>>ปัจจุบันนี้เชื่อว่ามีสาวไทยจำนวนไม่น้อยต้องมีปัญหาหนักอกหนักใจเกี่ยวกับดูมๆ คู่กายบนเรือนร่างของตัวเองกันอย่างแน่นอนใช่ไหมล่ะคะ? ทั้งไม่สวย ไม่ได้รูปทรง ดูหย่อนเกินพอดี อาจจะใหญ่หรือเล็กเกินไป แต่หากจะให้ใส่ยกทรงเสริมตูมก็ได้แค่ชั่วครั้งชั่วคราว เอาล่ะขอบอกเลยว่าครั้งนี้จะไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป เพราะวันนี้เรามีทางเลือกใหม่มานำเสนอสาวๆ ทุกท่านที่ไม่ว่าจะมีปัญหาแบบไหนก็สามารถคลี่คลายหายกังวลได้อย่างทันท่วงทีด้วยคำแนะนำจากศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ นายแพทย์ธนัญชัย อัศดามงคล ที่มีชื่อเสียงทางด้านศัลยกรรมแห่งโรงพยาบาลบางมด ซึ่งมาพร้อมหัวใจหลักของการทําศัลยกรรมความงาม 3 ประการ คือ “เจ็บน้อย หายเร็ว เป็นธรรมชาติ” ที่จะมาให้ความรู้ในเบื้องต้นเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาหน้าอกในแบบต่างๆ จะมีอะไรน่าสนใจบ้างตามมาชมกันได้เลยค่ะ
ปัญหาส่วนใหญ่ของสาวๆ ที่มาปรึกษาเรื่องหน้าอกมีอะไรบ้าง?
“ปัญหาหลักๆ ของผู้หญิงไทยส่วนมากจะมีอยู่ 4 กรณี คือ เล็กไป ใหญ่ไป หย่อนยาน (สาเหตุจากปัจจัยหลายอย่างเช่น คนเคยมีลูก คนออกกำลังกายมากๆ) และในกรณีสุดท้ายคือคนที่เคยเป็นมะเร็งเต้านมแล้วเคยตัดเต้านมมา แล้วพอมะเร็งเขาหายก็อยากเสริมเต้านมใหม่ แต่ปัญหาที่พบมากที่สุดก็คือหน้าอกเล็ก ต้องการเสริมให้ใหญ่ขึ้นครับ”
การเสริมหน้าอกรูปแบบซิลิโคนมีกี่ชนิดและมีอะไรบ้าง?
“ ในการเลือกซิลิโคนนั้นจะมีอยู่ 3 ข้อคือ หนึ่ง เลือกรูปทรงระหว่างทรงกลมกับหยดน้ำ ซึ่งทั้งสองแบบนั้นจะมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป โดยทรงกลมก็จะมีความนูนทั้งด้านบนและด้านล่างแต่ความเป็นธรรมชาติจะน้อยกว่าทรงหยดน้ำ สำหรับทรงหยดน้ำด้านข้างจะค่อยๆ ดูโค้งลงจะดูเป็นธรรมชาติมากกว่า แต่ถ้าคนอยากมีหน้าอกอยากใส่เสื้อสวยให้ดูเต็มเต้าก็ต้องทรงกลม อันนี้เป็นหลักการคร่าวๆ ส่วนเกณฑ์ที่สองคือ เลือกผิวของซิลิโคนว่าจะเอาแบบผิวเรียบหรือผิวทราย ซึ่งที่จริงแล้วผิวทรายจะดีกว่าผิวเรียบเพราะผิวทรายจะทำให้เกิดพังผืดน้อยกว่าและจะทำให้หน้าอกแข็งยากกว่าแต่จะมีราคาที่สูงกว่า ส่วนเกณฑ์ข้อที่สามคือ การเลือกขนาดโดยต้องมาทำการวัดขนาดดูก่อนว่าไซส์ที่ควรใส่นั้นจะมีขนาดเท่าไหร่ ถ้าใส่ใหญ่เกินไปตอนแรกอาจจะสวยแต่นานๆ ไปจะทำให้ดูไม่เป็นธรรมชาติ คลำได้ขอบวัสดุ เป็นคลื่นๆ และหน้าอกแข็งได้ง่าย ดังนั้นจึงควรเลือกขนาดที่พอดีกับโครงสร้างร่างกายของเรา ส่วนอายุของซิลิโคนในปัจจุบันนั้นสามารถอยู่ได้อย่างถาวรตลอดชีวิต ถ้าไม่มีปัญหาก็ไม่ต้องเปลี่ยนครับ”
การศัลยกรรมเสริมหน้าอกมีกี่วิธีและมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง?
