิน 4,000 บาท ใส่แล้วดูไฮโซ

ส่วนธุรกิจครีม เอ็มก็ลองใช้เอง ปรับพัฒนาสูตรให้เข้ากับคนไทย ทว่า ในอนาคตก็คงจะหนีไม่พ้นทำธุรกิจความงามอีกเพราะผู้หญิงกับความงามเป็นของคู่กัน ขาดกันไม่ได้ และไม่จบไม่สิ้น เป็นอะไรที่ผู้หญิงยอมจะจ่าย”



ขอบคุณภาพบางส่วนจากอินสตาแกรม @emmeemm และร้าน Peony House @ศาลาแดง ซอย 1 เอื้อเฟื้อสถานที่ถ่ายรูป
* ช่วยคลิก Like ด้วยนะคะ เพื่อเป็นแฟนเพจ Lady Manager รับข่าวสารแซ่บๆ ของผู้หญิงในแวดวงสุขภาพความงาม แฟชั่น และความสัมพันธ์ (**)

 

>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่  http://www.celeb-online.net