Travel

Sala Arun บ้านที่อบอุ่นริมเจ้าพระยา

Pinterest LinkedIn Tumblr


แทบไม่น่าเชื่อว่า แถวถนนมหาราช หรือที่เรียกกันว่าชุมชนเก่าแก่ท่าเตียน จะมีบูติกโฮเต็ลเก๋ๆ ซ่อนอยู่ ในชื่อSara Arun ที่น่าสนใจ เพราะโรงแรมเล็กๆ แห่งนี้ นอกจากจะตั้งอยู่ทำเลดีสามารถมองเห็นพระปรางค์วัดอรุณแบบพานอรามาแล้ว ยังนับเป็นโรงแรมที่ตกแต่งภายในได้น่ารัก ชนิดที่เรียกว่า ใครเข้ามาเยือนแล้วรับรองว่าจะต้องหลงรักขึ้นมาทันที
Sara Arun ซึ่งเป็นที่พักน้องใหม่ในเครือเดียวกันกับ “อรุณ เรสซิเด้นท์” ที่ตั้งอยู่ในซอยประตูนกยูง ห่างกันเพียงซอยถัดไปเท่านั้น โดยมีเจ้าของกลุ่มเดียวกันหนึ่งในนั้นคือ คุณหมอปิยะนุช รักพาณิชย์ ซึ่งเล่าว่าหลังจากทำอรุณ เรสซิเด้นท์ ประสบความสำเร็จแล้ว โชคดีที่ได้ตึกเก่าแก่อายุประมาณ 40 ปี ซึ่งอยู่ถัดมาอีกซอย เป็นตึกแถว 4 ชั้น 2 ห้อง และที่พิเศษคือเป็นตึกขวางที่ขนานไปกับแม่น้ำเจ้าพระยา

จากตึกแถวเก่าๆ ซึ่งมีพื้นที่จำกัดอินทีเรียคนเก่งอย่าง ติ๋ว-ชวลิต ชววรรณ ซึ่งตกแต่งโดยเน้นงานไม้และกระเบื้องเป็นหลัก แต่สามารถทำให้สถานที่แห่งนี้มีชีวิตขึ้นมาได้ ประตูไม้บานใหญ่ที่นำจากของเก่ามาทำเป็นประตูทางเข้าโรงแรม ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังเดินทางเข้าไปสู่อีกโลกหนึ่งที่หลบพ้นความวุ่นวาย
ด้วยเจ้าของเป็นคนชอบเดินทางอยู่ตลอดเวลา จึงซื้อเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งชิ้นน่ารักทั้งของเมืองไทยและต่างประเทศ มาตกแต่งโรงแรมเล็กๆ แห่งนี้ ถ้าถามว่าสไตล์การตกแต่งเป็นแบบไหน คงตอบยาก มองไปรู้แต่ว่าเป็นการผสมผสานระหว่างตะวันออกกับตะวันตก แต่ที่สุดแล้วใครที่มาสัมผัสกับโรงแรมแห่งนี้ จะบอกได้คำเดียวว่า เหมือนอยู่ในบ้านของตัวเอง และนั่นคือความต้องการของคุณหมอนุช ที่ไม่อยากให้รู้สึกว่ามาอยู่โรงแรม
คุณหมอปิยะนุช รักพาณิชย์ หนึ่งในเจ้าของโรงแรมน่ารักแห่งนี้
Sara Arun มี 7 ห้องพัก (ราคาคืนละ 3,500 บาท+อาหารเช้า) ซึ่งตั้งชื่อตามเมืองหลวงของแต่ละยุค และอีก 1 สวีท ที่ใช้ชื่อว่า “ศาลาอรุณสวีท” ราคาคืนละ 6,500 บาทสุทธิ เฉพาะห้องสวีตนั้น จะใช้พื้นทั้งหมดของชั้น 4 ดังนั้น แขกที่มาพัก จะได้เห็นความงามในมุมที่สวยที่สุดของท่าเตียนทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นระเบียบส่วนตัวที่หันหน้าไปทางด้านแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งฝั่งตรงข้ามคือ พระปรางค์วัดอรุณ มีชิงช้าไม้ขนาดใหญ่ตรงระเบียงไว้ให้แขกนั่งเล่นยามเย็น เพื่อดูพระอาทิตย์ตกหลังพระปรางค์ อันเป็นช่วงเวลาที่แสนจะโรแมนติก ไม่เท่านั้น ภายในห้องยังมีเตียงนอนขนาดใหญ่ที่เจ้าของห้องสามารถมองดูวิวพระปรางค์วัดอรุณได้ตลอดเวลา
ส่วนอีกฝั่งของห้องสวีท หันไปทางวัดโพธิ์ท่าเตียน ซึ่งฝาผนังด้านหนึ่งของห้องน้ำจะติดกระจกบานใหญ่เพื่อให้สามารถนั่งมองพระเจดีย์ของวัดโพธิ์ในตอนกลางคืน ที่ต้องแสงไฟสว่างไสว กลายเป็นภาพที่งดงามอย่างน่าอัศจรรย์จริงๆ

