โลกบันเทิงกำลังหมุนผ่านไปอีกปี ทิ้งเรื่องราวบางอย่างไว้เป็นความทรงจำ มีทั้งข่าวดี ข่าวฉาว ข่าวรัก ข่าวเลิก ของบรรดาคนดัง ซึ่งจะมีใครเป็นที่สุดทางด้านใดบ้าง ตามไปดูกัน?
:: ฉาวแห่งปี
ตำแหน่งนี้ยกให้ “คานเย เวสต์” ที่ตกเป็นข่าวพาดหัวได้ทุกไตรมาส ไม่ว่าจะเป็นการระหองระแหงกับภรรยาเก่า มีดราม่าตอบโต้กันไม่หยุด การออกมาวิพากษ์วิจารณ์ประเด็นสังคมต่างๆ ในแบบสุดโต่ง และสำคัญที่สุดคือ การเหยียดเชื้อชาติชาวยิว ที่ทำเอาแบรนด์ทั้งหลายต้องออกมาถอนสปอนเซอร์กันเป็นแถว แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียก็ระงับบัญชีไม่ให้เขาใช้งาน บรรดาร้านค้าเลิกขายสินค้าที่เขามีส่วนร่วม และหลายแห่งประกาศแบนทั้งเพลงและทุกอย่างเกี่ยวกับเขา
:: จอมแฉแห่งปี
อันนี้ต้องยกให้กับ “เมแกน มาร์เคิล” ที่แม้ต้นปีจะเงียบๆ ดูไม่เป็นข่าวอะไรมาก แต่มากราฟพุ่งแซงทุกคนช่วงปลายปี เมื่อ Netflix นำแผลเก่าซึ่งเป็นรอยร้าวระหว่างดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ กับราชวงศ์อังกฤษ มาขยี้อีกครั้ง ด้วยซีรีส์สารคดี ‘Harry & Meghan’ ที่สาวเมแกนใส่ไฟทำลายภาพลักษณ์ราชวงศ์อย่างสนุกสนาน ให้สัมภาษณ์ในแง่มุมตัวเองแบบไม่แคร์สื่อ ถึงเรื่องคับข้องใจของปรินซ์แฮร์รี ล้อเลียนธรรมเนียมประเพณี และบอกว่าโดนปฏิบัติไม่ดี รู้สึกไม่เป็นที่ยอมรับ ลากยาวไปถึงการถูกเหยียดสีผิวเชื้อชาติ และก็ดูจะยังไม่จบแค่นี้เพราะเธอมีแพลนจะทำสารคดีแฉซีซันส์อื่นๆ ต่อไปอีก
:: ดาวรุ่งแห่งปี
ใช้คำว่า “ดาวรุ่ง” กับรุ่นเก๋าแห่งฮอลลีวู้ด “ทอม ครูซ” อาจจะดูแปลกๆ แต่ปีนี้คำนี้เหมาะสมมาก เพราะเขาพาผลงานระดับตำนาน อย่าง ท็อปกัน กลับมาท็อปฟอร์มในภาคต่อ ถึงแม้จะห่างหายไปเกือบ 40 ปี ก็ยังสามารถจับใจคนดูต่างเจนเนอเรชันได้อย่างอยู่หมัด ทำรายได้ไปทั่วโลกเกือบ 1.5 พันล้านเหรียญ หรือราวๆ 5 หมื่นล้านบาท แถมยังได้รับเกรดระดับ A+ จากนักวิจารณ์ส่วนใหญ่ จนถูกยกให้เป็นตำนานบล็อกบาสเตอร์แห่งฮอลลีวู้ดคนเดียวที่ยังเหลืออยู่ จนคนพากันลืมกระแสดรามาข่าวลบๆ เกี่ยวกับการนับถือศาสนาแปลกๆ ของเขา แถมยังพากันแห่สนใจรอดูผลงานถัดไปของเขา อย่าง มิชชั่น อิมพอสซิเบิล ภาคใหม่กันอย่างล้นหลาม
:: ดาวร่วงแห่งปี
