World Celeb

ลัทธิแปลกๆ ประหลาดๆ ระบาดหนักในเหล่าคนดัง รวมถึง ทอม ครูซ

Pinterest LinkedIn Tumblr


ณ ขณะนี้ที่ ท็อปกัน มาเวอริค กำลังทะยานบนบ็อกซ์ออฟฟิศ และกวาดรายได้จากโรงภาพยนตร์ทั่วโลกเป็นกอบเป็นกำ เข้าโรงฉายเพียงไม่ถึง 20 วันก็ทำเงินไปแล้วกว่า 700 ล้านเหรียญ จนเหล่ากูรูทั้งหลายคาดว่าจะเป็นผลงานแรกของ “ทอม ครูซ” ที่ทำรายได้เกิน 1 พันล้านเหรียญ หรือราวๆ 35,000 ล้านบาทไทย แถมยังถูกใจเหล่านักวิจารณ์ที่ออกมาสรรเสริญ ชมเชยผลงานมาสเตอร์พีซชิ้นนี้เป็นเสียงเดียวกัน ทำเอา ทอม ครูซ นักแสดงนำที่ควบตำแหน่งโปรดิวเซอร์ของหนังภาคต่อเรื่องนี้ฮอตฮิต เป็นที่สนใจของสาธารณชน โดยเฉพาะ เด็กเจนเนอเรชันหลังๆ ที่อาจจะเกิดไม่ทันยุคทองของเขา เรียกชื่อเสียง ความนิยม ที่เหมือนจะซีดจางลงไปในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ให้กลับมาร้อนแรงอีกครั้ง

แต่ท่ามกลางเสียงอวยและกระแสบวกแบบสุดๆ เงามืด อย่าง “ไซแอนโทโลจี” ลัทธิความเชื่อที่เขานับถือ ก็ได้ตามมาหลอกหลอนเขาอีกครั้ง เมื่อเหล่าผู้คนที่ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดของลัทธินี้ โดยเฉพาะ ผู้หญิงที่รณรงค์ให้บอยคอตหนังเรื่องนี้ และพยายามออกมาให้ข่าวโจมตี เตือนสติแฟนๆ ภาพยนตร์ทั้งหลายให้ระลึกถึงความเลวร้ายของลัทธิ พร้อมตอกย้ำให้ไม่หลงลืมว่า ครูซคือหนึ่งในผู้ส่งเสริมแนวคิดที่ว่านั้น ซึ่งจะว่าไปแล้วไม่เพียงแต่ ทอม ครูซ เท่านั้น แต่ยังมีคนดังอีกมากมาย ที่นับถือและหลงใหลในลัทธิที่มีแนวคิดประหลาดๆ ทั้งหลาย จะมีใครบ้างนั้น ลองไปดูกัน?

ทอม ครูซ
เริ่มจาก “ทอม ครูซ” พระเอกคนดังที่ไม่เคยปิดบังเรื่องความเชื่อของเขาที่มีต่อ ‘ไซแอนโทโลจี’ และ ‘ศาสดาของศาสนา’ ซึ่งเป็นลัทธิที่ได้ชื่อว่ามีสถานะทางการเงินค่อนข้างดี เขาเข้าเป็นสมาชิกตั้งแต่ปี 1986 โดยเห็นคล้อยตามอดีตภรรยา-มิมิ โรเจอร์ส ครั้นพอหย่าร้างกันในปี 1990 ครูซก็ยังปักใจอยู่กับไซแอนโทโลจี แถมยังชักจูง นิโคล คิดแมน (คู่ชีวิตระหว่างปี 1990-2001) และต่อมา เคที โฮล์มส์ เข้าร่วมในลัทธิด้วย ซึ่งเขาเป็นที่ยอมรับในฐานะผู้นำคนหนึ่งของลัทธินี้

นิโคล คิดแมน ละทิ้งความเชื่อต่อลัทธิไซแอนโทโลจีหลังจากหย่ากับครูซ แต่ลูกบุญธรรมทั้งสองคนยังคงเชื่อตามพ่อ เช่นเดียวกับ เคที โฮล์มส์ ที่เมื่อเลิกร้างกับครูซแล้ว ก็หันหลังให้กับลัทธินี้ทันที แถมยังมีความกลัวด้วยว่า ความเชื่อนี้จะส่งอิทธิพลถึง ซูรี-ลูกสาว หลังจากก้าวพ้นจากชีวิตคู่แล้วเธอยังรู้สึกหลอนกับเรื่องเดิมๆ

