เดี๋ยวนี้เทรนด์ความงามแบบไม่ต้องพึ่งมีดหมอและไม่เจ็บตัวมาแรงมาก หนุ่มๆ สาวๆ จึงหันไปเติมและลบจุดบกพร่อง ของใบหน้าตัวเองกันง่ายๆ แถมยังไม่เวลาไม่กี่นาที ก็ได้ใบหน้าสวยเด้งแล้ว ล่าสุด นวัตกรรม Electrical Therapy ถูกนำมาใช้ในวงการความงามแล้ว
ก่อนอื่นมาทำความรู้จัก Electrical Therapy กันก่อนว่ามีความเป็นมาอย่างไร คุณหมออรัญ ร่วมเผ่าไทย กรรมการผู้จัดการและผู้ก่อตั้ง beauté équilibrée medical spa ผู้นำศาสตร์ความงามแบบไม่เจ็บตัวนี้มาให้บริการ เล่าว่า ศาสตร์นี้เริ่มมีบทบาทสำคัญในวงการแพทย์มาตั้งแต่ ในปี คศ.1701 โดย Luigi Galvani ค้นพบว่า การใช้ไฟฟ้าสามารถกระตุ้นให้มีการหดและคลายตัวของกล้ามเนื้อ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของกล้ามเนื้อ เส้นประสาท ระบบหลอดเลือดและน้ำเหลือง
ช่วงแรกได้มีการนำ Electrical Therapy มาใช้ในการทำกายภาพบำบัด โดยนำเครื่องมือปล่อยกระแสไฟฟ้ามาใช้กระตุ้นกล้ามเนื้อ เพื่อฟื้นฟูกล้ามเนื้อที่บาดเจ็บและนำมาใช้ในวงการกีฬา ในการสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อ ต่อมาจึงเริ่มนำมาใช้กับแวดวงความสวยความงาม ที่เรียกว่า Electrical Treatment ซึ่งไม่ใช่การทำเลเซอร์แต่เป็นการกระตุ้นผิวด้วยไฟฟ้าที่มีความร้อนเพียง 40-42 องศาเซลเซียส ขณะที่อุณหภูมิปกติของร่างกายคนเราคือ 37 องศาเซลเซียส ดังนั้นจึงแค่รู้สึกอุ่นๆ ไม่รู้สึกเจ็บและไม่ทำให้ผิวเสียหาย
Electrical Treatment ถูกนำมาใช้ในการทำกายภาพบำบัดมานานกว่า 40 ปี จึงมีความน่าเชื่อและมั่นใจได้ว่า ปลอดภัยต่อร่างกายและผิวพรรณ ซึ่งเป็นการใช้กระแสไฟฟ้ามากระตุ้นกล้ามเนื้อเพื่อยกกระชับใบหน้า ลดเลือนริ้วรอย และเป็นเครื่องมือในการผลักวิตามินหรือยาลงสู่ผิวชั้นลึกอย่างที่ทาครีมบำรุงผิวทั่วไปทำไม่ได้
คุณหมออรัญ กล่าวเสริมว่า “เครื่องมือใดๆก็ล้วนแต่มีข้อดีและข้อเสียทั้งสิ้น บางอย่างได้ผลดีแต่มีผลข้างเคียงมาก บางอย่างหลังการรักษาต้องการการดูแลเป็นพิเศษ บางอย่างมีผลข้างเคียงน้อยแต่ผลที่ได้ไม่ดีนัก ดังนั้นการที่เรารู้ว่าเราต้องการอะไร และเลือกเทคนิค ผู้เชี่ยวชาญ และเทคโนโลยีที่เหมาะสมจะทำให้เราได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ โดยเฉพาะเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาจากเครื่องมือทางการแพทย์มาสู่เครื่องมือที่ใช้ในการชะลอวัย ที่เรียกว่า Electrical Treatment เป็นเทคโนโลยีที่ทำให้คำว่า อยากสวยต้องทนเจ็บ ล้าสมัยไปเลย ซึ่งประเทศที่พัฒนาเทคโนโลยีนี้อย่างต่อเนื่องคือ ญี่ปุ่น และเกาหลี โดยเครื่องมือนี้จะให้ผลอย่างที่เราต้องการคือ สวย หล่อ อย่างรวดเร็วและยั่งยืน สำหรับผลที่เห็นได้ทันทีคือเรื่องของ การปรับสภาพผิว ความสม่ำเสมอของสีผิว การยกกระชับ และปรับรูปหน้า ซึ่งสามารถเห็นผลได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ”
สำหรับผลที่ได้จากการทำ Electrical Treatment นั้น จะช่วยกระตุ้นความสามารถในการขจัดของเสียออกจากผิว กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด เพื่อส่งเสริมการสร้างคอลลาเจน ทำให้ริ้วรอยลดลง ผิวกระชับ กระจ่างใสได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว โดยที่ไม่ต้องเจ็บตัว ไม่มีผลข้างเคียง ไม่ต้องการการดูแลมากเป็นพิเศษหลังจากการทำทรีทเม้นท์ กล่าวได้ว่า นี่เป็นทางเลือกใหม่ทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจเพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของหนุ่มๆ สาวๆ ยุคนี้
ส่วนใครที่ต้องการนวดผิวที่บ้าน คุณหมอก็มีคำแนะนำและวิธีกดจุดบำบัดบนใบหน้าด้วยตัวเอง 9 จุด เพื่อผ่อนคลายความตึงเครียด ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและขับของเสียออกจากผิว เป็นการปรับสมดุลทั้งระบบน้ำเหลืองและการไหลเวียนโลหิต ทำให้ผิวพรรณกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ สวยมาจากภายใน เคล็บลับคือ ควรกดให้มีน้ำหนักมือจนรู้สึกสบาย นับ 1-3 แล้วค่อยๆ ผ่อนมือเบาๆ
ขั้นตอนการกดจุด
1.นิ้วโป้งทั้งสองข้างกดใต้คาง ใช้นิ้วกลางกดบริเวณคางใต้ปาก
2.นิ้วโป้งทั้งสองข้างกดใต้คาง ใช้นิ้วกลางยังคงกดบริเวณคางใต้ปาก แต่ขยับห่างออกจากกัน 1 ซม.
3.นิ้วโป้งทั้งสองข้างกดใต้คาง ใช้นิ้วกลางกดมุมปาก
4.นิ้วโป้งทั้งสองข้างกดใต้คาง ใช้นิ้วกลางกดบริเวณปีกจมูก ช่วยในเรื่องการยกกระชับร่องแก้มด้วย
5.นิ้วโป้งทั้งสองข้างกดใต้คาง ใช้นิ้วกลางกดกลางจมูก
6.นิ้วโป้งทั้งสองข้างกดใต้คาง ใช้นิ้วกลางกดใต้ตาเล็กน้อย
7.นิ้วกลางเลื่อนไปกดที่หัวคิ้ว ใช้นิ้วโป้งเลื่อนไปกดที่ขมับ
8.นิ้วกลางกดกลางหน้าผาก ใช้นิ้วโป้งยังคงกดอยู่ที่ขมับ
นิ้วกลางเลื่อนไปกดที่โคนผม โดยนิ้วโป้งยังคงกดอยู่ที่ขมับ
ผู้สนใจ สอบถามรายละเอียดได้ที่ beauté équilibrée medical spa (โบเต้ อิคิวลิเบร่ เมดิคัล สปา) โทร: 02-638 3349, 082-002 1555
Text by เอเอสทีวี ผู้จัดการรายวัน: สังคม-สตรี
>> อัปเดตข่าวในแวดวงสังคม กอสซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
Comments are closed.