13 ปีผ่านไป คลิปหลุด ยังตามหลอน "คิม คาร์ดาเชียน"

จริงๆ แล้ว ที่ คิม คาร์ดาเชียน โด่งดังขึ้นมาได้ ก็เพราะว่ามีคลิปโป๊หลุดออกมาในปี 2007 ซึ่งข่าววงในบอกว่า คนที่ปล่อยออกมาก็คือ คริส เจนนเนอร์ แม่และผู้จัดการส่วนตัวของเธอนั่นเอง แม้ว่า เธอจะเฝ้าปฏิเสธ (เรื่องแม่เป็นคนปล่อยคลิป) มาตลอดหลายปีก็เถอะ และตอนนี้ คลิปประวัติศาสตร์นั้นก็ยังกลายเป็นสสารที่ไม่หายไปจากโลก ยังคงกลับมาตามหลอกหลอนเธอได้เป็นระยะๆ

ย้อนกลับไปเมื่อ 13 ปีก่อน คิม ยังเป็น “วอนนาบี” ดาราที่กำลังอยากจะดังอยู่เลย พร้อมๆ กับการเปิดร้านขายเสื้อผ้าแฟชั่นก๊อกๆ แก๊กๆ กับน้องสาวในคาลาบาซาส แคลิฟอร์เนีย
เซ็กส์เทปคลิปที่ว่า เป็นชิ้นที่เธอถ่ายทำในปี 2002 กับอดีตแฟนหนุ่มแรปเปอร์ เรย์ เจ ระหว่างที่เธอไปพักผ่อนฉลองวันเกิดวัย 23 ในเม็กซิโก

คลิปดังกล่าวหลุดออกมาในปี 2007 ก่อนที่ Keeping Up With The Kardashians เรียลิตี้โชว์ของครอบครัวคาร์ดาเชียน-เจนเนอร์ จะออกอากาศเพียงไม่กี่เดือน ทำให้พอโชว์ออกฉายปุ๊บ ก็ได้รับความสนใจในวงกว้าง เพราะว่านักแสดงเรียลิตี้เป็นคนเดียวกับที่ปรากฏในคลิปฉาวนั้น!

เม้าท์กันทันทีว่า คนปล่อยคลิปจะใครเสียอีกล่ะ ถ้าไม่ใช่ คริส เจนเนอร์ แม่และผู้จัดการของเธอเอง ที่ยังเป็นเจ้าของไอเดียในการให้กล้องไปตามติดชีวิตครอบครัวเธอด้วย แต่คิมพยายามปฏิเสธมาโดยตลอดว่า ไม่เป็นความจริงที่แม่จะปล่อยคลิปนั้นเสียเอง

คิม เริ่มคบหากับ เรย์ เจ ราวต้นปี 2000 หลังจากที่เธอหย่าขาดจากอดีตสามีโปรดิวเซอร์ เดมอน แดช คลิปฉาวที่หลุดออกมา ไม่ได้มีการส่งต่อกันแบบธรรมดาๆ แต่มีการขายผ่านตัวแทนให้กับ วิวิด เอนเตอร์เทนเมนต์ แพลตฟอร์มหนังโป๊ยักษ์ใหญ่ของอเมริกา

ในตอนนั้น Keeping Up With The Kardashians ยังไม่ออกอากาศ และคิม ก็เพิ่งจะเริ่มเข้าสู่วงการบันเทิง ด้วยการทำงานเป็นผู้ช่วยของ ปารีส ฮิลตัน ในเรียลิตีโชว์ The Simple Life

วิวิด เอนเตอร์เทนเมนต์ ชี้แจงเกี่ยวกับเซ็กส์เทป Kim Kardashian Superstar ที่มีคิมกับเรย์อยู่ในท้องเรื่องว่า ซื้อมาจากตัวแทนเป็นเงินถึง 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐทีเดียว

ระหว่างรอให้ Keeping Up With The Kardashians ออกอากาศในอีก 6 เดือนข้างหน้า คิม คาร์ดาเชียน ยื่นฟ้อง วิวิด เอนเตอร์เทนเมนต์ให้ระงับการออกอากาศเซ็กส์เทปดังกล่าวทันที พร้อมเรียกร้องค่าเสียหายเป็นเงิน 5 ล้านดอลลาร์

สถานการณ์ของคิม ดูคล้องจองกับอดีตเจ้านายของเธอ อย่างปารีส ฮิลตัน ที่มีคลิปฉาว 1 Night In Paris ที่ถ่ายทำโดย ริค โซโลมอน แฟนเก่าของปารีส หลุดออกมาก่อนที่ The Simple Life จะออกอากาศเช่นเดียวกัน รวมทั้ง ลงเอยด้วยการฟ้องร้องดำเนินคดีกันในศาล

The Simple Life เองก็ประสบความสำเร็จอย่างมาก แต่ทำไปทำมา ปารีส เห็นว่า ได้เงินไม่คุ้มเวลาที่เสียไป ก็เลยเลิกทำไปซะดื้อๆ

