เปิดใจ “มนตร์ลดา พงษ์พานิช” กับงานใหม่ เชฟ & ความรักสุดฉ่ำ!

ใครจะไปคิดว่า จากสาวสังคมสุดเซ็กซี่ที่หลงใหลในโลกของแฟชั่น วันนี้ “ดวง-มนตร์ลดา พงษ์พานิช” ลูกสาวคนสุดท้องของ “มนตรี-คุณหญิงธิดา พงษ์พานิช” จะตกหลุมรักการทำอาหารเข้าอย่างจัง ถึงขั้นไปร่ำเรียนจริงจังจนจบหลักสูตรจาก เลอ กอร์ดอง เบลอ ไม่พอ ยังต่อยอดมาสู่ธุรกิจใหม่ อย่าง Monlada Kitchenz ซึ่งนอกจากจะให้บริการแบบ Chef Table ยังเตรียมขยายธุรกิจไปสู่บริการเดลิเวอรี

นอกจากกราฟชีวิตเรื่องงานตอนนี้จะไปได้สวย กราฟความรักของสาวดวงก็พุ่งไม่หยุด จนหลายคนอดแซวไม่ได้ว่า เป็นเพราะกำลังอินเลิฟกับแฟนหนุ่มรุ่นน้องที่คบหากันมา 3 ปี ต่อให้จะขึ้นหลักสี่แล้วแต่สาวดวงก็ยังสวยใสไม่แคร์วัย

งานนี้ เบื้องลึกเบื้องหลังจะเป็นอย่างไร? ทำไมจากดีไซเนอร์สาวถึงมาคว้าตะหลิวเข้าครัว แล้วความรักครั้งใหม่ของสาวดวงจะหวานเวอร์ชวนให้น่าอิจฉาขนาดไหน เธอพร้อมแล้วที่จะเฉลยทุกคำถาม…

แฟชั่นยังเป็นสิ่งที่รัก

ถึงช่วงหลังมานี้ จะเห็นดวงผันตัวมาเข้าครัวเยอะขึ้น แต่เธอยังยืนยันว่า ยังไม่ทิ้งแบรนด์แฟชั่นที่ปลุกปั้นมากับมือ อย่าง Monlada, Noirz by Monlada เพียงแต่ขอพักเบรกในช่วงที่โควิด-19 มาเยือน

“แบรนด์ Monlada ปีนี้เข้าสู่ปีที่ 11 แล้วค่ะ ส่วน Noirz by Monlada มาเปิดทีหลัง เน้นจับกลุ่มวัยรุ่นในราคาที่จับต้องได้มากขึ้น มองย้อนกลับไป 11 ปีที่ผ่านมา เราได้สั่งสมประสบการณ์และบทเรียนเยอะมาก เจอทั้งอุปสรรคและความผิดพลาดที่ทำให้ท้อบ้าง แต่ไม่ถอยเพราะมีกำลังใจที่ดีจากคุณแม่คอยสนับสนุนและให้คำแนะนำ อย่าง ช่วงโควิด-19 ก็ต้องสู้กันต่อไป ทำใจว่าธุรกิจแฟชั่นวันนี้อาจจะไม่ได้สวยหรูเหมือนเก่า ต้องกลับมาโฟกัสที่การขาย เพื่อดึงกระแสเงินสดเข้ามาหมุนในบริษัท มากกว่าจะไปเน้นการโปรโมท โดยตอนนี้ลูกค้าหลัก ๆ เป็นคนไทย จากแต่ก่อนที่เป็นลูกค้าจีนและไต้หวันซะเยอะ

ปัจจุบัน Monlada ยังมีช็อปที่เซ็นทรัลเวิลด์ และยังมี Monlada Studio ที่รับออกแบบและตัดเสื้อผ้า “ดวงยังไม่ทิ้งงานแฟชั่นแน่นอน เพียงแต่รอเวลา ถ้าผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้เมื่อไหร่ จะกลับมาทำแฟชั่นเต็มตัวอีกครั้ง”

เปิดบันทึกหน้าใหม่ จากดีไซเนอร์สู่เชฟ

ในขณะที่ งานแฟชั่นที่รักต้องเข้าสู่โหมดพักก่อน เพื่อพลิกช่วงเวลาวิกฤตให้เป็นโอกาส อาศัยช่วงที่มีเวลาว่างมากขึ้น ไปทำในสิ่งที่รักและสนใจมานานแต่ไม่มีโอกาสได้ทำ นั่นคือ การเรียนทำอาหารและขนม เพราะด้วยลุคคุณหนู แถมยังดูเป็นสาวเปรี้ยวแบบนี้ หลายคนอาจคาดไม่ถึงว่า ลึกๆ แล้ว ดวงมีความสนใจในการทำอาหารมาตั้งแต่เด็ก

