กลายเป็นข่าวฮือฮา เมื่อลูกชายของโจ มาโลน ถูกเปิดเผยว่าเป็นตัวตั้งตัวตีของกลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ที่ได้ออกจดหมายเปิดผนึกกล่าวหาว่า อิสราเอลเป็นต้นเหตุให้เกิดการโจมตีสุดโหดเหี้ยมของกลุ่มฮามาส เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา
ลูกชายคนเดียวของแกรี่ วิวคอกซ์ และโจ มาโลน ผู้ก่อตั้งน้ำหอมแบรนด์ดังชาวอังกฤษ “จอช วิวคอซ์” วัย 22 ปีนักศึกษาด้านภาษาและอารยธรรมตะวันออกของมหาวิยาลัยฮาร์วาร์ด และเป็นสมาชิกของกลุ่มผู้สนับสนุนกลุ่มชนชาวปาเลสไตน์ ซึ่งเป็นหนึ่งใน 34 กลุ่มนักศึกษา ที่ได้ร่วมร่างจดหมายเปิดผนึกถึงเหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้น ว่าเป็นสาเหตุเป็นเพราะรัฐบาลอิสราเอล ทำให้กลุ่มแบ่งแยกดินแดนฮามาส กระทำการดังกล่าวขึ้น พร้อมกับเรียกร้องเสรีภาพของชาวปาเลสไตน์
การเคลื่อนไหวนี้ดูขัดแย้งกับทิศทางการสนับสนุนของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ทำเอาเกิดกระแสตีกลับอย่างรุนแรง มีนักธุรกิจเชื้อสายยิวหลายราย ออกมาเรียกร้องให้เปิดเผยรายชื่อเหล่านักศึกษาที่ร่วมลงชื่อในจดหมายเปิดผนึกนี้ เพื่อจะได้พิจารณาถึงการไม่รับเข้าทำงานในอนาคต บ้างก็มีการเรียกร้องให้บอยคอตผลิตภัณฑ์ของโจ มาโลน
ทั้งนี้ ทางแบรนด์ โจ มาโลน ได้ออกมาบอกว่า ไม่เกี่ยวข้องใดๆ กับ โจ มาโลน (ผู้ก่อตั้ง) มาตั้งแต่ปี 2006 แล้ว ซึ่งโจ มาโลนเองได้ขายแบรนด์เครื่องหอมนี้ให้กับ บริษัท เอสเต้ ลอเดอร์ เมื่อปี 1999 และเธอได้นั่งเป็นครีเอทีฟไดเรกเตอร์ต่อ ก่อนจะลาออกไปสร้างแบรนด์ใหม่ของตัวเองในนาม “โจ เลิฟส์” เมื่อปี 2006
ไม่เพียงแต่ทางแบรนด์จะไม่มีส่วนเกี่ยวพันกับจุดยืนการแสดงออกของจอชแล้ว ที่จริงแล้ว ทางเจ้าของใหม่ของแบรนด์อาจจะมีมุมมองที่แตกต่างอย่างสุดขั้ว เพราะผู้บริหารของแบรนด์ อย่าง โรนัล ลอเดอร์ มีฐานะเป็นประธานของสภายิวโลก (องค์กรตัวแทนพลเมืองชาวยิวที่อาศัยอยู่ทั่วโลก) เขาเป็นกระบอกเสียงให้กับชาวยิว และออกมาเคลื่อนไวต่อต้านกระแสเกลียดชังกลุ่มชาวยิว (anti-Semitism) มาโดยตลอดอีกด้วย
Comments are closed.