ลัทธิที่ว่าโดนโจมตีจากสาธารณชนมาหลายกระแส จากแนวคิดสุดโต่งซึ่งขัดกับความเชื่อและทัศนคติของคนส่วนใหญ่ในสังคมยุคนี้ อย่าง การนับถือมนุษย์ต่างดาว การปฏิเสธการใช้ยารักษา การห้ามส่งเสียงร้องระหว่างการคลอดลูก การบริจาคเงินเพื่อก้าวขยับขั้นเข้าสู่การสอนได้ลึกซึ้งขึ้น ฯลฯ

จอห์น ทราโวลตา
ต่อมาที่เพื่อนร่วมลัทธิเดียวกัน อย่าง “จอห์น ทราโวลตา” นักแสดงอีกคนที่ได้ชื่อว่าเป็นปลาตัวใหญ่ในบึงของไซแอนโทโลจี จอห์น ทราโวลตา เข้าเป็นสมาชิกในลัทธินี้ตั้งแต่ปี 1975 เนื่องจากบิดาและผู้ก่อตั้งไซแอนโทโลจีคือนักเขียนชื่อ แอล.รอน ฮับบาร์ด เขียนหนังสือนิยายเรื่อง ‘Dianetics’ ที่อ้างถึงคำสอนของไซแอนโทโลจี และงานเขียนของฮับบาร์ด ก็ถูกดัดแปลงเป็นหนังเรื่อง ‘Battlefield Earth’ ที่มี จอห์น ทราโวลตา และ เคลลี เพรสตัน-ภรรยาที่เสียชีวิตไปแล้ว แสดงนำ เป็นหนังที่ได้ชื่อว่าห่วยเรื่องหนึ่งในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ แต่มันก็สามารถจูงใจทราโวลตาให้เข้าร่วมลัทธิได้

เมื่อปี 2009 ตอนที่ลูกชายออทิสติกวัย 16 ของเขาเสียชีวิตจากอาการชัก มีข่าวลือว่า ทั้งทราโวลตาและเพรสตันปฏิเสธความช่วยเหลือทางการแพทย์ เพียงเพราะเชื่อในคำสอนของลัทธิ และเลือกที่จะบำบัดรักษาด้วยวิถีธรรมชาติ ทราโวลตาเคยให้สัมภาษณ์ในภายหลังเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขายังกล่าวขอบคุณเจ้าลัทธิด้วยซ้ำ ที่ช่วยเตรียมพร้อมสำหรับความตายของลูกชายของเขา

มิเชลล์ ไฟฟ์เฟอร์
ด้านนักแสดงมากฝีมือ “มิเชลล์ ไฟฟ์เฟอร์” แม้จะไม่ใช่สาวกไซแอนโทโลจี แต่เธอเคยมีความเชื่อในลัทธิที่เรียกว่า ‘Breatharian’ ซึ่งเป็นความเชื่อของกลุ่มคนที่คิดว่า มนุษย์สามารถดำรงชีวิตได้โดยไม่ต้องกินอาหาร พวกเขาเชื่อว่าอาหารหรือน้ำไม่ใช่สิ่งจำเป็นสำหรับชีวิต แต่สามารถรับพลังงานจากการหายใจและรับแสงอาทิตย์แทน มิเชลล์พลัดหลงเข้าไปในกลุ่มความเชื่อนี้ ตอนเธออายุ 20 ปี หลังจากโยกย้ายไปอยู่ลอสแองเจลิส และได้รู้จักกับสามี-ภรรยาคู่หนึ่งที่ชักชวนเธอเข้ากลุ่ม

กระทั่งเธอได้คบหาและท้ายที่สุดแต่งงานกับ ปีเตอร์ ฮอร์ตัน-สามีคนแรกซึ่งเป็นนักแสดงร่วมวงการ และร่วมกันค้นคว้าเกี่ยวกับ ‘ลัทธิจันทรา’ เพื่อเล่นหนังเรื่องหนึ่ง เธอจึงพบว่าตนเองก็เป็นหนึ่งในกลุ่มที่เชื่อในลัทธิเหมือนกัน หลังจากนั้นเธอก็ได้ตัดสินใจถอนตัวออกมา