“ดวงเป็นคนชอบกินข้าวขาหมูมาก เลยหัดทำมาตั้งแต่เด็ก จนพอไปเรียนต่อต่างประเทศ ด้วยความที่เมืองที่ไปเรียนไม่ได้อยู่ในเมืองใหญ่ ที่มีร้านอาหารไทยเสิร์ฟรสชาติแบบไทยแท้ๆ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นร้านอาหารไทยสไตล์ฝรั่ง เลยต้องอาศัยทำกินเอง เมนูโปรดที่ทำบ่อย นอกจากอาหารไทย อย่าง พะโล้ ข้าวขาหมู แกงเขียวหวานไก่ คือ เมนูสตูไก่ และสปาเกตตี้โบโลนเนส”

นอกจากจะลงมือทำ ดวงยังเป็นสายชิม “ถ้าติดตามจากในอินสตาแกรมจะเห็นเลยว่า ดวงชอบไปตระเวนกินอาหารและขนมตามร้านต่าง ๆ โดยเฉพาะ ครัวซองส์ ชอบมากถึงขนาดจะไปเรียน แต่พอดีตอนที่ไปลงเรียนคลาสดันเต็ม เลยยังไม่ได้เรียนซักที จนพอเกิดโควิด-19 ทำให้มีเวลากับตัวเองมากขึ้น เลยตัดสินใจจะเอาเวลาตรงนี้ไปเรียนทำอาหารและขนม”

ดวงตั้งต้นด้วยการไปเทกคอร์สอาหารฝรั่งเศส (French Cuisine) ที่ เลอ กอร์ดอง เบลอ เริ่มจากฝึกทำอาหารสไตล์ฝรั่งเศส ซึ่งเป็นอาหารที่มีกระบวนการทำที่ค่อนข้างพิถีพิถัน เน้นดึงรสชาติของวัตถุดิบแต่ละตัวเพื่อเพิ่มความอร่อยให้อาหารจานนั้น มากกว่าการแต่งเติมรสชาติจากเครื่องปรุงรส ยิ่งเรียนยิ่งทำให้ดวงเข้าใจว่า ทำไมอาหารบางจานถึงมีราคาสูง เพราะเบื้องหลังกว่าจะเอาออกมาเสิร์ฟให้ลูกค้าแต่ละจานนั้น มีรายละเอียดมากกว่าแค่การคัดสรรวัตถุดิบชั้นดี แต่ยังต้องอาศัยฝีมือในการปรุง มีขั้นตอนในการทำที่มีรายละเอียด ไปจนถึงการตกแต่งจานที่ต้องอาศัยความประณีต

“ตอนแรกที่เรียนไม่ได้คิดไปไกลว่าจะเป็นเชฟ หรือทำร้านอาหาร แค่อยากทำครัวซองส์เป็น เพราะถึงจะเป็นครัวซองส์แบบเพลนๆ ไม่มีไส้ ก็ต้องอาศัยฝีมือในการทำอย่างมาก บวกกับส่วนตัวดวงเป็นสายกินอย่างที่บอก กินอาหารได้ทุกชาติอยู่แล้ว ขอแค่อร่อย บางทีไปกินหัวละเกือบหมื่น ก็ยอมจ่าย กินไปก็เริ่มสงสัยว่า ทำไมอาหารอร่อยถึงต้องจ่ายแพงแบบนี้ จนไปเรียนถึงได้เข้าใจ และได้เปิดโลกอีกใบ เพราะการเป็นเชฟไม่ได้โฟกัสแค่การทำอาหาร แต่ต้องคิดถึงลูกค้า คำนึงถึงเรื่องความสะอาด รับผิดชอบต่อสุขภาพของลูกค้าด้วย นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของต้นทุนที่ต้องใส่ใจ สำหรับคนที่คิดว่าจะทำเป็นธุรกิจ อย่าง ตอนสอบไฟนอลเขาจะมีวัตถุดิบหลัก อย่าง โปรตีนให้ แล้วให้เราคิดว่าจะทำเมนูอะไรโดยหาเครื่องเคียงมาเสริมเอง ซึ่งเราก็ต้องคำนวณว่าอาหารแต่ละจานมีต้นทุนเท่าไหร่”

