ฟาสต์ฟู้ดไม่ได้แย่เสมอไป แต่ต้องมีเคล็ดวิธีกิน?/นพ.กฤษดา ศิรามพุช

โดย นพ.กฤษดา ศิรามพุช

มีคนไข้ท่านหนึ่งเป็นเจ้าของร้านปิ้งย่างประเภทยากินิกุที่โด่งดังในปฐพี ผมได้มีโอกาสชิมก็รู้สึกไม่แปลกใจที่ร้านนี้จะมีทั้งดารา, คนดัง, เซเล็บ, ซุปตาร์ พากันตบเท้าไปกิน ที่ดียิ่งกว่านั้นคือร้านนี้อยู่ในถิ่นใกล้บ้านผมเอง
เวลาได้กินของอร่อยที่กินแล้วสบายใจด้วย ช่างมีความสุขครับ

ผมเองชอบกินอาหารง่ายๆ ที่ไม่ต้องไปเสาะแสวงหาไกลนัก โดยไม่เกี่ยงว่าอาหารนั้นจะต้องสุขภาพจ๋า จะเป็น อาหารฟาสต์ฟู้ด หรือที่ฝรั่งชอบเรียกว่า “คอมฟอร์ท ฟู้ด(Comfor food)” คือ อาหารกินสะดวกเข้าว่าก็ได้ เพราะผมเชื่ออยู่อย่างหนึ่งว่าคนเราไม่ได้อยู่ได้ด้วยการกินผักหลากสีทุกมื้อหรือต้องได้คุณค่าทางโภชนาการครบทุกสารต้านอนุมูลอิสระ

ชีวิตไหนๆ ก็ต้องมีสีสันบ้าง

การกินดีอยู่ดีไม่จำเป็นต้อง “อยู่ในกรอบ” ไร้รสชาติเป็นญาติกระต่ายเพราะกินได้แต่ผัก ซึ่งเรื่องนี้มีตัวอย่างผู้ที่รับประทานทั้งเนื้อและผักที่มีอายุยืนแข็งแรงก็มากมาย แม้แต่ในพระศาสนาก็ไม่เคยบัญญัติไว้ว่าห้ามบริโภคเนื้อสัตว์ ยกเว้นในหมวดที่ต้องห้ามจริงๆ อย่างเนื้อมนุษย์หรือเนื้อสัตว์ป่า ที่ก็ไม่น่าไปหามารับประทานอยู่แล้ว

ดังนั้นการกินให้ดีและมีความสุขด้วยยังมีอยู่ในโลกครับ

อยู่ที่เราเลือกเดินทางสายกลางแห่งโภชเนมัตตัญญุตา หรือบางท่านอาจว่าเป็นการให้รางวัลชีวิตอย่างเหมาะสมก็ได้ เพราะของกินแม้จะเป็นฟาสต์ฟู้ดก็มีส่วนที่ช่วยสุขภาพได้ดังที่ผู้รู้จริงทราบกันดี เช่นเดียวกับกฎโภชนาการที่ทุกท่านทราบดีว่าไม่ให้กินสิ่งใดก็ตามเยอะเกินพอดี

มีวิธีที่ช่วยจับอาหารกินด่วนทั้งหลายมาดูแลสุขภาพให้เหมาะกับแต่ละโรค พร้อมทั้งเทคนิคที่จะช่วยให้กินได้อย่างลดความเสี่ยง “ส่วนเกิน” ทั้งหลายด้วย

ดังต่อไปนี้ครับ

1) แฮมเบอร์เกอร์

ฟาสต์ฟู้ดยอดนิยมที่เด็กชื่นชอบผู้ใหญ่ชื่นชม แต่ก็ระคนไปด้วยความกริ่งเกรงแคลอรีที่จะตามมา

การกินแฮมเบอร์เกอร์จะมีประโยชน์มากถ้าจับคู่เนื้อสัตว์ที่อุดมไปด้วย “ธาตุเหล็ก” กับมะเขือเทศที่เปี่ยมไปด้วย “วิตามินซี” และ “ไลโคปีน”

โดยมีเทคนิคเพิ่มคือ ให้เติมผักใบเขียวให้เยอะแล้วลองใช้ผักกาดแก้วหั่นครึ่งแทนขนมปังก้อนที่มาประกบกัน

2) ฮอทด็อก

อาหารประจำชาติมะกันและชาวนิวยอร์ก นิวยอร์กเกอร์ทั้งหลายภูมิใจกับฮอทด็อกเช่นเดียวกับคนไทยเรายืดอกกับน้ำพริกปลาทู

ฮอทด็อกถือเป็นของกินด่วนที่แคลอรีสูงพอสมควรจากแป้งและไขมันในไส้กรอก ซึ่งการกินให้ดีควรเลือกไส้กรอกที่ไม่สีเข้มไป ไม่ใส่ดินประสิว (ถ้าไม่แน่ใจควรถาม)

ส่วนสิ่งที่ควรใส่คือ หัวหอม, ผักเขียว และมัสตาร์ดที่มาจากเมล็ดมัสตาร์ดมีสารซัลโฟราเฟน แถมไว้นิดว่าฮอทด็อกมักไม่กินคู่ซอสมะเขือเทศครับ

