Advice

สลายไขมันสไตล์เวชศาสตร์ชะลอวัย นอนชิลๆ ไม่เจ็บ ไม่อันตราย ผลพลอยได้เลอค่าอีกเพียบ

Pinterest LinkedIn Tumblr

By Lady Manager

หลายคนถามมาถึง วิธีการสลายไขมันลดความอ้วนในแบบ Anti-aging ซึ่งเป็นศาสตร์ด้านการชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพว่าเป็นอย่างไร ใช้เวลานานไหม และที่สำคัญ ได้ผลจริงไหม

“ต้องใช้เวลาและปรับวิถีชีวิตควบคู่ด้วย ผลลัพธ์นอกจากเรื่องเผาผลาญดีขึ้น สุขภาพด้านอื่นก็ได้รับการฟื้นฟูไปด้วย” นพ.ศุภโชค มหาสุคนธ์ แพทย์ประจำ เดอมาสเตอร์ (Dermaster) สถาบันความงามและสุขภาพชั้นนำ บอกกับเลดี้ แมเนเจอร์ ว่าถ้าทางสายบิวตี้ ใช้วิธีดูดไขมันสลายไขมัน เห็นผลเร็ว แต่มีความเสี่ยงสูง แถมยังไม่ได้แก้ที่ต้นเหตุ

“แต่สาย Anti-aging มีเทคนิคที่แตกต่างกัน”

เป็นกรรมวิธี Fat Burn Treatment ซึ่งคุณหมอศุภโชค ไล่เรียงอธิบายดังนี้ค่ะ

“กรรมวิธีแรก ให้ IV เข้าทางเส้นเลือด” ที่สาวเราคุ้นกันดีว่า ให้วิตามิน ไปนอนฉีดวิตามินแล้วผิวสวย

“ผิวสวยน่ะเป็นผลพลอยได้ แต่จริงๆ แล้ว ยังสามารถช่วยสุขภาพได้เยอะ

เป็นวิตามินช่วยเพิ่มการเผาผลาญ ซึ่งมีหลายสูตร แต่ละสูตรไม่ได้ช่วยเผาผลาญอย่างเดียว แต่ละสูตรของวิตามินยังมี function หลายอย่าง พอให้ไปแล้วนอกจากเผาผลาญไขมันได้ ยังช่วยลดอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความเสื่อมของตับความเสื่อมของเส้นเลือด ช่วยปกป้องความเสี่ยงอีกหลายสิบโรคในอนาคต”

คุณหมอบอกว่าจุดเด่นของแต่ละสูตรต่างกัน

“ถ้าคนเป็นเบาหวานมา ก็ใช้สูตรเน้นเผาผลาญน้ำตาลเป็นหลัก ถ้าคอเลสเตอรอลสูง ต้องใช้อีกสูตร หมอจะคอยดูผลและคอยปรับเปลี่ยนสูตร”

การให้ IV หรือวิตามินเข้าทางเส้นเลือดแต่ละครั้งใช้เวลา 1-2 ชม.แล้วแต่สูตร

“วิตามินฉีดก็จะได้ผลเร็วกว่าวิตามินทาน แต่คนเราคงไม่สามารถมานอนฉีดวิตามินได้ทุกวัน

สำหรับคนที่ต้องการผลต่อเนื่อง ก็ควรนำวิตามินไปทานที่บ้านด้วย แล้วค่อยมาพบหมอตามนัดสัปดาห์ละครั้ง หรือสองครั้ง โดยบริหารการทานวิตามินเองที่บ้านร่วมด้วย”

กรรมวิธีที่2 โอโซนบำบัด (Ozone Therapy) อันเป็นศาสตร์การแพทย์แผนยุโรปที่มีการใช้มานานกว่า 50 ปี เป็นที่ยอมรับและแพร่หลายทั้งในเยอรมัน รัสเซีย อเมริกา และคิวบา นำไปใช้ในการรักษา ฟื้นฟูร่างกาย ด้วยการฟอกเลือดกับโอโซนบริสุทธิ์ทางการแพทย์ (Medical Ozone Grade)

“เป็นเทคนิคที่นำเลือดออกมา คล้ายบริจาคเลือด โดยเปิดเส้นเลือดไว้ เลือดจะออกมาประมาณ 200 ซีซี หลังจากนั้นก็จะเติมโอโซนเข้าผสมกับเลือดในขวดนอกร่างกาย สักพักเลือดก็จะเปลี่ยนสีเป็นแดงสดขึ้น นั่นคือมีโอโซนเข้าไปแล้ว ก็จะฉีดกลับเข้าไปเส้นเลือดเดิมที่เปิดคาไว้อยู่ คือ จะมีเลือดเข้าเลือดออก

