จากจุดเริ่มต้นของ “ความชอบในความเป็นวินเทจของแฟชั่น” เหมือนกัน ทำให้ 4 หนุ่มต่างวัยซึ่งมีแบรนด์ของตัวเองอยู่แล้ว อย่าง “เล้ง–อดิศักดิ์ โรจน์ศิริพันธ์, เหน่ง-เจษฎา กิตติวรวัฒน์, มอส-ปิยะณัสย์ มณฑา และแบงก์-ธนเอก เอี่ยมกล้า” มารวมตัวกันภายใต้ 3 แบรนด์ใหม่ YKO2, Label 101 และ Dabtap ซึ่งเป็นแบรนด์เสื้อผ้าวินเทจสุดยูนีค
เริ่มที่ “เล้ง–อดิศักดิ์ โรจน์ศิริพันธ์” ชื่อนี้คุ้นหูกันดีเพราะอยู่ในวงการแฟชั่นมานานหลายสิบปี เจ้าของแบรนด์ Zenithorial ซึ่งตอนนี้เปิดแบรนด์น้องใหม่ “YKO2” มาให้ทุกคนได้จับจองเป็นเจ้าของ ด้วยการฉีกสไตล์จากเดิมที่เป็นเทลเลอร์ เชิ้ต สูทโก้ๆ แหวกกฎมาสู่ความเป็นสตรีทที่ทำให้ดูเด็กลง แต่ยังอยากแฝงกลิ่นอายความเป็นเทลเลอร์อยู่ เลยมาลงตัวที่ความเป็นลักซ์ชัวรีสตรีท เน้นวัสดุ การตัดเย็บที่ประณีตจากช่างฝีมือชำนาญ นำเข้าผ้าอย่างดีแล้วมามิกซ์แอนด์แมตช์เป็นสไตล์สตรีทเนี้ยบ
ส่วนคาแรกเตอร์ของ YKO2 คือการเอาวินเทจมาผสมเทลเลอร์ วินเทจในที่นี้หมายถึงการเอาผ้าพันคอ ซิลค์ มาเทลเลอร์โดยช่างวิชาชีพชั้นสูงของช่างเสื้อ ออกมาเป็นเสื้อสตรีทเนี้ยบๆ ที่ฝีเข็มละเอียดไม่มีรอย หรือการดีไซน์เก๋ๆ อย่าง คอลเลกชัน Swap and Switch โดยเอาผ้าพันคอหลายๆ ผืนมาตัดต่อสี ทำเป็นสาบหน้าหลังที่สามารถถอดแยกชิ้นซีกซ้าย-ขวา ออกมาติดสลับกันได้ แค่ซื้อไปสองตัวก็สามารถสลับแบบเสื้อได้มากกว่า 4 แบบแล้ว เป็นการเพิ่มลูกเล่นและความสนุกให้กับลูกค้าที่ชอบ D.I.Y ได้มีส่วนร่วม เล่นสนุกไปกับเสื้อผ้า ซึ่งเสื้อผ้าของเราแต่ละแบบจะทำไม่เกิน 20 ตัวเท่านั้น
สนุกในการทำแฟชั่นวินเทจคนเดียวไม่พอ เล้งจึงไปดึงสองเพื่อนที่รักในแฟชั่นเหมือนกัน อย่าง เหน่ง-เจษฎา กิตติวรวัฒน์ และมอส-ปิยะณัสย์ มณฑา มาร่วมสร้างแบรนด์ใหม่ อย่าง “Label101” ซึ่งมีคาแรกเตอร์คือ urban street chic สตรีทคนเมือง สินค้าที่ไม่ซ้ำใครมีชิ้นเดียวในโลก แต่งตัวสนุกๆ ซึ่ง Label101 ทำให้เป็นแบบนั้น คือการเอาเสื้อผ้าวินเทจอย่างน้อย 3 ตัว มารีมิกซ์ รีเมด รีโมเดล ตัดต่อทำให้เกิดฟอร์มใหม่ๆ แต่งนั่นนิดนี่หน่อย จนกลายเป็นตัวใหม่ที่มีแค่ตัวเดียวเท่านั้น