3) เฟรนช์ฟรายด์

ของกินเล่นที่ไม่ร้ายไปเสียทั้งหมดหากรู้จักคุมปริมาณ เพราะมันฝรั่งนอกจากให้พลังงานแล้ว ส่วนของเกลือที่โรยจะช่วยเพิ่ม “โซเดียม” ในท่านที่โซเดียมต่ำในเลือด (Hyponatremia) เช่นผู้สูงวัยหลายท่าน

ส่วนท่านที่มีความดันสูงอยู่ก็ควรให้น้อยลง

ส่วนเด็กๆ ที่ไม่ชอบกินผักถ้าได้กินเฟรนช์ฟรายด์จิ้มซอสมะเขือเทศ ก็จะได้คุณค่าทางอาหารจากซอสนั้นแทนมะเขือเทศสดได้

ให้เคล็ดเล็กๆไว้คือ มันฝรั่งทอดถ้าติดเปลือกได้จะยิ่งดีครับ

4) พิซซ่า

ขอแนะว่าให้เลือกหน้าคลาสสิกและแบบแป้งบาง เพราะพิซซ่าในยุคดั้งเดิมใส่ “เครื่อง” ที่ไม่หนักพลังงานเท่า

เช่น ถ้าเราเลือกกินพิซซ่ามาเกอริต้าที่เริ่มมีครั้งแรกเมื่อศตวรรษก่อน (ปัจจุบันก็ยังมี) ก็จะมีเครื่องปรุงหลักๆ คือ ซอสมะเขือเทศ,ใบโหระพา และมอสซาเรลล่าชีส ที่หลับตานึกถึงสีของทั้ง 3 อย่างก็เห็นภาพธงชาติอิตาลีที่สวยงาม

ส่วนเครื่องปรุงที่ควรใส่นอกจากออริกาโน่ป่นก็คือ “ซอสมะเขือเทศ” ครับ

5) กาแฟสด

เป็น “มื้อเช้า” ของใครหลายคนที่ไม่มีเวลานั่งรับประทาน แต่ถือกาแฟสักแก้วแล้วเดินไปดูดไปได้

เราสามารถใช้เครื่องดื่มนี้เป็นอาหารสุขภาพได้โดยเทคนิคคือ เติมผงโกโก้ลงไปสักนิดหรือสั่งเป็น “มอคค่า” ไปเลยแล้วเลือกไซส์เล็ก

โดยถ้าอยากปรุงให้เด็ดขึ้นลองเหลียวหา “ซินนาม่อน” คือ อบเชยผงมาโรยเติมคุณค่าทางสุขภาพ เพราะอบเชยช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้ครับ

6) ข้าวเหนียวหมูปิ้ง

นี่ก็ถือเป็นฟาสต์ฟู้ดของใครหลายคนรวมถึงผมด้วย

เมนูแบบไทยๆ นี้อุดมแคลอรีไม่แพ้แฮมเบอร์เกอร์หรือไก่ชุบแป้งทอดเลยครับ ลองคิดง่ายๆ ว่าหมูปิ้งที่อร่อยเด็ดต้อง “ติดมัน” ซึ่งนั่นเพิ่มพลังงานขึ้นมาอีกมหาศาล แล้วยังได้ข้าวเหนียวมาเป็นมวยถูกคู่กันอีก

มีเทคนิคคือ ให้เลือกหมูที่ไม่ติดมัน,ไม่ติดไหม้ และต้องไม่หนักน้ำจิ้มมากไปครับ

ส่วนข้าวเหนียวถ้ากลัวไม่อิ่ม ขอให้เลือกข้าวเหนียวดำ และดื่มน้ำตามไปจะช่วยได้ครับ

เลือกมาฝากพอหอมปากหอมคอ แต่เขียนไปก็หิวไป(แหะ แหะ) เพราะตัวผมเองก็อยู่กับอาหารที่กินง่ายใส่ปากสะดวกดังว่าครับ เลยพอจะเข้าใจท่านที่ต้องพึ่งอาหารกินเร็วอยู่เป็นประจำ หรือคุณพ่อคุณแม่ที่มีเด็กๆ ชอบอาหารฟาสต์ฟู้ดกินสนุก

ของกินจำพวกคอมฟอร์ทฟู้ดที่ว่าถ้ารับประทานอย่างพอเหมาะพอควร กินเป็นครั้งคราวนานๆ ทีและมีความเข้าใจว่ามันก็มีคุณค่าทางอาหารช่วยเราได้ ทั้งหมดนี้จะทำให้ท่านมีความสุขในชีวิต ไม่ว่าจะวันครอบครัว, สังสรรค์ หรือวัน Cheat day หลังจากจำกัดตัวเองอยู่กับอาหารสุขภาพมานาน ซึ่งขอย้ำอีกทีว่ากินในปริมาณพอเหมาะด้วยนะครับ

เพราะถ้ากินเยอะ ก็อ้วนแยะได้ครับ(แฮ่)
* ช่วยคลิก Like ด้วยนะคะ เพื่อเป็นแฟนเพจ Lady Manager รับข่าวสารแซ่บๆ ของผู้หญิงในแวดวงสุขภาพความงาม แฟชั่น และความสัมพันธ์ (**)

 
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่  http://www.celeb-online.net