ที่สำคัญ ในฐานะคนชอบอาร์ต จนตัดสินใจเดินตามความฝันด้วยการเรียนและทำงานในสายแฟชั่น ดวงมองว่าอาหารก็เป็นแฟชั่นอย่างหนึ่ง เพราะไม่ใช่แค่เรื่องรสชาติแต่ยังมีเรื่องของศิลปะ ความสวยงามในการตกแต่งจาน

“ดวงคิดว่า ความรู้ด้านแฟชั่นที่เรามี สามารถนำมาต่อยอดการทำอาหารได้ไม่ยาก เพราะอาหารก็เป็นศิลปะอย่างหนึ่ง ที่สำคัญ การเรียนทำอาหารก็ทำให้เรามีอีกหนึ่งวิชาชีพติดตัว สามารถหาเลี้ยงชีพได้ในอนาคต”

ติดปีกความรู้อาหารไทย

นอกจากอาหารฝรั่งเศส ดวงยังสนใจอาหารไทยและการทำขนม ซึ่งตอนนี้เธอกำลังเรียน Pastry เพื่อต่อยอดการทำขนมที่ เลอ กอร์ดอง เบลอ ส่วนวิชาอาหารไทย ดวงโชคดีมีโค้ชส่วนตัวเป็นสจ๊วตหนุ่มหล่อมาดเข้ม อย่าง “นิค-มรุเชษฐ์ ทุมมานนท์” ที่ตอนนี้ควบตำแหน่งแฟนด้วย

“นิคเขาชอบทำอาหารไทยอยู่แล้ว โดยเฉพาะ แกงใต้ เพราะคุณยายเป็นคนใต้ ส่วนคุณแม่ของเขาก็ทำแกงเหลืองอร่อยมาก และเป็นผู้ถ่ายทอดวิชาทำอาหารให้นิค ดวงเองที่ผ่านมา มาสายอาหารฝรั่งซะเยอะ แต่ก็รู้สึกสนใจอาหารไทย เพราะเราเองก็เป็นคนไทย ดวงคิดว่าถ้าเรามีความรู้อาหารไทยเพิ่มเติม โดยเฉพาะ การทำเครื่องแกง น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการไปต่อยอดทำเมนูอาหารไทยฟิวชั่น โดยใช้เทคนิคแบบฝรั่งเศสเข้ามาผสมผสาน ตอนนี้ก็เลยอาศัยเป็นลูกมือ เรียนรู้แบบครูพักลักจำไปเรื่อยๆ ค่ะ”

เห็นแพสชันที่มีต่ออาหารแบบเปี่ยมล้นอย่างนี้ อดสงสัยไม่ได้ว่า แล้วเมนูไหนที่เป็นเมนูเด็ดที่สาวดวงภูมิใจนำเสนอ
คำถามนี้เธอตอบได้โดยไม่ต้องเสียเวลาคิดว่า Spaghetti Lobster Bisque “เมนูนี้ดวงเอาความรู้ที่เรียนมาดัดแปลง จาก เมนูซุป มาทำให้เข้มข้นแล้วผัดกับสปาเกตตี เสิร์ฟกับล็อบสเตอร์ ซึ่งทำให้สุกด้วยการนำไป Poach กับเนย แล้วท็อปด้วยท็อปปิ้ง อย่าง อูนิ หรือ หอยเชลล์ หรือถ้าบางทีวัตถุดิบไม่ครบ ไม่มีล็อบสเตอร์ ดวงก็จะเปลี่ยนเป็นกุ้งลายเสือแทน ซึ่งเท่าที่ฟังฟีดแบคจากคุณแม่ พี่ชาย พี่สะใภ้ และหลานที่ได้ชิม ทุกคนก็เห็นพ้องไปในทางเดียวกันว่า อร่อย (หัวเราะ) นอกจากสปาเกตตี ยังมีน้ำสลัด ที่ดวงคิดสูตรเอง นอกจากจะดีต่อสุขภาพเพราะใช้น้ำมันมะกอกยังเติมทรัฟเฟิลลงไปเพิ่มความหอมด้วย”

งานนี้เพื่อไม่ให้ความรู้และฝีมือที่ฝึกปรือมาเสียเปล่า บวกกับได้แรงเชียร์และแรงหนุนจากคุณแม่ เลยทำให้ดวงตัดสินใจปั้นธุรกิจใหม่ อย่าง Monlada Kitchenz ซะเลย

