เรื่องลับๆ ของ คูกวางโม ประธานแอลจี

ใครไม่เคยเชื่อเรื่องบุญพาวาสนาส่ง ต้องมาดูเรื่องราวชีวิตของประธานบริษัท แอลจี คนปัจจุบัน คูกวางโม เป็นตัวอย่าง


จากเด็กกำพร้าที่กลายมาเป็นลูกเลี้ยงของ คูบอนมู อดีตประธานแอลจีคนก่อน ตอนนี้ขึ้นมานั่งเป็นประธานและถือหุ้นส่วนใหญ่กลุ่ม “แชโบล” ที่ชื่อว่า แอลจี หรือ ลัคกี้ โกลด์สตาร์


“แชโบล” คือ กลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ที่ทรงอิทธิพลทางการค้า และการลงทุนในประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งเกิดขึ้นหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยในเกาหลีใต้มีอยู่ไม่กี่บริษัทที่ล้วนมีชื่อคุ้นหู ไม่ว่าจะเป็นซัมซุง ฮุนได ลอตเต้ เอสเค กรุ๊ป และแอลจี


พักหลังๆ กลุ่มธุรกิจ “แชโบล” มักพยายามเข้ามามีอิทธิพลทางการเมือง หลายรายถูกจับได้ว่า มอบเงินใต้โต๊ะให้รัฐบาลเพื่อผลประโยชน์ของธุรกิจตัวเอง พากันถูกฟ้องร้องขึ้นโรงขึ้นศาล และติดคุกติดตารางไปพร้อมๆ กับนักการเมืองที่ร่วมขบวนการ


ทว่า ทั้ง คูบอนมู ประธานคนก่อน และ คูกวางโม ประธานบริษัท แอลจี คนปัจจุบัน ต่างก็ใสสะอาด ปราศจากความด่างพร้อยด้านคดีอาชญากรรมทางเศรษฐกิจต่างจากกลุ่มแชโบลอื่นๆ

คูกวางโม ที่ใครๆ ก็รู้ว่า ไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของ คูบอนมู ขึ้นเป็นประธานแอลจี หลังจากที่บิดาบุญธรรมเสียชีวิตลงอย่างปัจจุบันทันด่วน ใครๆ ก็ว่าเป็นเรื่อง “ส้มหล่น” แต่จริงๆ แล้วก็เป็นการวางแผนสืบทอดอำนาจของคูบอนมูที่วางเอาไว้ตั้งแต่ต้นแล้ว

แม้จะเป็นบริษัทกลุ่ม “แชโบล” หรือกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ ทว่า แอลจี มีสไตล์การบริหารที่แตกต่างจาก “แชโบล” อื่นๆ ในเกาหลีใต้ พวกเขาไม่เล่นใหญ่ แต่ยังทำงานเหมือนกับว่าตัวเองยังคงเป็นบริษัทเล็กๆ ที่สืบต่อกันแบบธุรกิจครอบครัวเท่านั้น

คูบอนมู ยังคงยึดความเชื่อแบบเดิมๆ ว่า ธุรกิจต้องส่งต่อถึงลูกชายคนโตเท่านั้น ซึ่งความจริงแล้วตัวเขาก็มีบุตรชายแท้ๆ หนึ่งคนกับบุตรสาวอีกหนึ่งคน ทว่า ในปี 1994 ลูกชายแท้ๆ ของเขากลับเสียชีวิตไปในวัยเพียง 19 ปีเท่านั้น หลังพยายามมีทายาทชายเท่าไหร่ก็ไม่สำเร็จ จึงตัดสินใจรับลูกบุญธรรม คูกวางโม เพื่อมาสืบทอดกิจการแอลจี

เบื้องหลังการสรรหาเด็กชายที่จะมาเป็นบุตรบุญธรรม ก็ไม่ใช่ว่า มองหน้าแล้วถูกชะตาแล้วก็รับมาเลี้ยงซะเมื่อไหร่ งานนี้มี “แม่หมอ(ดู)” เข้ามามีเอี่ยวด้วย

แหล่งข่าวใกล้ชิดบอกว่า พวกเขามีลิสต์รายชื่อพร้อมดวงชะตาของเด็กชาย ที่การตัดสินใจสุดท้ายผ่านการจับยามสามตา ดูดวงชะตาว่า ใครจะมีอนาคตสดใสที่สุด — นี่คือเบื้องหลังการสรรหาผู้บริหารในอนาคตของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ แบบเรื่องจริงไม่ได้อิงซีรีส์เกาหลีเลยสักนิดเดียว

แน่ล่ะว่า กลิ่นอายกึ่งๆ นิยายปโลมโลกปานนี้ ย่อมเต็มไปด้วยเสียงวิพากษ์วิจารณ์ โดยเฉพาะแนวคิดการสืบทอดอำนาจการบริหารจากพ่อสู่ลูกชายเท่านั้น


ศาสตราจารย์ลีฟิลซัง จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติเกาหลีใต้ กรุงโซล มองว่า ขนาดบริษัทใหญ่ๆ ยังเชื่อเรื่องระบบการปกครองแบบศักดินาเลย “ผมไม่ได้ต่อต้านระบบนี้ แต่เห็นว่า อาจมีข้อดีในระยะสั้น แต่ก็ควรมีการเปลี่ยนแปลงในระยะยาว”


อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าโลกจะหมุนไปไกลขนาดไหน การสืบทอดธุรกิจให้ลูกผู้ชายเท่านั้น ดูเหมือนจะเป็น “เอกลักษณ์” ในการดำเนินธุรกิจของเกาหลีใต้ ที่ยากจะเปลี่ยนแปลงในเร็วๆ นี้


เช่นเดียวกับที่ธุรกิจแอลจี มูลค่า 1,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่ตกมาอยู่ภายใต้การบริหารงานของ คูกวางโม นั่นแหละ