อากิเอะ อาเบะ แตกต่างจากภริยาของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นคนอื่นๆ เธอเคยมีอาชีพเป็นดีเจ เปิดร้านอิซากายะ มีอินสตาแกรมของตัวเอง และสนับสนุนสิทธิของกลุ่ม LGBT
เกือบเดือนแล้วที่ ชินโสะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีที่อยู่ในตำแหน่งยาวนานที่สุดของญี่ปุ่น ถูกลอบสังหารเสียชีวิต แต่คนญี่ปุ่นยังคงเศร้าโศกจากการจากไปของเขา ด้วยความที่ชินโสะได้สร้างคุณูปการให้กับแดนอาทิตย์อุทัยไว้มากมายเหลือเกิน โดยเฉพาะการนำพาญี่ปุ่นฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจในปี 2012 ที่เรียกว่านโยบายผลักดันเศรษฐกิจ อาเบะโนมิกส์ นอกจากนี้ เขายังสามารถนำเอากีฬาโอลิมปิกมาแข่งขันกันที่กรุงโตเกียวได้เป็นผลสำเร็จ รวมทั้ง มีสัมพันธ์อันดีกับประธานาธิบดีที่เจ้าอารมณ์ที่สุดของสหรัฐอเมริกา อย่างโดนัลด์ ทรัมป์
ไม่เพียงชินโสะ อาเบะ เท่านั้น ที่รับใช้ชาติมานานที่สุด ฝ่ายภริยาของเขา อากิเอะ อาเบะ ก็มีความแตกต่าง ไม่เหมือนภริยานายกรัฐมนตรีคนอื่นๆ ที่ผ่านมาของญี่ปุ่น ที่มักจะเป็นแม่บ้านอย่างแท้จริง ขณะที่ อากิเอะ มีการมีงานเป็นของตัวเอง
ในปี 2014 เดอะ เจแปน ไทม์ส รายงานว่า “ญี่ปุ่นไม่เคยมีสตรีหมายเลขหนึ่งแบบนี้ แทบจะไม่มีใครในญี่ปุ่นรู้จักตัวตนของสตรีหมายเลขหนึ่งที่ผ่านมาเลยละมั้ง?”
อากิเอะ เกิดในตระกูลดังของญี่ปุ่น เดิมเธอคือ อากิเอะ มัตซึซากิ เป็นธิดาของประธานบริษัท โมรินากะ แอนด์ โค. หนึ่งในบริษัทผลิตขนมที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น
หนังสือพิมพ์สเตรทส์ ไทม์ส รายงานว่า เธอเติบโตมากับชีวิตเหนือระดับ ได้รับการศึกษาจากโรงเรียนคริสเตียนเอกชนที่มีแต่ลูกเศรษฐีเรียนกัน ก่อนจะไปจบที่วิทยาลัยอาชีวะพระหฤทัย และจบปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยริกเกียว ในปี 2011
อากิเอะ เติบโตมาในครอบครัวที่เปิดกว้าง ทำให้เธอสามารถตัดสินใจจะเลือกอาชีพอะไรก็ได้ตามที่ต้องการ โดยเริ่มจากการร่วมงานกับบริษัทโฆษณาดัง เดนสึ อันเป็นที่ที่ทำให้เธอได้รู้จักกับ ชินโสะ อาเบะ ซึ่งขณะนั้นทำงานเป็นผู้ช่วยนักการเมืองอยู่ พวกเขาแต่งงานกันในปี 1987
หลังแต่งงาน อากิเอะ เปลี่ยนงานมาเป็นดีเจที่สถานีวิทยุบ้านเกิดสามี ชิโมโนะเซกิ โดยใช้ชื่อในวงการว่า ดีเจอั๊กกี้ ก่อนที่เธอจะต้องพักงานดีเจเอาไว้ก่อน เพื่อที่จะมาทำหน้าที่สตรีหมายเลขหนึ่ง หลังจากชินโสะ อาเบะ ได้รับเลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีครั้งแรก เมื่อปี 2006
เมื่อชินโสะประกาศลาออกในปีถัดมา อากิเอะ เลยเปิดร้านอิซากายะ อูซุ (แปลว่าลมหมุน) ในย่านคันดะของกรุงโตเกียว เธอจริงจังถึงขั้นปลูกข้าวออร์แกนิกเองบนที่ดินของพ่อ เพื่อที่จะนำมาเสิร์ฟที่ร้าน