“โดยหลักๆ แล้วการศัลยกรรมเสริมหน้าอกนั้นจะมีวิธีผ่าตัดอยู่ 4 ทาง คือ การเสริมทางรักแร้ เสริมใต้ราวนม ลานหัวนม และทางสะดือที่สามารถเอาวัสดุเข้าได้ แต่ในปัจจุบันนั้นที่นิยมที่สุดจะมีอยู่ 2 ทางคือ ทางรักแร้และใต้ราวนม แต่จะมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน อย่างทางรักแร้ข้อดีคือจะไม่เห็นแผลชัด แผลซ่อนตามรอยสร้อยรักแร้ แผลจะสวยกว่า ดารานิยมทำกัน ส่วนใต้ราวนมคือจะทำง่ายและเจ็บน้อยกว่าแต่เห็นแผลชัดกว่า ส่วนขั้นตอนการศัลยกรรมเสริมหน้าอกนั้นจะมีแบบการเสริมบนกล้ามเนื้อกับการเสริมใต้กล้ามเนื้อ โดยจะมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันคือ การเสริมบนกล้ามเนื้อจะทำง่ายไม่ต้องเลาะกล้ามเนื้อและเสียเลือดน้อยกว่า แต่ข้อเสียคือถ้าคนไข้ผิวบางแล้วเราไปเสริมบนกล้ามเนื้อก็จะไม่มีอะไรมาคลุม มีโอกาสที่ซิลิโคนจะแข็งง่ายและจะทำให้คลำได้ขอบวัสดุ ความธรรมชาติก็จะน้อยกว่า แต่หากเสริมใต้กล้ามเนื้อก็จะกลับกัน ซึ่งแน่นอนว่าการเสริมใต้กล้ามเนื้อจะมีความเป็นธรรมชาติเพราะมีกล้ามเนื้อคลุม แต่ข้อเสียคือความเจ็บปวดและการเสียเลือดมากกว่าในการผ่าตัดเพราะต้องเลาะเนื้อขึ้นมาแล้วใส่ซิลิโคนไว้ข้างใต้ แต่วิวัฒนาการของการผ่าตัดยุคนี้มีความทันสมัยมากขึ้นไปอีกขั้นนั่นคือ การรวมเอาสองวิธีข้างต้นมาผสมผสานกันเรียกว่า ดูอัล เพลน (Dual Plane) และ Subfascial plane คือการศัลยกรรมเสริมไว้ที่กึ่งกลางระหว่างเหนือและใต้กล้ามเนื้อ โดยจะมีเนื้อเยื่อบางๆ คลุมก่อนจะถึงกล้ามเนื้อชั้นบนและด้วยเทคนิคเฉพาะของโรงพยาบาลบางมดที่เรามีประสบการณ์ทางด้านศัลยกรรมหน้าอกมามากกว่า 30 ปี เราจึงจะเน้นผลลัพธ์ที่ดีที่สุด คือ เจ็บน้อยที่สุด แผลหายเร็ว ได้หน้าอกใหม่ที่ดูสวย นุ่ม และได้รูปทรงเป็นธรรมชาติที่สุด”
คนที่ต้องให้นมบุตรสามารถทำการศัลยกรรมเสริมหน้าอกได้ไหม?
“ไม่มีปัญหาครับ เวลาเสริมหน้าอกไม่ว่าจะบนกล้ามเนื้อหรือใต้กล้ามเนื้อ จะอยู่ใต้ต่อมเนื้อเต้านมและท่อน้ำนมอยู่แล้ว และเวลาผ่าตัดเราไม่ได้ไปยุ่งกับท่อน้ำนมจึงสามารถให้นมบุตรได้ตามปกติครับ”
เคสยากๆ ที่คุณหมอเคยเจอมีอะไรบ้าง?