คุณหมอบอกว่าจะนอนมองเห็นเลือดตัวเองเลย ขาออกสีเข้มหนืด ขาเข้าสีแดงสด

“เป็นการปรับสภาพให้เซลล์ในร่างกายที่รับเลือดนี้ทำงานดีขึ้น สมองสดใส ตับก็จะเร่งการเผาผลาญ ขับพิษได้ดีขึ้น ขจัดไขมันได้ดีขึ้น เส้นเลือดมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ลดการตีบตันของเส้นเลือดหัวใจ ช่วยป้องกันเรื่องโรคหัวใจในอนาคต โดยเฉพาะคนที่มีประวัติว่าคนในครอบครัวเป็นโรคหัวใจต้องทำบอลลูนต้องทำบายพาสควรมาเลย
และเรื่องภูมิคุ้มกัน เพราะตัวโอโซนพอเข้าไปมันจะกระตุ้นเม็ดเลือดขาว ทำให้ภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้น คนที่เป็นภูมิแพ้ผื่นแพ้ แพ้อากาศแพ้สารเคมี ทำโอโซนแล้วจะดีขึ้น”

แถมยังทำให้ผิวพรรณผ่องใส เพิ่มประสิทธิภาพการต้านอนุมูลอิสระของเซลล์ ช่วยชะลอวัยได้ด้วยล่ะ

“เทคนิคนี้ทำไม่เกิน 45 นาที ในช่วงแรกๆ สำหรับคนที่ไม่เคยทำเลย ควรทำสัปดาห์ละครั้ง เป็นเวลาต่อเนื่อง 5 สัปดาห์ เมื่อร่างกายเริ่มอยู่ตัวดีขึ้น จากนั้น 2-3 สัปดาห์ค่อยทำสักครั้งก็ได้ ทำได้เรื่อยๆ ไม่มี limit ว่าต้องกี่ครั้งจบ มันเป็นการบำรุงภายใน”

ทั้งนี้คุณหมอศุภโชคไม่แนะนำคนเป็นไทรอยด์สูงความดันโลหิตสูงระดับคุมไม่อยู่ เพราะจะทำให้ระบบเผาผลาญมากเกินไป

“หมอต้องตรวจเช็คสภาวะของคนไข้ก่อนว่าพร้อมหรือเปล่า ถ้าพร้อมนะครับ จะชอบประทับใจมาก ผมรักษาคนไข้จำนวนมากด้วยวิธีนี้ ทุกคนบอกทำแล้วรู้สึกสดชื่น ไม่เพลียง่าย มีพลังสมาธิในการทำงานมากขึ้น”

ต่อไปคือ อินฟาเรด ซาวน่า (Infrared Sauna Bed) คล้ายกระโจม โดยนอนบนเตียง คลุมตั้งแต่คอถึงเท้า

“ภายในนั้นแผ่คลื่นอินฟราเรดลงไป พอคลื่นนี้จะเข้าสู่ผิวหนัง อันดับแรกช่วยเผาผลาญไขมันแน่นอน กระตุ้นรูขุมขน กระตุ้นเลือดลม โดยเฉพาะคนขี้หนาวจะเหมาะ เพราะพอเลือด flow ดี เหงื่อออกดี ก็จะสบายตัวขึ้น และขับน้ำส่วนเกินด้วย

บางคนบอกทานไม่เยอะ ทำไมยังดูบวมฉุ นั่นเพราะมันไปอยู่ผิดที่ผิดทาง ฉะนั้นอินฟราเรดซาวน่าจะช่วยขับน้ำเสียพวกนี้ออก”

คุณหมอยืนยันว่า การนอนซาวน่าด้วยคลื่นอินฟราเรดจะสบายๆ ไม่รู้สึกเหมือนถูกปิ้ง ร้อนแห้งเหมือนอยู่ในห้องอบซาวน่าทั่วไป

“99% ทำแล้วจะชอบ บอกทำแล้วอุ่น เลือดลมพรั่งพรู ทำได้ทุกวัน ก่อนทำดื่มน้ำเยอะๆ พอทำเสร็จก็ดื่มน้ำตามอีกเยอะๆ”

แล้วคุณหมอศุภโชคจะทำการฝังเข็ม ณ จุดกระตุ้นเลือดลมเพิ่มประสิทธิภาพการเผาผลาญ เสริมทัพทรีตเมนต์สลายไขมันสไตล์ Anti-aging ด้วยค่ะ

“ผมจะแนะนำคนไข้ให้ปรับไลฟ์สไตล์ด้วยครับ อย่างการนอน ช่วง 5 ทุ่มถึงตี 3 เวลาทองเลย ต้องหลับให้สนิท, การดื่มน้ำ ควรเป็นน้ำอุ่นอุณหภูมิปกติ, มื้ออาหาร ตอนเช้าสำคัญมาก และออกกำลังกาย พวกคาร์ดิโอ วิ่ง เดิน ปั่นจักรยาน ทำควบคู่ไปด้วยครับ”
* ช่วยคลิก Like ด้วยนะคะ เพื่อเป็นแฟนเพจ Lady Manager รับข่าวสารแซ่บๆ ของผู้หญิงในแวดวงสุขภาพความงาม แฟชั่น และความสัมพันธ์ (**)

 
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่  http://www.celeb-online.net
 

Comments are closed.

Pin It