สำหรับข่าวลือเรื่องคริสเป็นคนปล่อยคลิปดูมีมูล คิดดูสิว่ามีแต่ได้กับได้ ได้ขายคลิป ได้ส่งให้ลูกและโชว์ดังเป็นพลุ แถมยังอาจจะได้เงินจากการฟ้องเรียกค่าเสียหายอีกแน่ะ…

นอกจากนี้ จากที่ดูเรียลิตี้โชว์ของบ้านคาร์ดาเชียน-เจนเนอร์ในซีซั่นแรก หลายคนก็สังเกตว่า คริส พยายามที่จะเชียร์ให้ลูกสาวคนโตของเธอนุ่งน้อยห่มน้อย โชว์เอกลักษณ์ความเซ็กซี่อยู่เรื่อยๆ เลย ปีเดียวกันนี้ คิม ยังได้ไปถ่ายแบบลงนิตยสารอย่าง เพลย์บอย ตีพิมพ์ฉบับธันวาคม 2007 อีกด้วย

ข่าวลือเรื่องเดียวกันยังปรากฏในหนังสือเรื่อง Kardashian Dynasty ของเอียน ฮัลเพอริน ที่ได้สัมภาษณ์เจ้าของ วิวิด เอนเตอร์เทนเมนต์ว่า พวกเขาคงไม่นำเอาคลิปดังกล่าวมาออกอากาศ ถ้าไม่ได้รับอนุญาตจากคนที่อ้างว่าเป็นตัวแทนของนักแสดงในคลิปเอง

“วิวิด บอกว่า เขาติดต่อไปที่ครอบครัวคาร์ดาเชียนเพื่ออธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้น แล้วยังบอกด้วยว่า ถ้าวิวิดไม่ซื้อมาเป็นลิขสิทธิ์ของพวกเขา คลิปนี้อาจจะไปไกลกว่าที่เป็นอยู่อีก แถมยังจะฟ้อง หรือจับมือใครดมไม่ได้” เอียน เขียนเอาไว้ในหนังสือ พร้อมตั้งคำถามว่า อาจจะเป็นคริสหรือคิมเองนั่นแหละ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการปล่อยคลิปออกสู่ท้องตลาด ก่อนที่จะสร้างภาพเธอให้เป็นเหยื่อในครั้งนี้ด้วยการเอาเรื่องขึ้นศาล

แน่นอนว่า คิมต้องออกมาปฏิเสธ เช่นเดียวกับ สตีเวน เฮิร์สต์ นายใหญ่ วิวิด เอนเตอร์เทนเมนต์ ที่ออกมาปฏิเสธเรื่องการมีส่วนในการเจรจาซื้อขายคลิปฉาว

คิม เคยให้สัมภาษณ์ในรายการ ดิ โอปราห์ โชว์ว่า เซ็กส์เทปนั้นเหมือนการเปิดตัวเธอสู่สาธารณะ “ฉันรู้สึกอับอายมากที่มันกลายเป็นภาพลักษณ์ของฉันไปแล้ว จริงๆ แล้วฉันก็อยากให้คนรู้จักว่าตัวตนจริงๆ ของฉันเป็นยังไงมากกว่า”

ขณะที่ในปี 2018 เธอก็ (ยังต้อง) ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่ “มันแย่มากๆ เลยค่ะ คือตอนที่เหตุการณ์นี้เกิดกับปารีส ฮิลตัน ฉันว่ามันเป็นไปในแง่บวกนะ ฉันว่าคลิปหลุดทำให้ปารีสดังปังเวอร์มาก แต่พอมาเจอเข้ากับตัวเอง มันไม่ใช่เลยค่ะ มันน่าอายมาก แล้วก็เป็นเรื่องยากที่คุณจะต้องมานั่งอธิบายให้คุณพ่อ คุณแม่ คุณปู่ คุณย่าเข้าใจ

“โอเค บทสรุปของฉันก็คือ ตอบโต้ด้วยการเอาผิดทางกฎหมาย แล้วก็พยายามที่จะเดินหน้าต่อไปในชีวิตให้ได้ คนเรามีการรับมือกับเรื่องต่างๆ ไม่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเรื่องเซ็กส์เทป เรื่องการถูกปล้น หรือตอนที่พ่อของฉันเสียชีวิต แต่คนเราก็ต้องเดินหน้าต่อค่ะ” คิมกล่าว

ขณะที่ คริส เจนเนอร์ ผู้ถูกกล่าวหา ก็ออกมาพูดถึงเรื่องนี้… “เราไม่อาจจะควบคุมคำพูดหรือความคิดของคนอื่นได้ นั่นเป็นข้อกล่าวหาที่ค่อนข้างร้ายแรงมาก แล้วก็ยากที่จะผ่านไปได้ง่ายๆ แต่ก็เป็นสิ่งที่ครอบครัวของเราจะต้องเรียนรู้เป็นประสบการณ์ ดิฉันยอมรับว่า เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากของคนที่เป็นแม่จริงๆ ค่ะ”