นับเป็นข่าวน่าตกใจที่เขย่าบัลลังก์ราชวงศ์สเปนและบรรดารอยัลลิสต์ทั่วโลก เมื่อสำนักพระราชวังสเปนได้ออกแถลงว่า อดีตกษัตริย์สเปน สมเด็จพระราชาธิบดีฆวน การ์โลส เสด็จฯ ออกนอกประเทศหลังจากอัยการดำเนินการสอบสวนคดีทุจริตในซาอุฯ ที่ทรงได้รับการถวายเงิน 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ กว่า 3.2 พันล้านบาท เข้าบัญชีลับส่วนพระองค์
กรณีนี้เป็นอีกหนึ่งกรณีอื้อฉาวของราชวงศ์สเปน ที่ได้สร้างความสั่นสะเทือนต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างมาก เพราะก่อนหน้านี้บรรดาสมาชิกของราชวงศ์ก็พากันเป็นข่าวหน้าหนึ่งมาอย่างต่อเนื่อง
เริ่มจากการตกเป็นข่าวใหญ่ปี 2555 ของเจ้าหญิงคริสตินา พระราชธิดาในสมเด็จพระราชาธิบดีฆวน การ์โลส และพระสวามี นายอิกานี อูร์ดันการิน ถูกกล่าวหาว่ายักยอกเงิน และฟอกเงินจากกองทุนการกุศลนูส์ที่นายอิกานีเป็นประธานสถาบัน และเจ้าหญิงทรงเป็นคณะกรรมการบริหาร เป็นเงินกว่า 6.5 ล้านดอลลาร์ หรือ 200 ล้านบาท
กรณีนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์นับตั้งแต่การรื้อฟื้นระบอบกษัตริย์ในสเปนเมื่อทศวรรษที่ 1970 ที่สมาชิกราชวงศ์ระดับสูงถูกกล่าวหาในคดีอาญาและต้องขึ้นศาล เป็นการสร้างความอับอายอย่างมาก และกระทบต่อความนิยมในสถาบันกษัตริย์ ที่ได้ปรากฏในผลตรวจสอบภายหลังว่าลดลงต่ำกว่า 50% เลยทีเดียว
ด้านสมเด็จพระราชาธิบดีฆวน การ์โลส ทรงเคยเป็นกษัตริย์ที่ได้รับการยกย่องอย่างมาก แต่ในช่วงไม่กี่ปีก่อน พ.ศ. 2557 ที่พระองค์จะสละราชบัลลังก์นั้น ความนิยมกลับพลิกผัน เมื่อพระองค์ทรงตกเป็นข่าวใหญ่กรณีการไปล่าช้างที่ซาฟารีในบอสวานากับพระชายาลับ เป็นการใช้ชีวิตอย่างหรูหราฟุ่มเฟือยภายใต้วิกฤตเศรษฐกิจที่ประชาชนชาวสเปนกำลังเผชิญอยู่
ล่าสุดกษัตริย์พระองค์ปัจจุบัน สมเด็จพระราชาธิบดีเฟลิเป ก็ทรงถูกพาดพิงว่าใช้ชีวิตอย่างหรูหราจากเงินที่อยู่ในต่างประเทศของพระบรมราชชนกหลายล้านดอลลาร์
เมื่อมีข่าวการเสด็จหนีออกนอกสเปนของพระราชบิดา พระองค์จึงทรงยกเลิกเงินเดือนกว่า 7 ล้านบาทของพระราชบิดา และประกาศไม่รับมรดกใดๆ ทั้งสิ้นจากอดีตกษัตริย์ฆวน การ์โลส ทั้งสิ้น เป็นการพยายามที่จะดับไฟในวิกฤตการณ์ราชวงศ์สเปนในปัจจุบัน
รูปจาก Twitter @CasaReal
Comments are closed.