By Lady Manager
ประสบการณ์จริงของสาวใหญ่วัย 45 คุณปุ๊ก-ภารุณี มุติวัฒนาสวัสดิ์ เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารแบรนด์สินค้าแฟชั่นแล้ว และอาจารย์พิเศษด้านแฟชั่นให้กับมหาวิทยาลัยชั้นนำหลายแห่ง
ลำพังชีวิตการงานของเธอก็รุ่งเริ่ดอยู่แล้ว หลังจากจบปริญญาตรีในเมืองไทย ไปศึกษาต่างประเทศ ทั้งภาษาจีนแมนดารินที่ไต้หวัน และแฟชั่นดีไซน์ที่ Parsons School of Design ถึงนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา ก็กลับมาทำงานในแวดวงแฟชั่นที่รัก
ขึ้นแท่นผู้บริหารระดับสูงให้กับสินค้าแฟชั่นแบรนด์นอกมากมาย เดินทางไปเมืองนอกเป็นว่าเล่น ดูงานแฟร์บ้าง ดูร้านค้าดูตลาดบ้าง นัดเจรจาธุรกิจบ้าง หรือครั้นอยู่เมืองไทยวันหยุดก็ไม่เคยอยู่กทม. ต้องบินไปตรวจตลาดตาม shop ในห้างยักษ์ต่างตจว.เป็นงานอดิเรก
เชื่อว่าสาวๆ หลายคนคงอิจฉาชีวิตทำงานแสนสนุกสมบุกสมบันของเธอ
แน่นอน คนเราต้องแอบมีมุมนิ่งๆ ของตัวเองบ้างค่ะ
มุมชีวิตส่วนตัวของเธอยิ่งดีงามค่ะ
เพราะนอกจากคุณปุ๊กเป็นคนบ้างานแล้ว เธอยังบ้าพลังชอบเล่นโยคะออกกำลังกายพิลาทีสเป็นชีวิตจิตใจ และบ้าทำบุญด้วยการพาตัวเองไปปฏิบัติธรรมทุกครั้งที่มีโอกาส และกินมังสวิรัติทุกวันพระ
ดูเผินๆ ก็เหมือนชีวิตคนเมืองเกรดบีบวกทั่วไป แต่ทว่าชีวิตเริ่มเปลี่ยนไปหลังจากเธอตัดสินใจไม่กินเนื้อสัตว์เลยตลอด 3-4 ปีที่ผ่านมานี้
มีอะไรเปลี่ยนแปลงในชีวิตเธอบ้าง? เลดี้ฯ ไปคุยกับเธอค่ะ
กินมังสวิรัติทุกวันพระ ไม่พอเหรอคะ
“มีคนทักให้กินมังสวิรัติทุกวันพระ ก็ทำแบบนั้นมา 10 ปีแล้ว แต่มีความรู้สึกว่าทรมาน ต้องคอยดูปฏิทินวันไหนวันพระ หรือวันพระแล้ว เมื่อไรหมดวันสักที คือ อยากกินเนื้อสัตว์ รู้สึกไม่ดีมากเลย
รู้สึกแย่มาก แต่ก็ทำนะ เป็นแบบนั้นตลอด”
จุดเปลี่ยนจากไม่กินเนื้อสัตว์เฉพาะวันพระ แล้วไม่กินเลย มาจากไหน
“มีโอกาสไปอินเดีย ไปเข้าคอร์สฝึกโยคะประมาณ 1 เดือน ซึ่งไม่ได้กินเนื้อสัตว์เลย เค้าให้กินมังสวิรัติ
เป็นมังสวิรัติแบบอินเดีย กินแต่ถั่ว
ตอนอยู่ที่โน่น ก็ยังคิดเดี๋ยวกลับมา ต้องไปกินขนมจีนน้ำยาปูนู่นนี่นั่น พอถึงไทยปั๊บ เครื่องฯลงปุ๊บ เดินผ่านตลาดจะไปซื้อของตักบาตร รู้สึกได้กลิ่นหมูแล้วเหมือนจะอ้วก
ปุ๊กก็ย้อนนึกถึงวันพระที่เราไม่กินเนื้อสัตว์ แล้วเราก็ตั้งตารอให้วันรุ่งขี้นเพื่อจะได้กินเนื้อสัตว์ เราก็เออ ไม่เอา ไม่อยากทำแบบนั้น ไม่อยากมีความรู้สึกอย่างนั้น
เริ่มจากไม่กินเนื้อสัตว์สัก 1 อาทิตย์ก่อน คือ ตอนนั้นรู้สึกเหม็นหมูมากด้วย พอผ่านไป 7 วัน เอ๊ะ ดีอ่ะ กินต่ออีกเดือนล่ะกัน พอครบ 1 เดือน ก็เฮ้ย ทำได้ ไม่กินเลยดีกว่า จึงไม่กินเนื้อสัตว์เลยตั้งแต่นั้นมา”
เหม็นหมูแล้วตัดใจได้เลย! มีแรงบันดาลใจอื่นอีกไหม
“ปุ๊กรักโยคะมาก
