ช่วงที่ผ่านมา ข่าวฮอตฮิตอันดับหนึ่งคงไม่มีใครแซงหน้า ข่าวน่าสงสัยของเงินบริจาคกับไฟป่าของไลฟ์โค้ชคนดัง “ฌอน บูรณะหิรัญ” ที่เริ่มจากการชื่นชมบิ๊กป้อมออกสื่อ จนกลายเป็นโดนดราม่าขุดคุ้ยลากยาว ตั้งแต่สมัยอยู่ต่างประเทศ มาจนถึงความไม่โปร่งใสของการับบริจาค
ซึ่งจะว่าไปแล้ว ฌอน ไม่ใช่ไลฟ์โค้ชคนดังเคสแรกที่โดนกระแสด้านลบ กับการเปิดโปงมุมมืดที่ขัดกับภาพพจน์สวยหรูที่สร้างมาอย่างงดงาม เริ่มตั้งแต่ดราม่า “ครูอ้อย” ฐิตินาถ ณ พัทลุง” เจ้าของวิถี เข็มทิศชีวิต ที่ถือเป็นตำนานไลฟ์โค้ชของเมืองไทย ผู้บุกเบิกคนแรกๆ ที่ทำให้ศาสตร์ทางด้านนี้เป็นที่รู้จัก มีหนังสือสร้างแรงบันดาลใจติดอันดับขายดีหลายเล่ม ที่หลังจากได้รับความนิยมและเป็นกูรูผู้โด่งดังอยู่นับเป็นสิบปี ก็โดนออกมาแฉ ไม่ว่าจะเป็นการเป็นนายหน้าหุ้น การสกัดดาวรุ่ง ไลฟ์โค้ชรุ่นน้องๆ รวมไปถึงการชอบเอาชื่อคนดังมาโปรโมทคอร์สเรียนของเธอโดยที่เจ้าตัวไม่เต็มใจ ก็ทำให้ผู้คนเริ่มตั้งคำถามว่าเข็มทิศชีวิตนี้ชี้ไปทางไหนกันแน่
หรือจะเป็น “ดร.ป๊อป” ฐาวรา สิริพิพัฒน์ นักเขียนคนดังที่สร้างชื่อด้วยการเขียนนิยายไซไฟติดอันดับตั้งแต่สมัยเรียน จนมาก้าวมาเป็นนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ จัดคอร์สมากมาย ก็ไม่วายโดนดราม่าเรื่องเนื้อหาและวิถีการนำเสนอ ที่ดูจะขัดกับหลักของจิตวิทยา และเป็นการกระตุ้นให้เกิดผลเสียต่อผู้ที่ต้องการคำแนะนำมากมายจะสร้างแรงบันดาลใจ จนทำให้มีแฮชแท็กขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์อยู่หลายครั้ง
หรือเมื่อไม่นานนี้ก็มีกรณีของ “ผู้กองเบนซ์” ร้อยตำรวจเอกสี่ทิศ อ่ำถนอม ที่เพิ่งเกิดช่วงวิกฤตโควิดนี้ อดีตข้าราชการตำรวจที่ลาออกมาสถาปนาตัวเป็นกูรูฝีปากกล้า โชว์สไตล์พูดจริง พูดตรง เน้นความหยาบคายโดนใจวัยรุ่นสมัยนี้ ที่มีดราม่าจากคำพูดในไลฟ์สดหรือคลิปต่างๆ อยู่เป็นระยะ จนมาพีคสุดกับคำกล่าว ที่หาว่าคนที่ประสบปัญหาเศรษฐกิจ หรือ ตกงาน อดตาย ช่วงโควิดนี้ เป็นเพราะผลกระทบจากไวรัสร้าย หรือ กระจอก ขี้เกียจ กันแน่ แถมยังบอกว่าเหล่าคนฉลาดเขารู้จักมองหาโอกาสในช่วงนี้ได้ ทำเอาคนที่ได้ฟังต่างหัวร้อนกันเป็นแถว เลยพากันไปขุดคำพูดเก่าๆ ที่เคยเป็นประเด็นออกมาตีแผ่กันยกใหญ่ จนเจ้าตัวต้องออกมาขอโทษลดดราม่าสุดร้อนแรงลง