“เจอเยอะเลยเพราะว่าสมัยนี้บางคนดูแต่รีวิวเห็นว่าเพื่อนไปทำมาเสริมมา 400,500 ซีซี เขาอยากได้ใหญ่กว่านั้นอีก ซึ่งจริงๆเขาไม่ได้ดูโครงสร้างตัวเองว่าใส่ได้เท่าไหร่ พอมีปัญหาหมอก็ต้องอธิบายโดยละเอียดก่อน วัดให้เขาดู มีไซส์ให้ลอง แล้วก็ต้องอธิบายให้เห็นว่า ตามหลักทางการแพทย์ ถ้าเราเสริมใหญ่กว่าร่างกายจะมีปัญหาคือ แข็งง่าย พอแข็งก็ผิดรูปง่าย ดูแลยาก มีโอกาสที่มันจะดูไม่ธรรมชาติ สวยตอนแรกแต่ระยะยาวมันไม่ดีก็ต้องอธิบายให้คนไข้เข้าใจ ไม่ใช่ว่าทำไม่ได้ ทำได้หมด เสริมใหญ่มากๆหมอก็ทำได้ แต่ผลแทรกซ้อนมันเยอะ จึงไม่แนะนำครับ”
คำแนะนำวิธีการดูแลแผลหลังจากการผ่าตัด
“แผลช่วงแรกห้ามโดนน้ำเพื่อไม่ให้แผลติดเชื้อส่วนเรื่องการนวดหน้าอกก็ต้องรอประมาณ 1 อาทิตย์ให้เนื้อเยื่อมันหายบวม หายเจ็บก่อนก็จะสอนนวดหน้าอกด้วยวิธีที่ถูกต้อง เพราะในช่วง 3-4 เดือนแรกต้องนวดเยอะๆให้หน้าอกนุ่มมีเป็นความธรรมชาติมากขึ้น เพราะหากดูแลไม่ดีจะเกิดพังผืด โดยการป้องกันข้อแรกคือ เลือกขนาดที่พอดี ข้อที่สองควรเลือกซิลิโคนที่เลือกเป็นผิวทรายเพราะผิวทรายจะช่วยกระจายแรงพังผืดได้ดีกว่า ข้อที่สามเรื่องดูแลหลังผ่าตัดต้องนวดหน้าอกเยอะๆ บางคนก็ใช้ Ultrasound ช่วยในการนวด และข้อที่สี่คือ เรื่องของเทคนิคการผ่าตัด ถ้าการผ่าตัดมีการติดเชื้อหรือมีการเสียเลือดมากมีเลือดค้างในช่องหน้าอกมากจะเป็นบ่อเกิดของการเกิดพังผืด ถ้าปฏิบัติตาม 4 อย่างนี้ได้จะลดโอกาสการเกิดพังผืดได้มากครับ”
โดยเทคนิคเฉพาะของโรงพยาบาลบางมดนั้นมาจากประสบการณ์ทางด้านนี้มามากกว่า 30 ปี สำหรับชื่อเสียงของการทำศัลยกรรมด้านหน้าอก โดยเกิดจากการที่ทางศัลยแพทย์ทุกคนเข้ามาประชุมกันระดมความคิดว่าจะทำอย่างไรให้การเสริมหน้าอกนั้นได้ความเป็นธรรมชาติ นุ่ม ปัญหาน้อยที่สุด เพราะฉะนั้นบอกได้เลยว่าสาวๆ ที่สนใจและยังแอบลังเลอยู่สามารถวางใจได้ว่าคุณจะได้รับการดูแลและคำปรึกษาจากทางโรงพยาบาลบางมดเป็นอย่างดีตั้งแต่ก้าวเข้ามาอย่างแน่นอน ทั้งบรรยากาศที่อบอุ่นเป็นกันเอง การดูแลคนไข้ทุกคนอย่างทั่วถึง และการให้คำแนะนำแม้จะกลับไปพักฟื้นเองที่บ้านก็ตาม เพื่อความมั่นใจว่าสาวๆ ทุกคนจะเจ็บน้อยที่สุด แผลหายเร็ว และยังดูเป็นธรรมชาติมากที่สุดอีกด้วย