เป็นข่าวใหญ่ตั้งแต่ต้นไป สำหรับ “วิล สมิธ” ที่ไปตบหน้า “คริส ร็อก” พิธีกรบนเวทีรางวัลออสการ์ที่กำลังถ่ายทอดสด เพราะไม่พอใจที่คริสกล่าวล้อเลียนภรรยาสุดที่รักของเขา “จาดา พิงเก็ตต์ สมิธ” ทำเอาตะลึงกันไปทั้งโลก แม้หลังจากนั้น วิลจะได้รับรางวัลสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจาก ‘King Richard’ แต่กระแสตอบกลับในแง่ลบจากการกระทำอันรุนแรงนี้ ทำให้เขาเงียบหายไปแทบจะทั้งปี ทั้งโดนแบนจากออสการ์จนสุดท้ายเขาไปขอลาออก หนังโดนเลื่อนฉาย และเมื่อเข้าฉายช่วงปลายปีที่ผ่านมา ก็เข้าโรงแบบจำกัดจำนวนในช่วงเวลาสั้นมากๆ ถึงขนาดเขาได้ออกมาเรียกร้องขอความเห็นใจว่า เขาเข้าใจถ้าใครจะไม่อยากดูผลงานเขาอีกต่อไป แต่ก็อยากให้ลองให้โอกาส ให้เปิดใจ และนึกถึงผู้ร่วมงานคนอื่นๆ ที่ไม่ได้ทำผิดอะไร ต้องมารับผลกรรมไปด้วย
:: รักแห่งปี
อดีตคู่รักก้องโลกที่กลับมารีเทิร์นใหม่ “เจนนิเฟอร์ โลเปซ & เบน แอฟเฟล็ก” ที่เคยตกลงปลงใจครองคู่กันตั้งแต่ปี 2002 แต่ในปี 2004 สองวันก่อนกำหนดแต่งงาน จู่ๆ ความรักก็ละลาย ไม่กี่เดือนต่อมา เจโลก็เข้าหอกับ “มาร์ก แอนโทนี” และมีลูกแฝดด้วยกัน ส่วน เบน แอฟเฟล็ก แต่งงานกับ “เจนนิเฟอร์ การ์เนอร์” และมีลูกด้วยกันสามคน จากนั้นทั้งสองก็หย่าร้าง และพบคู่ครองคนใหม่ แต่ต่างคนต่างก็ไม่ชื่นมื่นกับความรัก จนกระทั่งปี 2021 เบนและเจโลหวนกลับมาคลิกกันใหม่ เดือนเมษายน 2022 มีการประกาศข่าวการหมั้นภาค 2 ในที่สุดงานแต่งก็มาถึงในเดือนกรกฎาคม เดือนถัดมาเป็นงานเลี้ยงในหมู่ญาติและเพื่อนสนิท
:: เลิกแห่งปี
แม้จะเลิกกันมาพักหนึ่งแล้ว แต่ปีนี้ข่าวร้างของคู่นี้ก็ดังแบบสุดๆ สำหรับ “จอห์นนี เดปป์ & แอมเบอร์ เฮิร์ด” ที่ผู้คนเกาะติดคดีที่ จอห์นนี เดปป์ ฟ้องร้องอดีตภรรยา 50 ล้านดอลลาร์ จากการกล่าวหาเขาผ่าน Washington Post เมื่อปี 2018 เรื่องการใช้ความรุนแรงระหว่างที่ใช้ชีวิตคู่กันอยู่ มีการถ่ายทอดสดการพิจารณาคดีในชั้นศาล และมียอดสตรีมเมอร์สูงถึง 3.5 ล้าน ตกเป็นประเด็นวิจารณ์ของคนทั่วโลกลากยาวเป็นเดือน จนมีผลตัดสินใจฝ่ายหญิงผิดจริง และต้องชดใช้เงินให้กับพระเอกดังแบบกระเป๋าฉีกกันเลยทีเดียว
:: ลุคแฟชั่นแห่งปี
ภาพของ “คิม คาร์ดาเชียน” จากงาน Met Gala เมื่อเดือนพฤษภาคมในนครนิวยอร์ก กลายเป็นคำถามว่า เธอคือ มาริลีน มอนโร แห่งยุคสมัยใหม่? ส่วนคำตอบจะเป็นอย่างไรก็ช่าง อย่างน้อยชุดที่เธอสวมในคืนนั้นเป็นชุดของมอนโรจากปี 1962 เธอสวมชุดนี้ร้องเพลง ‘Happy Birthday Mr. President’ อวยพรวันเกิดให้กับ ประธานาธิบดีจอห์น เอฟ. เคนเนดี ใครก็ตามที่สวมชุดนี้ได้ย่อมหมายความว่า ต้องไดเอทมาก่อนหน้า คาร์ดาเชียนก็เช่นกัน เธออดอาหาร ลดน้ำหนัก ก่อนสวมชุดนี้ออกงาน กลายเป็นข่าวดัง แต่ถึงกระนั้นก็มีข่าวว่าชุดเสียหายอย่างหนัก เพราะมีทั้งรอยปริและผ้ายืดย้วยเสียทรง จนผู้คนวิจารณ์ถึงเหตุการณ์นี้ว่า นี่เป็นการทำลายแฟชั่นชิ้นสำคัญทางประวัติศาสตร์เลยทีเดียว
Comments are closed.