ปี 2566 เป็นปีที่ราชวงศ์ทั่วโลกมีสมาชิกใหม่กันหลายพระองค์ เริ่มจาก “แกรนด์ดยุกกีโยม แห่งลักเซมเบิร์ก” กับ “แกรนด์ดัชเชสสเตฟานี” ได้ให้กำเนิดเจ้าชายน้อยพระองค์ที่ 3 คือ “เจ้าชายฟรองซัวส์” เมื่อวันที่ 27 มีนาคม
ตามด้วย “เจ้าหญิงยูเชนี” ธิดาของเจ้าชายแอนดรูว์ กับซาราห์ เฟอร์กูสัน ที่สมรสกับ “แจ็ก บรูกสแบงก์” เจ้าหญิงยูเชนีให้กำเนิดโอรสคนที่สองเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม ตั้งนามว่า “เออร์เนสต์ จอร์จ รอนนี บรูกสแบงก์” ชื่อของโอรสตั้งตามจอร์จ บรูกสแบงก์-พระสสุระ และพันตรีโรนัลด์ เฟอร์กูสัน-พระปัยกาฝ่ายพระมารดา
ถัดมาคือ “หลุย์ ดูครูเอต์” โอรสของเจ้าหญิงสเตฟานีแห่งโมนาโก กับอดีตผู้คุ้มกัน-ดาเนียล ดูครูเอต์ ซึ่งสมรสกันในปี 1996 โดยได้รับอนุญาตจากพระบิดาของเจ้าหญิง หลังจากมีทายาทสองคน การแต่งงานของพวกเขาก็จบลงด้วยการหย่าร้าง หลุยส์ทำงานในสโมสรฟุตบอล AS Monaco และพบรักกับ “มารี เฮา เชวาลลิเยร์” ผู้มีเชื้อสายเวียดนาม และเคยเป็นเพื่อนในมหาวิทยาลัยเดียวกัน และแต่งงานกัน ในที่สุด ทั้งคู่ก็มอบหลานสาวคนแรกให้เจ้าหญิงสเตฟานี เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา เธอชื่อ “วิกตอรี” ซึ่งแปลว่าชัยชนะ ก่อนหน้าที่จะมีลูก ทั้งคู่เลี้ยงสุนัขตัวหนึ่งชื่อ “แพนเค้ก” ซึ่งที่น่ารักก็คือ เมื่อรู้ว่าภรรยาตั้งครรภ์ ฝ่ายชายก็โพสต์ภาพเขากับหมาที่ใส่เสื้อเขียนว่า ‘ว่าที่พี่ชายคนโต’ ลงอินสตาแกรม สร้างความเกรียวกราวในหมู่ราชวงศ์ไม่น้อยเลย
อีกคนจากราชวงศ์โมนาโก ในฐานะทายาทอันดับห้า ทำหน้าที่ตัวแทนราชวงศ์โมนาโก ปฏิบัติภารกิจด้านสาธารณกุศลมากมายนับไม่ถ้วน นั่นคือ “ชาร์ล็อตต์ คาสิรากี” หรือมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า “เจ้าหญิงชาร์ล็อตต์ ดัชเชสแห่งวาเลนตินัวส์” เป็นธิดาของ “เจ้าหญิงคาโรลีนแห่งฮาโนเวอร์” เธอเป็นเด็กเรียนเก่งมาตั้งแต่เล็กๆ คว้าปริญญาตรีด้านปรัชญาจากมหาวิทยาลัยปารีส-ซอร์บอนน์ ยูนิเวอร์ซิตี้ ประเทศฝรั่งเศส เคยฝึกงานกับสำนักพิมพ์ The Independent เจ้าของหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ของอังกฤษ เคยเป็นบรรณาธิการบริหารของนิตยสาร Above Magazine และเป็นเจ้าของหนังสือเฉพาะกิจ Ever Manifesto หนังสือแจกที่เสนอผลกระทบของอุตสาหกรรมแฟชั่นที่มีต่อสิ่งแวดล้อมโลก ซึ่งได้รับเสียงชื่นชมอย่างถ้วนทั่ว หลังจากนั้น ก็เข้าสู่วงการนางแบบ และล่าสุดเป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ของ Chanel ชาร์ล็อตต์แต่งงานกับ “ดิมิทรี ราสซัม” เมื่อปี 2019 มีลูกติดสองคน และเพิ่งให้กำเนิดลูกคนที่สามในปีนี้เช่นกัน แต่น่าแปลกที่ไม่มีข่าวคราวใดๆ ออกมาเลยนอกจากมีข่าวว่าตั้งครรภ์เมื่อช่วงต้นปี
วันที่ 2 กันยายน ก็เป็นอีกวันที่สร้างความปีติปรีดาให้กับราชวงศ์แห่งเบลเยียม สำนักพระราชวังประกาศข่าวดีให้ประชาชนชาวเบลเยียมรับรู้ทั่วกันว่า “เจ้าหญิงเอลิซาเบตตา” ชายาของ “เจ้าชายอะเมเดโอ” ให้กำเนิดพระธิดาองค์ที่ 3 หลังจากมีพระธิดาองค์โต “เจ้าหญิงอันนา-อัสตริด” และพระโอรสองค์รอง “เจ้าชายแมกซิมิเลียน” ส่วนพระธิดาองค์ที่ 3 มีชื่อว่า “อลิกซ์” และชื่ออย่างเป็นทางการคือ “อาร์ชดัสเชส อลิกซ์ แห่งออสเตรีย-เอสเต”
สุดท้ายคือ พระธิดาองค์แรกของ “สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก” แห่งภูฏาน ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในบ้านเรา กับ “สมเด็จพระราชินีเจตซุน เพมา วังชุก” หลังจากมีพระโอรสสองพระองค์แล้ว นั่นคือ เจ้าชายจิกมี นัมเกล วังชุก และเจ้าชายจิกมี อุกเยน วังชุก ส่วนพระธิดาองค์แรกที่เพิ่งลืมตาดูโลกเมื่อเดือนกันยายนนั้น ก่อนหน้าพระองค์ทรงโพสต์ลงอินสตาแกรมว่าทั้งลูกและแม่แข็งแรงดี พระองค์ยังตรัสขอบคุณหมอและพยาบาลที่ให้การดูแลเป็นอย่างดี นำความปลื้มปีติมาสู่ประชาชนชาวภูฏานเป็นล้นพ้น
Comments are closed.