การเสริมความงามปรับแต่งใบหน้า ตลอดจนสรีระ ให้ได้รูปลักษณ์สัดส่วนที่สวยงาม ดูกลายเป็นแฟชั่นของหนุ่มสาวในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะผู้ประกอบอาชีพซึ่งต้องใช้หน้าตาเป็นองค์ประกอบหลัก หากแต่การเสริมความงามที่ไม่ได้มาตรฐานก็ยังมีให้บริการอยู่มาก ซึ่งเป็นที่นิยมสำหรับผู้ต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย เพราะราคาถูก ได้ผลเร็ว โดยการชักชวนจากคนรู้จัก หรือเชื่อตามคำโฆษณา แม้ว่าไม่ทราบที่มาที่ไปของวัตถุดิบที่นำมาเสริมความงามก็ตาม จนเป็นเหตุให้เกิดความเสี่ยงต่อตนเอง
หมอบอล-นพ. ภูริวัจน์ อริยกุศลสุทธิ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ความงาม The Signature Clinic @ The Portico Langsuan เป็นอีกหนี่งที่หลงใหลเรื่องราวเกี่ยวกับความสวยความงาม หลังคลุกคลีอยู่ในวงการรักษาผิวพรรณและใบหน้านานกว่า 10 กว่าปี ทำให้ได้รู้เห้นข้อดีข้อเสียของการรักษาใบหน้า จึงเรียนรู้และค้นคว้าจนได้เทคนิค Rephiment ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของ The Signature Clinic โดย Rephiment จะเป็นโปรแกรมวิเคราะห์สัดส่วนใบหน้าด้วยหลักเลขาคณิต เมื่อได้แล้วจะนำมาจัดองค์ประกอบรูปหน้าคนไข้ให้ได้รูปที่สวยงามตามโครงสร้าง เป็นการวางแผนรักษาป้องกันความผิดพลาดและความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นอย่างที่ปรากฏเป็นข่าวในสื่ออยู่บ่อยครั้ง
หมอบอลเล่าว่า หลังจบแพทย์ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ทำงานที่คลีนิคความงามหลายแห่ง โดยสมัยนั้นการเสริมความงาม ไม่เป็นที่นิยมเหมือนปัจจุบัน คนไข้ส่วนใหญ่จะเข้ามารักษาเรื่องผิวหนังมากกว่าการเสริมความงาม หากตั้งใจรักษาความงามก็ต้องทำศัลยกรรม ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่และยุ่งยาก แต่เมื่อคนเริ่มให้ความสำคัญต่อความสวยความงามมากขึ้น ทุกคลีนิคจึงปรับกลยุทธ์การรักษาตามกระแสและยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไปด้วย
นับย้อนไป 7-8 ปีที่ผ่านมา เป็นยุคที่เทคโนโลยีเลเซอร์เพื่อการรักษาเพิ่งเข้ามา ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่แห่งวงการความงาม ทำให้แพทย์กลุ่มหนึ่งหันไปศึกษาเทคโนโลยีใหม่ๆ คือ การฉีดเพื่อปรับแต่งรูปหน้า ด้วยโบท็อกซ์ หรือ ฟิลเลอร์ เพราะตอบโจทย์คนไข้ได้ชัดเจน เห็นผลรวดเร็ว ไม่เจ็บ ไม่ต้องพักฟื้น ที่สำคัญคือไม่ต้องไปเสี่ยงทำศัลยกรรม
