ร่องตาลึก แลดูแก่ อิดโรย! ฉีดไขมันแก้ปัญหาตอบโจทย์สุด แต่ต้องคำนึง?

By Lady Manager

อีกปัญหาความงามที่สาวๆ กังวลคือ ร่องตาลึก หรือ เบ้าตาลึก นอกจากทำให้ดูแก่กว่าวัยแล้ว ยังแลดูเศร้า ไม่สดใส อิดโรย ชีวิตเหนื่อยเหลือเกิน เรียกว่าโหงวเฮ้งไม่รุ่งเอาซะเลย

สาวหลายคนเสียความมั่นใจ ออกไปข้างนอกจะสบตาสนทนากับใครก็ไม่กล้า ไร้บุคลิกภาพที่ดี

สาเหตุร่องตาลึก บุ๋มล่างโบ๋บน

“เกิดจากหลายปัจจัย” นพ.ธันยพงษ์ เตชะวัฒนากูล แพทย์ศัลยกรรมตกแต่ง Plastic Surgeon เดอมาสเตอร์ (Dermaster) สถาบันความงามและสุขภาพครบวงจร บอกสาเหตุ

“ส่วนหนึ่งคือ กรรมพันธุ์” แต่ถือว่าเป็นส่วนน้อยมาก

“เวลาก็มีส่วน พฤติกรรมทั้งกายทั้งใจ ใช้ร่างกายสมบุกสมบันเกินไป ใจคือ มีความเครียด สภาพแวดล้อม แสงแดด มลพิษต่างๆ ทำให้เซลล์เสื่อมสภาพ”

ส่วนใหญ่พบปัญหาผิวหนังรอบดวงตาบุ๋มโบ๋ในกลุ่มผู้สูงวัย เพราะไขมันบริเวณใต้ตาเริ่มฝ่อตัวลงตามตัวเลขอายุที่มากขึ้น รวมทั้งกลุ่มคนที่ผ่านการทำศัลยกรรมผ่าตัดถุงใต้ตาและตัดแต่งเปลือกตาบนมาก่อน เพราะอาจดึงเอาไขมันออกมากเกินไป

หลากหลายวิธีแก้ ชั่วคราวแถมผลข้างเคียง

ปัจจุบันนี้มีหลายวิธีแก้ค่ะ เริ่มตั้งแต่ปัดอายแชโดว์ลงไฮไลท์เพิ่มโหนกคัดเบ้า ยิ่งตอนนี้ฮิตดินสอเขียนขอบตาสีขาว ยิ่งเสริมทัพตัวช่วยอำพรางรอยบุ๋มให้ดูนูนขึ้นขาววิ๊งทันที, แผ่นแปะใต้ตาที่สาวเกาหลีญี่ปุ่นนิยมติดให้สวยตุ่ยตายิ้ม แบ๊วน่ารักเหมือนเด็กสดใส กระทั่งฉีดฟิลเลอร์

“ผิวบริเวณตาบาง ไม่ค่อยมีคนกล้าฉีด” คุณหมอธันยพงษ์ เตือนคนที่กล้าฉีดฟิลเลอร์ หรือสารเติมเต็ม ให้ตระหนักข้อเสีย

“ฟิลเลอร์มีหลายแบบ มีแบบที่ไม่ละลาย ไม่ไหลไปไหน แต่จะเป็นคลื่น ส่วนแบบที่ละลายก็จะไหลได้”

ปกติ ฟิลเลอร์จะอยู่ได้ยาวนานมากที่สุดไม่เกิน 8 เดือน และต้องฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ มิฉะนั้นอาจเกิดผลข้างเคียง เบาสุดคือ รอยนูนรอยช้ำ หนักสุดก็ตาบอด เนื่องจากอนุภาคของฟิลเลอร์หลุดลอดเข้าเส้นเลือดที่ตา

“หรือใช้แบบคอลลาเจน เป็นโปรตีนที่สลายได้” คุณหมอธันยพงษ์บอก 6 เดือนฉีดทีก็ได้ แต่ปัญหาคือ คอลลาเจนเคลื่อนที่ผิดตำแหน่งได้น่ะสิ ดังนั้นจึงไม่แนะนำ