แต่ละห้องพักนอกจากจะมีสิ่งอำนวยความสะดวก ตามมาตรฐานโรงแรมทั่วไปแล้ว ที่มากไปกว่านั้นคือ ทุกห้องจะถูกตกแต่งด้วยสิ่งละอันพันละน้อย ที่ล้วนเก๋ไก๋น่ารักจนต้องยอมรับว่าเจ้าของโรงแรมเป็นคนมีรสนิยมในการตกแต่งที่ไม่เหมือนใครที่สามารถทำให้รู้สึกเหมือนอยู่บ้านมากกว่าอยู่โรงแรม และหลายครั้งที่ของตกแต่งเหล่านี้โดนใจจนลูกค้าต้องเอ่ยปากขอซื้อกลับไปเป็นที่ระลึก
ที่แปลกคือ ใครที่มาพักจะได้กุญแจ 2 ดอก ดอกแรกเป็นกุญแจเปิดห้องพัก ส่วนอีกดอกเป็นกุญแจเปิดประตูทางเข้าโรงแรมหลัง 3 ทุ่มไปแล้ว โรงแรมจะไม่มีเจ้าหน้าที่ให้บริการ แขกที่พักจึงต้องติดกุญแจหน้าประตูเอาไว้ด้วย
ระเบียงด้านนอกของห้อง“ศาลาอรุณสวีท”
นอกจากจะได้มาสัมผัสกับความสงบร่มรื่นของห้องพักแล้ว ที่นี่ยังใกล้วัดและวังอีกด้วย จึงเป็นโอกาสดีสำหรับแขกที่จะได้สัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ เช่นตื่นนอนตอนเช้ามาตักบาตรที่ริมถนน ซึ่งจะมีพระจากวัดโพธิ์และวัดราชบพิตรเดินมารับบาตร และหลังจากรับประทานอาหารเช้าแล้วไปเดินเล่นที่ตลาดท่าเตียน ซึ่งเป็นตลาดเก่าแก่ ซึ่งเคยเป็นศูนย์การค้าขายมาตั้งแต่ยุคต้นกรุงรัตนโกสินทร์ หรือจะเดินเลยไปหาของกินที่ท่าพระจันทร์ และแวะไหว้พระที่วัดพระแก้ว ก็หมดไปหนึ่งวันแล้ว
สุดสัปดาห์นี้ ใครยาอกจะไปสัมผัสกับประสบการณ์แปลกใหม่ ที่โรงแรม Sara Arun โทร.ไปจองห้องพักได้ที่ 0-2622-2933
มุมด้านในห้องสวีทที่สามารถมองออกไปเห็นพระปรางค์วัดอรุณได้เต็ม ๆ ตา
อีกมุมหนึ่งของห้องน้ำที่สามารถมองออกไปเห็นพระเจดีย์ของวัดโพธิ์ได้งดงามยิ่ง
โมบายสีสันสดใสที่เจ้าของหิ้วมาจากโมรอกโก
มุมเล็ก ๆ ในห้องรับแขก
ตู้ไม้เก่า ๆ ใบนี้เพิ่มเสน่ห์มนตร์ขลังในการตกแต่ง
ในลอบบี้เล็ก ๆ มีมุมสำหรับให้ลูกค้านั่งอ่านหนังสือและเล่นwifi ได้ด้วย

โถแก้วแและถาดเงิน

โต๊ะไม้ที่สั่งทำพิเศษโดยตรงกลางเป็นชามกระเบื้องเคลือบใบใหญ่จากโมรอกโก
มุมรับประทานอาหารเช้ารวมถึงสามารถใช้รับแขกและจิบกาแฟ

Comments are closed.

Pin It