วาคีน ฟินิกซ์
ส่วนพระเอกหน้าเก๋ “วาคีน ฟินิกซ์” และพี่ชายที่เสียชีวิตไปแล้ว รีเวอร์ ฟินิกซ์ ผู้เป็นตำนานขวัญใจสาวๆ ในยุค 90’ เติบโตขึ้นมาในครอบครัวที่เป็นสมาชิกของลัทธิ ‘Children of God’ ซึ่งปัจจุบันมีชื่อเรียกใหม่ว่า ‘The Family International’ พ่อและแม่ของพวกเขาเชื่อในคำสอนของลัทธินี้ และส่งต่อความเชื่อมาถึงลูกๆ ด้วย แม้ว่าวาคีนจะไม่มีความทรงจำที่เลวร้าย เกี่ยวกับวัยเด็กของเขารวมถึงลัทธินี้ แต่เขาก็ยังรู้สึกคล้ายถูกคุกคาม ท้ายที่สุดแล้วพ่อแม่ของเขาถอนตัวออกมา เพราะรู้สึกไม่สบายใจมากขึ้นกับการหลอกลวงของลัทธิ

รีเวอร์ ฟินิกซ์
อดีตสมาชิกหลายคนของลัทธิ ‘เด็กๆ ของพระเจ้า’ ต่างออกมาแฉว่า เมื่อครั้งยังเป็นเด็ก พวกเขาถูกสมาชิกของลัทธิล่วงละเมิดทางเพศ เป้าหมายของลัทธิ-ที่สูญหายไปตั้งแต่ปี 1999 ก็เพื่อประกาศข่าวประเสริฐไปทั่วโลก การก่อตั้งชุมชนผู้ศรัทธาและการแพร่กระจายของยุคสุดท้าย ที่กำหนดไว้ในปี 1993 แต่สุดท้ายแล้วความน่าเชื่อถือของลัทธินี้แทบไม่มีเหลือเลย

วิโนนา ไรเดอร์
ปิดท้ายที่อดีตนางเอกหน้าตาน่ารัก “วิโนนา ไรเดอร์” แฟนเก่า จอห์นนี่ เดปป์ เล่าให้ฟังว่า พ่อแม่ของเธอเป็นฮิปปี้ ตอนวิโนนาอายุครบ 7 ขวบ พวกเขาตัดสินใจเข้ากลุ่มที่เรียกตนเองว่า ‘Rainbow Family’ เป็นการรวมตัวกันของกลุ่มคนที่หันหลังให้กับสังคม เป็นฮิปปี้ พึ่งตนเอง คลุกคลีอยู่กับวัฒนธรรมย่อย และบ่อยครั้งมักใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันเป็นกลุ่มก้อน วิโนนา ไรเดอร์ พักอาศัยอยู่กับพ่อแม่ตั้งแต่ปี 1978 ใช้ชีวิตอยู่ในที่ดินขนาดใหญ่ในแคลิฟอร์เนีย โดยปราศจากไฟฟ้า ทีวี และเสียงเพลง ครอบครัวสายรุ้งไม่ถือว่าเป็นลัทธิอย่างเป็นทางการ แต่เป็นการรวมกลุ่ม มีแนวคิดปกป้องสิ่งแวดล้อมและกินมังสวิรัติ

แต่ในความเป็นจริงแล้ว สมาชิกในกลุ่มมักจะก่อปัญหาบ่อยครั้ง ไม่ว่าการใช้ความรุนแรง เสพยาเสพย์ติด หรือลักขโมย อย่าง วิโนนาเองก็เคยตกเป็นข่าวคดีลักขโมยเมื่อปี 2002 จนถูกตัดสินโทษจำคุก 3 ปี ติดรออาญา และต้องทำงานรับใช้สังคม 480 ชั่วโมง ทำเอาชีวิตเป๋ไปพักใหญ่ เพิ่งจะเริ่มกลับมามีผลงานสร้างชื่อใหม่ได้เมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมานี้เอง

เห็นได้ชัดว่าไม่ว่าจะรวย จะดัง ขนาดไหน ก็มีช่วงหลงงมงาย ไม่ต่างจากคนอื่นๆ ในสังคมเช่นกัน อย่าง ในบ้านเราที่มีลัทธิ “พระบิดา” ก็จึงไม่น่าแปลกใจที่ฮอลลีวู้ดจะมีลัทธิประหลาดๆ ได้เหมือนกัน

Comments are closed.

Pin It