ศัลยกรรมใช้ไขมันตัวเอง ตอบโจทย์สุด

“ใช้ไขมันตัวเอง ไม่มีอันตรายใดๆ เลย” คุณหมอธันยพงษ์ ฟันธง

นอกจากไม่ทำให้เกิดผลกระทบ อาการแพ้ใดๆ แล้ว เซลล์ไขมันยังเข้าถึงเนื้อเยื่อภายใน ก่อให้ผิวกระชับเรียบเนียน ไม่เป็นคลื่น

“ข้อควรคำนึงคือ มีโอกาสสลาย เพราะไขมันทุกที่มีเพิ่มมีลดอยู่แล้ว พึงสำนึกไว้ว่ายังไงมันย่อมมีการเปลี่ยนแปลง แต่ยังคงสภาพอยู่ ไม่เหมือนฟิลเลอร์ หมดแล้วหมดเลย” คุณหมอธันยพงษ์ เผยข้อเท็จจริง

“ต้องดูคนไข้แต่ละคนด้วย บางคนไขมันเกิน บางคนกล้ามเนื้อหย่อน บางคนไขมันหย่อน บางคนไขมันตาล่างขาดก็มีนะครับ

บางคนไขมันตาบนขาด เหมือนคนอดนอน ก็ย้ายเอาไขมันตาล่างขึ้นไป บางคนไม่มีตรงไหนเหลือเลย ก็เอามาจากที่อื่น อย่างพุง ปกติจะเอาตรงพุงของตัวเอง เพราะส่วนใหญ่ทุกคนต้องมีอยู่แล้วไม่มากก็น้อย” คุณหมอธันยพงษ์ เล่าถึงเทคนิคการย้ายไขมัน

“มีหลายวิธี อย่างย้ายไขมันแบบไม่มีขั้วเส้นเลือดมาเลยมาใส่ ก็จะฝ่อได้บ้าง โอกาสสลาย 30-50% เราก็จะเผื่อสักหน่อยสักปริมาณหนึ่ง สาเหตุที่ฝ่อเพราะไม่มีเลือดเลี้ยง แต่ถ้าย้ายมาโดยมีขั้วเส้นเลือดติดมาด้วย เอาหลอดเลือดไปด้วย ไขมันจะยืดได้ และอยู่คงสภาพมากกว่า

สมมุติเอามาจากพุง นิสัยมันก็จะเหมือนกับไขมันตรงพุง แต่ไม่มากขนาดเยอะอูม เพราะเอามาไม่เยอะ

ไขมันแต่ละที่ตอบสนองต่อฮอร์โมนไม่เหมือนกัน พออายุมากขึ้น ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง ไขมันจะกองอยู่ข้างล่าง ฉะนั้นพอเอาไขมันจากพุงมาใส่ตรงตา มันก็จะยังคงนิสัยแบบนั้นอยู่บ้าง มีนิสัยตอบสนองแบบไขมันที่พุงอยู่ เป็นนิสัยเซลล์จากปัจจัยฮอร์โมน”

แน่นอน การเติมไขมันบริเวณเบ้าตา ซึ่งเป็นอวัยวะที่มีความอ่อนไหวมาก และหากเติมผิดตำแหน่ง ก็อาจเกิดเป็นลำหรือก้อนที่หนังตาได้ ดังนั้นศัลยแพทย์ต้องมีทักษะความชำนาญเป็นอย่างยิ่ง

สาวไหนที่มีปัญหาร่องตาลึก ควรหาข้อมูลประวัติผลงานของแพทย์และคุณภาพมาตรฐานของสถานที่ประกอบการ ก่อนตัดสินใจด้วยนะคะ
* ช่วยคลิก Like ด้วยนะคะ เพื่อเป็นแฟนเพจ Lady Manager รับข่าวสารแซ่บๆ ของผู้หญิงในแวดวงสุขภาพความงาม แฟชั่น และความสัมพันธ์ (**)

 
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่  http://www.celeb-online.net