ไม่เพียงเท่านั้นในต่างประเทศเอง ไลฟ์โค้ชระดับอินเตอร์เองก็โดนดราม่ามาไม่น้อยเช่นกัน เริ่มจาก “โทนี่ รอบบินส์” ไลฟ์โค้ช ชื่อดังอันดับหนึ่งของโลก ที่มีลูกค้าคนดังอย่าง ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ / บิล คลินตัน / เซเรน่า วิลเลี่ยม รวมไปถึงผู้นำของหลายประเทศ ที่ถือเป็นมือหนึ่งของการพูดสร้างแรงบันดาลใจ มีสารคดีในเน็ตฟลิกชื่อ I am not your guru และเดินทางเปิดคอร์สสอนไปทั่วโลก และแต่ละครั้งที่ขึ้นเวที รับเงินหลักร้อยล้านบาท โดยรวมแล้วรายได้รายปีเขานับแสนล้านบาท
โดยโทนี รอบบินส์ โดนจับตามองว่าเป็นพวกเหยียดเพศ เคยมีประเด็นการพูดถึงเหล่าผู้หญิงที่ออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องให้ตระหนักถึงการคุกคามทางเพศว่าเป็นพวกเรียกร้องความสนใจและอยากมีตัวตน แถมยังเคยมีข่าวว่าเขาเคยล่วงละเมิดหญิงสาวเมื่อสมัยยังหนุ่มๆ และถึงแม้โทนี่ได้ออกมาปฏิเสธ และจ้างทีมกฏหมายฟ้องร้องสื่อที่ออกมาปูดข่าวนี้ แต่ข่าวลือนี้ก็ทำให้เขาเสื่อมเสียชื่อเสียงไม่น้อยเลยทีเดียว
อีกหนึ่งไลฟ์โค้ชที่ได้รับความนิยมไม่น้อยเช่นกัน อย่าง มาร์ธา เบค ศิษย์เก่าฮาวาร์ด เธอร่ำเรียนมาด้านสังคมวิทยา และเก่งกาจด้านจิตวิทยา เป็นเจ้าของหนังสือสร้างแรงบันดาลใจระดับเบสเซลเลอร์หลายเล่ม โดยเป็นที่รู้จักว่าเป็นผู้ให้คำปรึกษาด้านการใช้ชีวิตที่ทำให้โอปราห์ วินฟรี เจ้าแม่ทอล์กโชว์มีชีวิตที่ประสบความสำเร็จได้อย่างปัจจุบัน และยังช่วยให้เฟอร์กี้ ซาร่าห์ เฟอร์กูสัน อดีตพระชายาของเจ้าชายแอนดรูว์ มีจิตใจที่เข้มแข็ง ออกมาจากหลุมดำและรับมือกับสารพัดเรื่องอื้อฉาวได้
โดยเธอเองก็โดนดราม่าใช่น้อย จากหนังสือกึ่งชีวประวัติที่เธอตีพิมพ์เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ซึ่งเขียนแฉเรื่องราวในอดีตของตัวเอง อย่างการถูกพ่อแท้ๆ ของเธอคุกคามทางเพศในช่วงวัยเด็ก ซึ่งแม่และบรรดาพี่น้อง เครือญาติของเธอ ต่างพากันดาหน้าออกมาให้สัมภาษณ์ว่าเป็นเรื่องแต่ง และไม่มีทางที่จะเกิดขึ้นได้โดยที่พวกเขาไม่ได้รับรู้ และเป็นสิ่งที่มาธาร์สร้างขึ้นเพื่อขายดราม่าให้ประสบการณ์ชีวิตที่เธอก้าวผ่านดูมีสีสันกว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นไลฟ์โค้ชคนดังได้อย่างทุกวันนี้