โดยเรายังมีอีกหนึ่งเคสตัวอย่างของนักแสดงสาวมากความสามารถอย่างคุณตุ๊กตา-ปุณฐิภาภัคร์ ที่ยืดอกยอมรับเลยว่าทั้งตา ปาก และอกที่อึ๋มขึ้นนั้นเป็นเพราะไปทำการศัลยกรรมมา ซึ่งแน่นอนว่าก่อนการศัลยกรรมนั้นเธอยังดูไม่ค่อยมั่นใจกับรูปร่างมากนักโดยเฉพาะหน้าอกหน้าใจของเธอ ซึ่งเห็นได้ชัดเลยว่าก่อนและหลังการศัลยกรรมเสริมหน้าอกนั้นรูปร่างของเธอดูเปลี่ยนไปในเชิงบวกจริงๆ ซึ่งเธอได้เปิดเผยตรงๆ เลยว่า “เดี๋ยวนี้ทุกคนหันมาดูแลตัวเอง ปรับปรุงรูปร่างบุคลิกให้ดีขึ้นและการทำศัลยกรรมเป็นอะไรที่ปลอดภัยมากขึ้น ตุ๊กตาเลยเลือกที่จะแก้ปัญหาให้ตรงจุดจึงตัดสินใจไปหาคุณหมอศัลยกรรม ปรึกษาเลยว่าอยากจะแก้ไขในส่วนที่บกพร่องต่างๆ โดยเฉพาะหน้าอก
ตุ๊กตาไม่อายที่จะบอกว่าตัวเองสวยขึ้นด้วยการศัลยกรรม แต่เป็นความภาคภูมิใจมากกว่า ทุกครั้งที่มีคนชมว่าสวยขึ้น เพราะเราเกิดมาในยุค ว้าว.. เป็นยุคที่ทุกคนไม่ได้แอนตี้การทำศัลยกรรมเหมือนเมื่อ 20 ปีที่ผ่านมา เมื่อก่อนใครทำศัลยกรรมถือเป็นเรื่องที่แย่มาก มองว่าศัลยกรรมเป็นพลาสติกไม่สวยจริง แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว อยากสวยก็สวยได้ มีปัญหาก็แก้ไขได้ มีการยอมรับมากขึ้นขนาดที่ว่าเวทีประกวดนางงามระดับโลกคนที่ทำศัลยกรรมก็สามารถเข้าประกวดได้ นั่นแสดงว่าเขายอมรับว่าการทำศัลยกรรมไม่ได้อันตราย แล้วก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่เสียหาย ตรงกันข้ามมันกลับสร้างคุณภาพชีวิตให้กับหลายๆ คนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีความมั่นใจมากขึ้น
แต่ข้อระวังคือต้องเลือกแพทย์ที่มีความชำนาญ แล้วการทำศัลยกรรมจะตอบโจทย์ชีวิตได้อย่างที่ต้องการ ประเทศไทยของเรามีหมอที่เก่ง มีชื่อเสียง และมีความสามารถไม่จำเป็นที่จะต้องทำแบบหลบๆ ซ่อนๆ หรือบินไปทำต่างประเทศให้เสียดุลการค้า เพราะตุ๊กตาเชื่อว่าใครจะรู้ใจสาวไทยเท่าหมอไทยคงจะไม่มีแล้ว ตา 20 นาที ปาก 20 นาที หน้าอก 30 นาที จะมีอะไรที่สวยปลอดภัยเร็วกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว ขอบคุณความสวยที่ทำให้ตุ๊กตาได้งานที่ดีงานแฟชั่นก็มา ล่าสุดตุ๊กตาได้ถ่ายแฟชั่นนิตยสารอิมเมจเล่มที่กำลังวางแผงเดือน พ.ค. เห็นภาพตัวเองสวยๆ เห็นรูปร่างที่ชวนมอง ตั้งใจทำเต็มที่ ตอนถ่ายเขินเหมือนกันแต่พอเห็นภาพแล้วชอบ ตัวเองก็มีมุมเซ็กซี่กับเขาเหมือนกัน ทุกคนชมแล้วปลื้มค่ะ”
นอกจากนี้หากสาวๆ คนไหนที่ยังคงมีข้อสงสัยคาใจทาง รพ.บางมดยังมีทีมแพทย์ที่พร้อมจะให้คำปรึกษาเป็นอย่างดี โดยสามารถโทร.สอบถามได้ที่เบอร์ 0-2867-0606 ต่อ 1200-4 หรือจะทำการนัดเพื่อเข้าไปพุดคุยกับ นพ.ธนัญชัย อัศดามงคล และสามารถคลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติมอื่นๆ ได้ที่www.facebook.com/Bangmodhospital นะคะ :: Text by FLASH
Comments are closed.