โดยส่วนตัวของหมอบอล นอกจากจะเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงามแล้ว เขายังมีความชอบในงานศิลปะและการดีไซน์ จึงได้นำมาปรับใช้กับการฉีดปรับแต่งใบหน้าให้กับผู้ใช้บริการ เพราะเห็นว่าการปรับแต่งใบหน้านั้นเป็นงานที่มีเสน่ห์และต้องเน้นการใช้ทักษะด้านฝีมือ
“ผมรู้สึกว่าผมได้ใช้ฝีมือ ได้ใช้ความรู้ความสามารถ ศิลปะ มุมมองของตัวเองในการรักษาคนไข้ให้มีความแตกต่างจากคนอื่นได้ ในขณะที่เลเซอร์ทำง่ายและเร็ว แต่ไม่สามารถช่วยได้ทั้งหมด งานฉีดปรับแต่ง ถือเป็นงานฝีมือที่ตามกันไม่ได้ เหมือนกับงานศัลยกรรม ที่ต้องขึ้นอยู่กับฝีมือและมุมของหมอแต่ละคน ซึ่งไม่มีทางที่หมอสองคนจะรักษาคนไข้ออกมาได้เหมือนกัน”
หมอบอลบอกว่า การปรับแต่งรูปหน้าของคนที่ถูกหลักนั้นถือเป็นงานท้าทายพอสมควร เปรียบเสมือนกับงานดีไซน์ประติมากรรมที่จะออกมาดีหรือไม่? ก็ขึ้นอยู่กับหมอเท่านั้น ฉะนั้นขั้นตอนทุกอย่างต้องรอบคอบ เพราะนอกจากต้องรู้เทคนิคในการทำแล้ว ยังต้องมีใจรักด้วย
“ความสวยต้องเกิดจากองค์ประกอบที่ต้องสัมพันธ์กัน เช่น ไรผมถึงคิ้ว คิ้วถึงปลายจมูก ปลายจมูกถึงคางต้องเท่ากัน ปัจจุบันคนไข้ต้องการวีเชฟ หน้าตัววี จมูกหยดน้ำ ผมบอกเลยว่าไม่สามารถใช้ได้กับทุกคน หากหมอทำตามใจคนไข้ โดยไม่ชี้แจงหรือไม่มีโปรแกรมการวัดโครงหน้าคนไข้ให้ดู ทำออกมาก็ต้องแก้ นี่คือที่มาของการทำต่อไม่หยุด รักษาไม่จบ”
เมื่อถามถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการรักษาด้วยเทคนิคการฉีดปรับแต่ง หมอบอลบอกว่า ผลข้างเคียงต้องมีอยู่แล้ว แต่จะมากหรือน้อยเพียงใด ก็ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของคนไข้แต่ละคน ประกอบกับวัตถุดิบที่นำมารักษาด้วยว่าได้มาตรฐานหรือไม่? นำมาจากแหล่งที่น่าเชื่อถือหรือไม่?
“หมอทุกคนจะมีทฤษฏีพื้นฐาน จะรู้ว่าเส้นเลือดตรงไหน สำคัญอย่างไร อันตรายแค่ไหน และการรักษาต้องเฝ้าระวัง ของผมจะใช้วัตถุดิบที่เป็นสารละลาย ซึ่งฉีดเข้าไปในช่วงเวลาหนึ่งแล้วไม่เห็นผล ไม่ดี หรือมีผลข้างเคียงกับคนไข้ ผมฉีดละลายได้เลยไม่มีผลกระทบ ส่วนปัญหาที่เกิดต้องยอมรับว่าเป็นปัญหาที่มาจากการที่คนไข้เชื่อในคำเล่าลือ ซึ่งตรงนี้อันตรายจริงๆ ห้ามไม่ได้ เพราะพื้นฐานของคนไทยเลยชอบของดี ของถูก รวดเร็ว และไม่ศึกษาให้ดีก่อนไปรักษา”
อยากสวยอย่างได้มาตรฐานและค่อนข้างปลอดภัย ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้แน่ใจเสียก่อน ไม่ควรเชื่อในคำโฆษณา หรือการชักชวนจากผู้อื่น แม้ว่าราคาของการเสริมความงามนั้นจะแตกต่างกันอยู่พอสมควร แต่ก็คุ้มค่าหากเปรียบเทียบกับการแก้ไขใบหน้าซ้ำแล้วซ้ำอีกที่ต้องเสียเงินจำนวนมาก และไม่สามารถเทียบค่าได้เลย หากต้องสูญเสียชีวิต?!
Photographer : วชิร สายจำปา
Comments are closed.