แซม แบงก์แมน-ฟรายด์ (Sam Bankman-Fried) เป็นซีอีโอที่ร่ำรวยที่สุดในโลกที่อายุยังไม่ถึง 30 เขาก่อตั้งบริษัทซื้อขายเงินคริปโต ชื่อว่า เอฟทีเอ็กซ์ (FTX Trading) ในฮ่องกง ที่ตอนนี้มีมูลค่าถึง 22.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
เชื่อว่า หากคุณเป็นคนที่รวยที่สุดในโลกตั้งแต่อายุยังน้อย คุณจะมีมุมมองโลกที่ต่างจากคนหนุ่มในรุ่นเดียวกันแน่ๆ เช่นเดียวกับแซม ที่เป็นหนุ่มอายุน้อยที่สุดที่ได้ขึ้นปกของนิตยสารรวมมหาเศรษฐี เขาก็มีแผนว่าจะบริจาคเงินส่วนใหญ่ของเขาให้การกุศล
แซม เป็นลูกชายของบาร์บารา ฟรายด์ และโจเซฟ แบงก์แมน 2 ศาสตราจารย์คณะนิติศาสตร์ของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด สหรัฐ แม่ของเขาเชี่ยวชาญการสอนด้านกฎหมายเศรษฐกิจ และปรัชญา ขณะที่บิดาสอนทางด้านกฎหมายภาษีอากร
การเติบโตขึ้นมาในครอบครัวนักการศึกษา ทำให้แซมไม่ชอบไปโรงเรียน ยาฮูไฟแนนซ์รายงานว่า แซมเคยพูดว่า ที่บ้านชอบถกเถียงกันมากเกินไปเกี่ยวกับโปรแกรมการเรียนของเขา
อย่างตอนที่เรียนอยู่เกรด 7 หรือเกรด 8 แซมเคยสารภาพกับแม่ว่า การไปโรงเรียนน่าเบื่อจนเขาอยากจะตายเสียให้ได้ พ่อแม่ก็เลยส่งเขาไปซัมเมอร์แคมป์คลิตศาสตร์ เพื่อที่จะให้ลูกชายหายเบื่อ
หลังจบมัธยม แซม ตัดสินใจเรียนต่อทางด้านฟิสิกส์ที่เอ็มไอที ที่นี่ เขาได้เข้ากลุ่มเอปซีลอน ตีตา ซึ่งทำให้เขาได้เล่นเกมกับเพื่อนในกลุ่มจนถึงเช้า
ยูฮูไฟแนนซ์รายงานว่า กลุ่มนี้ก็คล้ายๆ กับกลุ่มภารดรภาพ ที่เรามักเห็นกันในมหาวิทยาลัย แทนที่พวกเขาจะทำตัวสำมะเลเทเมาด้วยการดื่มหรือเสพย์ พวกเขาเปลี่ยนเป็นทำเรื่องสนุกๆ ที่ไร้สาระ แต่ไม่มีพิษมีภัย
ด้วยบุคลิกความเป็นผู้นำของแชฒและเพื่อนสนิท อย่างเยดีดา ทำให้พวกเขาได้ขึ้นเป็นผู้บริหารของเอปซีลอน และริเริ่มทำอะไรที่มีประโยชน์ต่อคนอื่นขึ้นมา
แซมเชื่อมั่นในการหารายได้เพื่อการให้ โดยมีเป้าหมายคือหาเงินให้ได้มากที่สุด และจะมอบกลับคืนอย่างไม่เห็นแก่ตัว
คำสอนนี้นำทางไปสู่ความมั่งคั่งของเขา เมื่อต้องตัดสินใจเลือกว่าจะทำงานให้กับ Center of Effective Altruism หรือที่ Jane Street Capital บริษัทในวอลล์สตรีท ในที่สุด แซม ก็เลือกอย่างหลัง โดยเชื่อว่าเขาจะสามารถทำรายได้ที่ดีกว่า และมีเหลือให้การบริจาคเข้าสู่การกุศล โดยส่วนใหญ่เขาเลือกสนับสนุนองค์กรที่เกี่ยวกับการช่วยสัตว์ที่ถูกทารุณ
แม้จะเป็นชายหนุ่มที่รวยที่สุดในโลก แต่แซมบอกว่า เขาเข้าร่วมกับคริปโตช้าเกินไป เขาให้สัมภาษณ์อองเทรอพะเนอดอตคอมว่า เห็นเพื่อนอย่าง แกรี หวัง พัฒนาบิตคอยน์มาตั้งแต่ปี 2013 จึงเห็นว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจ แต่เขาไม่ได้เริ่มต้นเสียทีกระทั่ง ปี 2018 ที่เริ่มก่อตั้งเอฟทีเอ็กซ์ขึ้นมา
“ถ้าผมเริ่มทำเสียแต่แรกละก็ ป่านนี้คงรวยกว่าเดิมอีกนะครับนี่”
ในปี 2020 แซม บริจาคเงิน 5 ล้านดอลลาร์ให้โจ ไบเดน เพื่อสนับสนุนให้เข้าลงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เขานับเป็นผู้บริจาคเงินสูงสุดเป็นอันดับ 2 ในการเป็นผู้สนับสนุนโจอย่างเป็นทางการ
Comments are closed.