เจ้าหญิงไอโกะ พระราชธิดาโทนในจักรพรรดิญี่ปุ่น

ทรงเจริญพระชนม์พรรษาครบ 20 ปีบริบูรณ์ สำหรับเจ้าหญิงไอโกะ พระราชธิดาโทนในจักรพรรดินารุฮิโต และจักรพรรดินีมาซาโกะแห่งราชวงศ์เบญจมาศ โดยพระองค์จะไม่ทรงมีสิทธิ์ในการขึ้นเป็นจักรพรรดินี ตามโบราณราชประเพณีของญี่ปุ่น ที่ไม่ให้สตรีขึ้นครองบัลลังก์

ปัจจุบัน เจ้าหญิงไอโกะ ทรงศึกษาด้านวรรณคดีญี่ปุ่น ที่มหาวิทยาลัยกาคูชูอิน ในกรุงโตเกียว โดยเนื่องจากตรงกับวันที่ทรงต้องไปโรงเรียน จึงจะมีพราราชพิธีฉลองวันพระราชสมภพครบ 20 พรรษาของพระองค์ในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้แทน

เว็บไซต์ นิปปอนดอตคอม รายงานว่า เจ้าหญิงไอโกะ ทรงกำหนดวันแถลงข่าวการบรรลุนิติภาวะ ที่สมาชิกราชวงศ์จะต้องชี้แจงแถลงไขแผนการในอนาคตให้สาธารณชนทราบ ออกไปในเดือนมีนาคม ปีหน้านู่นเลย

ขณะที่สำนักราชวังญี่ปุ่นกำลังเตรียมจัดงานฉลอง 20 พรรษาให้พระองค์อย่างยิ่งใหญ่นั้น บรรดาสื่อมวลชนก็เริ่มเล่นข่าวเรื่องที่พระองค์ไม่อาจจะที่จะทรงขึ้นเป็นจักรพรรดินีได้ ตามกฎมณเฑียรบาลของญี่ปุ่น ทำให้ต่างคาดการณ์ไปว่า ในอนาคตเจ้าหญิงไอโกะ อาจจะเลือกเดินแบบพระญาติของพระองค์ อย่างอดีตเจ้าหญิงมาโกะ แต่งงานกับสามัญชน และใช้ชีวิตเช่นชาวญี่ปุ่นทั่วไป

ราชวงศ์เบญจมาศสืบทอดบัลลังก์ผ่านทายาทฝ่ายชายมาตั้งแต่ปี 1947 โดยราชวงศ์ฝ่ายหญิงจะต้องออกจากฐานันดรศักดิ์หากสมรสกับสามัญชน

หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สมาชิกราชวงศ์ญี่ปุ่นลดลงจาก 67 เหลือแค่ 17 และมีเพียง 3 พระองค์ที่สามารถสืบทอดราชวงศ์ได้ นั่นคือเจ้าชายฟูมิฮิโต พระบิดาในอดีตเจ้าหญิงไอโกะ เจ้าชายฮิซาฮิโต พระโอรสในเจ้าชายฟูมิฮิโต และจักรพรรดินารุฮิโต องค์ปัจจุบัน

ระบบที่วางไว้กำลังคุกคามอนาคตของราชวงศ์ญี่ปุ่นเอง ซึ่งกลุ่มอนุรักษ์นิยมมองว่าเป็น “ส่วนสำคัญของเอกลักษณ์ประจำชาติ”

สายเลือดชายที่ไม่ขาดสายเป็นหัวใจสำคัญของระบบจักรพรรดิของญี่ปุ่น และยังเป็นสัญลักษณ์สำคัญที่ไม่อาจปฏิเสธได้ของบรรทัดฐานของปิตาธิปไตยในครอบครัวและสังคมญี่ปุ่น เช่นเดียวกับมาโกะลูกพี่ลูกน้องของเธอ ชะตากรรมของไอโกะคือต้องออกจากราชวงศ์ เหมือนลูกพี่ลูกน้องของเธอ มาโกะ หนึ่งในเจ้าหญิงญี่ปุ่นอีกแปดองค์ที่ถูกปลดออกจากครอบครัวหลังการแต่งงาน

เกียวโดนิวส์รายงานว่า เว้นแต่กฎหมายของจักรวรรดิญี่ปุ่นจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยได้รับแรงกดดันจากสาธารณชนชาวญี่ปุ่นหรือจากความคิดริเริ่มที่นำโดยรัฐบาล

หากญี่ปุ่นมีความเท่าเทียมทางเพศมากขึ้น ทัศนะและความคาดหวังของสาธารณชนต่อราชวงศ์ญี่ปุ่นจะเปลี่ยนไป