โดยปกติแล้ว นักการเมืองชาวญี่ปุ่นจะไม่แสดงออกเรื่องความรักต่อภรรยาในที่สาธารณะ ผิดจากคู่ของชินโสะและอากิเอะ ที่แสดงออกเป็นประจำ สื่อญี่ปุ่นมันกจับภาพที่พวกเขาเดินจับมือถือแขน นอกจากนี้ พวกเขายังโพสต์ภาพความชื่นมื่นนี้ลงในโซเชี่ยลมีเดียส่วนตัวบ่อยๆ
ชินโสะ เคยแชร์วิดีโอที่เขาติดตั้งที่เคาะประตูรูปบีเวอร์ให้อากิเอะด้วยตัวเอง ในปี 2019 ในคลิปยังมีตอนที่ติดตั้งเสร็จแล้วอากิเอะทดลองเคาะเล่นอย่างสนุกสนาน
การเข้ามาอยู่ในตำแหน่งสตรีหมายเลขหนึ่ง ทำให้อากิเอะ มีโอกาสได้ผลักดันศักยภาพสตรี อย่างในปี 2016 เธอร่วมมือกับสตรีหมายเลขหนึ่งของอเมริกาขณะนั้น มิเชล โอบามา โดยสามารถรวบรวมสตรีทั่วโลกถึง 62 ล้านคนเข้ามาเรียนออนไลน์ ในโปรแกรม เล็ท เกิร์ลส เลิร์น
นิตยสารฟอเรียญ โพลีซี รายงานว่า บารัก โอบามา ยื่นของบ 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับเป็นทุนให้ เล็ท เกิร์ลส เลิร์น ขณะที่ญี่ปุ่นให้ถึง 340 ล้านดอลลาร์ ด้วยการผลักดันของอากิเอะ
สตรีหมายเลขหนึ่งที่ชาวญี่ปุ่นรักที่สุด บอกว่า ผู้หญิงญี่ปุ่นนับว่าเป็นสตรีที่มีการศึกษาสูงที่สุดในโลก แต่พวกเธอยังคงต้องพบอุปสรรคมากมายในความก้าวหน้าทางอาชีพการงาน เธอจึงรู้สึกว่าต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อพวกเขา เธอตั้งกลุ่ม วีเมนโนมิกส์ ขึ้น เพื่อผลักดันให้ผู้หญิงญี่ปุ่นได้งานที่ดีทำ และสามารถที่จะไต่เต้าขึ้นไปสู่ตำแหน่งบริหารได้
แม้อากิเอะจะรักกับชินโสะมาก ขนาดที่ไม่อายที่จะแสดงออกต่อสาธารณะ แต่ในเรื่องของสิทธิสตรี รวมทั้งสิทธิของเพศที่สามนั้น นับว่า มีความเห็นที่ตรงข้ามกันอย่างสิ้นเชิง เพราะเขาเป็นนักการเมืองหัวอนุรักษนิยม
ในปี 2014 เดอะ สเตรทส์ ไทม์ส รายงานว่า อากิเอะ เข้าร่วมกับพาเหรดของกลุ่มไพรด์ เพื่อสนับสนุนกลุ่ม LGBTQ+ และได้เขียนในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ได้เข้าร่วมประชุมกับกลุ่ม UNAIDS เมื่อปีก่อน ทำให้มีความเห็นสนับสนุนสิทธิของกลุ่ม LGBTQ+ มาตั้งแต่ตอนนั้น
“ฉันต้องการช่วยสร้างสังคมที่ทุกคนสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข มีคุณภาพชีวิตที่ดี และไม่มีการเลือกที่รักมักที่ชัง” อากิเอะ กล่าว
เธอยังเคยกล่าวถึงเรื่องการทำให้กัญชาทางการแพทย์ถูกกฎหมาย “ฉันเชื่อว่ากัญชามีประโยชน์ทางการแพทย์” เธอบอกกับนิตยสารสปา ในปี 2015 ด้วยว่า เธอยังเคยคิดจะเป็นเกษตรกรที่ปลูกกัญชาด้วยนะ ซึ่งเป็นพืชที่ต้องข้อใบอนุญาตพิเศษในการปลูกที่ญี่ปุ่น
การให้ความเห็นของอากิเอะหลายเรื่อง ทำให้เธอได้ชื่อเล่นว่า ฝ่ายค้านในครัวเรือน เพราะว่าเธอชอบมีความเห็นที่ตรงข้ามกับสามีนายกรัฐมนตรีของเธอนั่นเอง
Comments are closed.