ทำซ้ำไม่ได้ ซึ่งความยากอยู่ตรงที่ ต้องหาเชฟของเสื้อผ้าที่พอดีกันมาทำถึงจะได้ หรือการทำเสื้ออัปไซส์ดาวน์เอาเสื้อสองตัวมาทำเป็นกางเกงหรือใส่เป็นเสื้อก็ได้ ซึ่งยังไม่มีใครเคยทำ, เสื้อยืดสามหัว, เสื้อพลีท เป็นผ้าโพลีเอสเตอร์ 100% นำมาอัดพลีทแล้วสกรีนลาย โดยผ้าตัวนี้ทำมาจากขวดพลาสติก 10 ขวดต่อเสื้อ 1 ตัว เป็นต้น ซึ่งการทำเสื้อผ้าแบบนี้ตลาดยังไม่มี
มาถึงแบรนด์สุดท้ายน้องเล็กของกลุ่ม หนุ่มน้อยวัยยี่สิบต้นๆ “แบงก์-ธนเอก เอี่ยมกล้า” กับแบรนด์ “Daptap” ที่มีอินสไปเรชันมาจากความชอบในฮิปฮอป แต่งตัวโอเวอร์ไซส์ตัวใหญ่ๆ อย่างไรให้ไม่ซ้ำใคร เอาเสื้อเก่ามาผสมกับใหม่ให้ดูมีอะไรมากขึ้น กลายเป็นสตรีทฮิปฮอป ซึ่งแบงก์บอกว่า “หาเสื้อแบบที่ชอบไม่ค่อยได้เลยทำเอง ใส่ไปไหนมาไหนก็มีแต่คนชอบ จึงปรึกษากับพี่เล้ง ประกอบกับอยากทำแบรนด์ของตัวเองมานานแล้ว จึงทำ Daptap ขึ้นมา หาเสื้อเก่ามามิกซ์แอนด์แมตช์ ผสมเสื้อใหม่บ้าง ทดลองทำเอง ด้วยความที่เป็นคนสนใจแฟชั่นอยู่แล้วจึงไม่ยากเท่าไหร่ และยังได้พี่เล้งเป็นที่ปรึกษาจึงทำให้การทำงานง่ายขึ้น
สำหรับความสนุกของงานคือ ได้เลือกผ้าเอง เป็นความท้าทายอย่างหนึ่งว่า เสื้อผ้าบางกระสอบที่เราสั่งมาจากอเมริกา เมื่อเปิดออกมาแล้วจะมีเสื้อที่เอามาใช้ได้กี่ตัว เพราะเราต้องคัดเกรดที่ดีที่สุดมาทำ อย่าง เอาเสื้อเบสบอล เสื้อยืดหายากแบบไม่ซ้ำใครมาทำ ซึ่งแต่ละตัวจะมีสตอรี่ อย่าง เสื้อยืดวินเทจของวงดนตรีของเมืองนอก ผลิตมาแค่ร้อยชิ้น เอามาตัดต่อเป็นเสื้อใหม่ ทำให้เสื้อเราลิมิเต็ดมากๆ หาที่ไหนไม่ได้ ซึ่งราคาจะแตกต่างไปตามความหายากของผ้าที่เอามาตัด ที่แน่ๆ คือ หนึ่งแบบมีแค่หนึ่งตัวเท่านั้นจริงๆ จากนั้นการออกแบบของเราก็จะทดลองวางแพตเทิร์นให้ดูมีความซับซ้อนมากขึ้น เพื่อให้ถูกใจลูกค้าและถูกใจเราด้วย ตรงตามคติที่เรายึดมั่นว่า ทำอะไรต้องทำให้เต็มที่ที่สุด จะได้ไม่เสียดายทีหลังว่าไม่ได้ทำ”
ใครสนใจเสื้อวินเทจที่มีเพียงชิ้นเดียวในโลกใบนี้ มาลองชมไอเดียดีของ 4 หนุ่มกันได้ ที่ร้าน Absolute Siam Store ชั้น 1 สยามเซ็นเตอร์
Comments are closed.