คนที่เป็นโยคีส่วนใหญ่จะไม่กินเนื้อสัตว์ โยคีเค้าจะมีหลักของเค้าว่าคล้ายศีลแปด หนึ่งในหลายข้อของเค้าคือ ห้ามฆ่าสัตว์ แต่ไม่ได้บอกว่าไม่ต้องกินเนื้อสัตว์ สถานที่เล่นโยคะที่ดังมากในนิวยอร์คมีคำขวัญประจำเลยว่า ถ้าอยากเป็นโยคีที่ดี ต้องไม่กินเนื้อสัตว์
เวลาเราเล่นโยคะ จะมีท่าก้มตัว เอามือตั้ง ลอยตัวขึ้น เรียกว่า บันดะ (Bandha) ต้องกลั้นหายใจ กลั้นหายใจแบบไม่ตายนะ ท้องต้องเกร็งหมด ไม่งั้นเวลาทำเฮดสแตน (headstand) ตัวมันจะโหลด
เวลาทำแฮดสแตน ตัวจะตรง เพราะเราต้องกำหนดบันดะ เก็บลมในท้อง ต้องไม่มีของที่เน่าเสียอยู่ มันต้องไม่มีเนื้อสัตว์อยู่ เนื้อสัตว์เวลาอยู่ในท้องต้องใช้เวลา 2-3 วันกว่าจะย่อยออกไปจากร่างกาย
เพราะฉะนั้นเมื่อเค้าบอกว่าถ้าอยากเล่นโยคะให้ได้ดี เป็นโยคีที่ดี ต้องไม่กินเนื้อสัตว์ นี่จึงเป็นข้อหนึ่งที่เป็นแรงบันดาลใจ ทำให้ไม่อยากกินเนื้อสัตว์
อีกสิ่งที่เป็นแรงบันดาลใจคือ ชอบไปถือศีลวิปัสสนาบ่อยๆ ไปทีหลายวัน ต้องถือศีลแปด แน่นอนศีลข้อหนึ่งคือ ห้ามฆ่าสัตว์ เค้าบอกว่าถึงเราไม่ได้ฆ่าเอง แต่เราถ้ากิน ก็เหมือนเป็นแรงบันดาลใจให้คนไปฆ่า นี่ก็เป็นอีกส่วนที่ทำให้ไม่อยากกินเนื้อสัตว์”
ช่วงเริ่มไม่กินเนื้อสัตว์ต่อเนื่องจากวันเป็นเดือน มีอาการโหยอ่อนเพลียอะไรไหม
“ในทางกลับกัน เมื่อก่อนตอนยังไม่เป็นมังสวิรัติเต็มตัว นั่งๆ อยู่หน้ามืด เคยขับรถอยู่ตาลาย เฮ้ย ตาลายอ่ะ ต้องหยุด และไปหาหมอ แต่พอไม่กินเนื้อสัตว์ ไม่เคยเป็นเลย
เห็นชอบออกกำลังกายหนักด้วย อย่าง พิลาทีส มีอาการหน้ามืดไหม
“ไม่เลย ตรงกันข้าม กลับออกกำลังได้ดี ตัวไม่หนัก ยกตัวเอง กลับหัวตีลังกาได้สบาย”
ไม่กลัวกินไม่ครบสารอาหารห้าหมู่หรือคะ
“ตอนกินมังฯ ใหม่ๆ ปุ๊กไม่ได้ดูแลเรื่องห้าหมู่ ช่วงแรกนั้นไปบริจาคเลือด เค้าไม่ให้บริจาค เค้าบอกโลหิตจางมาก
ปกติปุ๊กไปบริจาคเลือดประจำ ไม่เคยมีเรื่องโลหิตจาง ทีนี้พอถูกทักปั๊บ เราก็ตกใจ กลับมากินเต้าหู้ ดูแลเรื่องโปรตีน หลังจากนั้นไปบริจาค ก็ไม่มีปัญหา
ยิ่งเราเป็นคนออกกำลังกายหนัก ก็กินโปรตีนเชคบ้างเป็นอาหารเสริม เพื่อช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ”
เวลาออกงานเข้าสังคม หรือไปเมืองนอกอาหารการกินสะดวกหรือคะ
“ปุ๊กเป็นคนประเภทไม่อยากเรื่องมาก เวลาต้องไปกินข้าวกับเพื่อนๆ ก็เขี่ยๆ เอา แต่จริงๆ แล้ว ตอนนี้ทุกร้านอาหารจะมีเมนูมังสวิรัตินะคะ อร่อยด้วย ร้านสะดวกซื้อก็มี รสชาติโอเคเลย
ไปเมืองนอกยิ่งสะดวก อย่าง ในฮ่องกงมีร้านมังสวิรัติเต็มไปหมด ในนิวยอร์คก็เหมือนกัน ไม่ใช่เป็นเทรนด์นะคะ เค้ามีของเคามาตั้งนานแล้ว ตั้งแต่สมัยปุ๊กเรียน ทุกซอยต้องมีร้านอาหารมังสวิรัติหนึ่งร้าน เราทำงานร้านอาหารไทย ทุกร้านที่เราไปทำงานเสิร์ฟ ในเมนูหนึ่งหน้าต้องมีอาหารมังสวิรัติ คนนิยมกินกันมานานแล้ว”