“ตอนนี้ดวงทำเป็น Chef Table รับเป็นกรุ๊ปเล็กๆ ประมาณ 8-10 คน เริ่มจากเพื่อนคุณแม่และคุณอาก่อน โดยดวงรับหน้าที่ดูแลเองเกือบทั้งหมด ตั้งแต่ไปจ่ายตลาด เตรียมวัตถุดิบ และลงมือทำ แรกๆ ก็มีขลุกขลักบ้าง เพราะดวงทำคนเดียว ถึงบางครั้งจะมีลูกมือ แต่บางอย่างที่ต้องใช้เทคนิคเขาก็ช่วยเราไม่ได้อยู่ดี แต่พอทำไปเรื่อยๆ หลังๆ ก็ดีขึ้น โดยคอร์สที่เสิร์ฟ ดวงจะคิดเมนู ทั้งของคาวและของหวานเองทั้งหมด มีตั้งแต่ 3 เมนู ไปจนถึง 7 เมนู ถามว่ามีแผนจะเปิดร้านอาหารหรือไม่ ดวงตั้งใจว่า ถ้าหลังจากนี้ สถานการณ์นี้ขึ้น ก็อาจจะเปิดร้านอาหาร แต่ตอนนี้ เน้นแค่ Chef Table และบริการแบบเดลิเวอรี ซึ่งดวงจะเลือกเฉพาะเมนูเด็ดที่มั่นใจว่าอร่อยจริงๆ”

โลกเป็นสีชมพู เพราะความรักครั้งใหม่

ไหนๆ ก็เกริ่นถึงแฟนหนุ่มถึงที เลยถือโอกาสชวนสาวดวงเปิดใจถึงรักครั้งใหม่ให้คนโสดตาร้อนผ่าวกันซะหน่อย

“คบกันมา 3 ปีแล้วค่ะ จริงๆ เรารู้จักกันมาเป็น 10 ปีแล้วแต่เพิ่งมาคบกัน ด้วยวัยที่เราห่างกันเยอะ เพราะเขาเพิ่งอายุ 27 ปี แต่ปรากฏว่าเรื่องวัยไม่ใช่ปัญหาสำหรับเรา เพราะเรื่องที่ทำให้เราทะเลาะกันส่วนใหญ่เป็นเรื่องเล็กมากๆ อย่างใครทำอาหารอร่อยกว่ากัน (หัวเราะ) ส่วนเรื่องหึงหวงไม่มีค่ะ ตอนแรกเขาก็กลัวนะว่า เราจะไปตามหึงหวงเขา ดวงบอกเลยไม่ค่ะ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดแทนที่จะไปคอยตาม สู้ดวงอยู่บ้านเฉยๆ สบายกว่า”ดวงเล่าไปขำไป

ถามว่าต้องมีวิธีจูนเข้าหากันอย่างไร เพื่อให้ความรักไม่สะดุด ดวงบอกว่า “แทบไม่ต้องปรับอะไรเลย เวลาทะเลาะก็ทะเลาะให้รู้ดำรู้แดงกันไปเลย เพราะดวงว่า นั่นคือความเข้าใจ ดีกว่าเราเก็บกดไว้ข้างใน แต่ถ้าครั้งไหนที่รู้สึกว่าอาจจะใช้อารมณ์มากไป เราก็จะแยกกันก่อน รอให้อารมณ์เย็นลงแล้วกลับมาคุย บางทีจะเห็นว่าเรื่องที่ทะเลาะกันมันเล็กมาก จนงงว่าทำไมตอนนั้นเราต้องโมโหหรือทะเลาะกันด้วยซ้ำ”

ส่วนที่หลายคนมองว่า ความรักทำให้ดวงเปลี่ยนไป โดยเฉพาะ เรื่องดีกรีความเซ็กซี่ที่ลดลงมาก “จริงๆ ก็ยังเซ็กซี่นะแต่ก็น้อยลง เพราะคุณแม่ก็ไม่ชอบ พอตอนนี้มีแฟนด้วยยิ่งไปกันใหญ่ (หัวเราะ) อีกเหตุผลก็อาจจะเพราะเราอายุมากขึ้น สมัยก่อนไปทะเล คือซ่ามาก ลงน้ำไม่กลัวแดด แต่ตอนนี้ถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ ดวงไม่ออกแดดเลย อย่าง ดำน้ำ ถ้าปลาไม่สวยจริงไม่ลงนะ จากแต่ก่อนไปไหนไปกัน จนได้ฉายานางเงือก” ดวงเล่าอย่างติดตลกทิ้งท้าย