ส่วนไลฟ์โค้ชอีกคนที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ คือ พอลล่า ไวท์ นักเทศน์หญิงและไลฟ์โค้ชคนดัง ผู้นำด้านจิตวิญญาณส่วนตัวของโดนัล ทรัมป์ เป็นที่ปรึกษาด้านความเชื่อและเป็นคนที่ว่ากันว่าทรัมป์ให้ความเชื่อถือและรับฟังคำแนะนำมากที่สุด โดยสาวคนนี้มีดราม่ามากมาย ตั้งแต่ความเชื่อของเธอหลายๆ ครั้งที่แสดงออกมาว่าขัดกับความเชื่อของศาสนาคริสต์และคำสอนของพระเจ้า รวมไปถึงเรื่องเงินๆ ทองๆ เกี่ยวกับเงินบริจาค และองค์กรศาสนาของเธอที่หลายคนจับตามองว่ามีการจัดขึ้นเพื่อเลี่ยงภาษี ที่สำคัญคือหลายคนเชื่อว่าเธอคือที่มาของแนวคิดสุดโต่งหลายๆ ของทรัมป์
อีกหนึ่งสาวที่ขึ้นชื่อว่าเป็น หนึ่งในไลฟ์โค้ชที่มาแรงที่สุดในยุคนี้ “มาริเอะ คนโดะ” ที่แม้เธอจะไม่ได้เป็นผู้ชี้แนะการดำเนินชีวิต และวิถีคิดเหมือนไลฟ์โค้ชอื่นๆ ทั่วไป แต่สาวญี่ปุ่นคนนี้เน้นเรื่องการจัดการความเรียบร้อยของบ้าน การเก็บสิ่งของ หรือวิธีการแพ็กกระเป๋า แต่การนำเสนอของเธอที่เน้นให้เห็นถึงจิตวิญญาณ รู้สึกขอบคุณสิ่งของรอบตัว และเน้นหนักถึงการสร้างความสุขในชีวิต อย่างการ Spark Joy ให้เลือกเก็บแต่สิ่งของที่สร้างความสุข รวมทั้งแนวคิดที่เธอตั้งชื่อว่า คนมาริ (Konmari) ใช้การจัดบ้านมาเปลี่ยนชีวิต ก็ได้รับการเผยแพร่ไปทั่วโลกก็ไม่วายโดนดราม่าอยู่เป็นประจำ
ทั้งการที่มีสาวอเมริกัน ลินดา คูเปอร์สมิธ ออกมาแฉว่าวิธีการพับผ้าแนวตั้งเพื่อจัดวางให้มองเห็นเสื้อผ้าได้ทุกตัวที่มาริเอะบอกว่าเธอคิดค้นนั้น สาวลินดาได้เคยแนะนำวิธีนี้ในรายการโทรทัศน์เกี่ยวกับการจัดเก็บบ้านตั้งแต่สมัยเกือบ 20 ปีมาแล้ว
รวมทั้งการเปิดขายของแต่งบ้านออนไลน์ในเว็ปไซต์ของเธอ ที่ดูจะขัดกับวิถีแนวทางจัดบ้านของเธอที่พร่ำบอกว่า ให้ใช้เท่าที่มี และพยายามให้โละของที่ไม่จำเป็นทิ้งไป กลับมาขายของให้คนอื่นเอาไปรกไว้ที่บ้านซะเอง แถมสินค้าที่เธอเลือกมาแต่ละชิ้นก็แพงหูฉี่ ชั้นนิดที่ว่าราคาสูงกว่าท้องตลาดทั่วไปนับสิบเท่าเลยทีเดียว นับได้ว่าเป็นสนับสนุนความฟุ้งเฟ้อที่สวนทางกับแนวคิดสปาร์กจอยที่เน้นความสุขซึ่งเป็นหัวใจหลักในการใช้ชีวิตที่เธอพยายามเผยแพร่
เรียกได้ว่าไม่ว่าจะไทยหรือเทศ บรรดาไลฟ์โค้ชทั้งหลายต่างต้องเผชิญกับสารพัดดราม่า ใครที่ถ้าไม่ใช่ของแท้ ของจริง ต่างก็ตั้งระวังตัว ระมัดระวังในการแสดงออก เพราะทุกคนต่างจับตามองทุกฝีก้าว พลาดพลั้งขึ้นมาเมื่อไหร่รับรองได้ว่าถูกขุคคุ้ยกันมาแฉกันแบบไม่เหลือชิ้นดีแน่นอน
Comments are closed.