มีแวบๆ รู้สึกอยากกินเนื้อสัตว์บ้างไหม
“ไม่เลย เวลาไปกินข้าวพบปะเพื่อนฝูง เห็นเค้ากินกัน เราก็เฉย ไม่รู้สึกอยากเลย
ปุ๊กไปอินเดียบ่อย เพื่อนที่อินเดียส่วนใหญ่เป็นมังสวิรัติ ก็เคยถามอยากมากินเนื้อสัตว์ไหม เค้าบอกเค้าไม่เคยคิดว่าจะกินหรือไม่กิน แต่ตอนนี้ร่างกายเค้าไม่รับเนื้อสัตว์ เค้าเห็นแล้ว ไม่อยากกิน เคยลองกินแล้วมันกินไม่ได้
ปุ๊กว่าปุ๊กน่าจะประมาณนี้ ไม่ได้ commitment ไม่ได้อธิษฐานอะไรด้วย แต่มันไม่อยากแล้ว วันก่อนไปกินข้าวกับพ่อ พ่อสั่งเต้าหู้ทรงเครื่อง ทางร้านใส่หมูสับมา กินแล้วรู้เลย รู้สึกแหวะ ไม่อยากกิน”
คุณปุ๊กได้รับประโยชน์อะไรบ้างจากการไม่กินเนื้อสัตว์มานานต่อเนื่องหลายปี
“ตั้งแต่ปุ๊กไม่กินเนื้อสัตว์ ทั้งด้านวิทยาศาสตร์ ด้านร่างกายจิตใจ ด้านสภาพแวดล้อม ทุกอย่างดีหมด
ร่างกายปุ๊กสดชื่นขึ้น มีความรู้สึกกระฉับกระเฉงขึ้น ไม่ง่วงเหงาหาวนอน มีแรงมากขึ้น ออกกำลังกายได้มากขึ้น ทำโยคะท่ายากๆ ได้ง่ายขึ้น
ปุ๊กไปหาหมอตรวจสุขภาพประจำทุกปี หมอบอกสุขภาพดีมาก ตรวจลำไส้ด้วย หมอบอกลำไส้สะอาดมาก รู้สึกผิวใสขึ้น อาจเพราะไม่มีของเน่าเสียในร่างกาย
ด้านธรรมะ ก็รู้สึกว่าทำบุญ เราไม่ได้ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต และรู้สึกว่าจิตใจอ่อนโยนขึ้น อย่าง เห็นยุงแต่ก่อน จะตียุง แต่ตั้งแต่ไม่กิน ไม่ตีเลย แค่ปัดๆ คือ มันทำให้เรารู้สึกว่าไม่อยากเบียดเบียนใคร
พออายุมากขึ้น ปุ๊กอยากมีชีวิตสุขสงบ ก็รู้สึกสุขสงบ อยากรูปร่างดี ก็ได้มา อยากร่างกายแข็งแรง ก็แข็งแรงกว่าเมื่อก่อนอีก อยากเล่นโยคะให้ได้ดี ก็เล่นได้หมด สิ่งที่ปุ๊กได้จากการกินมังสวิรัติ มัน complete หมด”
และท้ายสุด คุณปุ๊กฝากบอกถึงคนที่คิดจะตัดใจไม่กินเนื้อสัตว์ หันมากินมังสวิรัติจริงจังว่า
“อยู่ที่ว่าคุณต้องเริ่มรักตัวเองก่อน
ต้องถามตัวเองก่อนว่าจะไม่กินเนื้อสัตว์เพราะอะไร ตามแฟชั่น หรือรู้สึกรักตัวเองแล้ว
และถ้าจะเริ่ม ก็เริ่มเลย ตัดเนื้อสัตว์เลย เหมือนคนเลิกบุหรี่ หักดิบตัดเลิกเลย ปุ๊กเป็นคนสูบบุหรี่มาก่อน พอคิดได้ ก็ตัดเลย
และจะให้ดี ไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ไม่ให้กินอย่างปุ๊ก ไปอยู่สักสัปดาห์ก็ช่วยได้ ปุ๊กมั่นใจถ้าผ่าน 10-15 วันไปได้ มันจะไปได้ยาว
สำคัญ อย่าไปบังคับตัวเอง ถ้ายังอยากกิน ก็กิน แต่ถ้ามันถึงเวลาเหมือนปุ๊ก ที่แค่ได้กลิ่นก็ไม่เอาแล้ว แสดงมันคงถึงเวลาของมันแล้ว”
ขอบคุณ ภาพจาก FB: Pook Parunee และ IG: pookparunee
* ช่วยคลิก Like ด้วยนะคะ เพื่อเป็นแฟนเพจ Lady Manager รับข่าวสารแซ่บๆ ของผู้หญิงในแวดวงสุขภาพความงาม แฟชั่น และความสัมพันธ์ (**)
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
Comments are closed.