จุดกระแส สร้างแลนด์มาร์คให้คนกรุงเทพฯ และนักเดินทางทั่วโลก อยากจะมาเช็กอินกันสักครั้งกับ ‘LV The Place Bangkok’ สโตร์แห่งใหม่ล่าสุดในคอนเซ็ปต์ 360 ที่รวมรีเทล คาเฟ่ ร้านอาหาร และนิทรรศการไว้ในที่เดียว จนกลายเป็นจุดถ่ายรูปที่ช่วงนี้ก็เห็นใครๆ ต่างพากันโพสต์รูปภาพทั้งภายนอกและภายใน ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์สถาปัตยกรรมและการตกแต่งอันสวยงาม ตลอดจนเมนูต่างๆ ที่รังสรรค์ขึ้นมาโดยเฉพาะสำหรับต้อนรับผู้มาเยือน ซึ่งครั้งนี้เราได้พบกับ “มุก-เพลินจันทร์ วิญญรัตน์” และ “ป้อ-ศิริยศ ชัยอำนวย” 2 ศิลปินไทยที่มีโอกาสร่วมสร้างสรรค์ LV The Place Bangkok กับแบรนด์ระดับโลก อย่าง หลุยส์ วิตตอง
นับเป็นโปรเจกต์ที่ 4 แล้ว ที่ “มุก-เพลินจันทร์ วิญญรัตน์” หัวหน้าดีไซเนอร์และผู้ก่อตั้งแบรนด์ Beyond Living ได้ร่วมงานกับหลุยส์ วิตตอง เริ่มจากปี 2018 กับรีเทลสโตร์ ณ ไอคอนสยาม ต่อมาที่รีเทลสโตร์ Central Floresta จังหวัดภูเก็ต และ เอ็กซ์คลูซีฟ สโตร์ ณ ไอคอนสยาม ซึ่งเธอได้บรรจงออกแบบและผลิตชิ้นงานขึ้นเป็นพิเศษ ทั้งชิ้นงานศิลปะ งานพรมทอมือ และแผงผนังภายใต้สตูดิโอ Beyond Living ของเธอ
“มุกทำหน้าที่ดูลุคแอนด์ฟีลของการตกแต่งต่างๆ คอนเซ็ปต์ที่เราได้รับมาคือลักซ์ชัวรี รีสอร์ทสไตล์ ก็จะมีการมิกซ์ของเก่ากับใหม่เข้าด้วยกัน เราพยายามโชว์สกิลเทคนิคในการผูกเชือกถักทอต่างๆ โดยเติมแต่งกลิ่นอายของความเป็นไทยเข้าไป โดยที่ยังคงองค์ประกอบของงานฝีมือตามแบบฉบับของหลุยส์ วิตตองไว้ ไม่ว่าจะเป็นผนังหรือพรม เราได้คัดสรรเชือกจากวัสดุพื้นบ้าน ที่ให้ขนาดและสีสันเฉพาะตัวจากเฉดสีของแบรนด์หลุยส์ วิตตอง โดยได้วางแพตเทิร์นอย่างละเอียด ลงมือทอกันด้วยมือเพื่อเพิ่มองค์ประกอบที่ให้ความลักซ์ชัวรี
อีกหนึ่งชิ้นที่ภูมิใจนำเสนอก็คือ แผงงานประดับลวดลายถักแบบ Macrame ได้รับแรงบันดาลใจจาก เครื่องแขวน หรือ อุบะ ที่นับได้ว่าเป็นงานประดิษฐ์ดอกไม้ตามแบบฉบับไทยเดิม ไว้ใช้สำหรับคล้องตกแต่งประตูและหน้าต่างของบ้านไทยดั้งเดิม”
ถ้าถามถึงความรู้สึกและความยากง่ายในการร่วมงาน กับแบรนด์ระดับโลกอย่าง หลุยส์ วิตตอง แล้วความภูมิใจย่อมมากับการเรียนรู้ครั้งยิ่งใหญ่ ซึ่งเธอก็พิสูจน์ตัวเองมาได้หลายครั้ง
“ภูมิใจกับการทำงานร่วมกับแบรนด์ระดับโลก ดีใจมากที่เขาเลือกเราและยิ่งดีใจมากขึ้น เมื่อเขาให้โอกาสเราได้ร่วมกับแบรนด์เขาถึง 4 ครั้ง การทำงานร่วมกันคือการแชร์กัน ปรับตัวเข้าหากัน ต้องเข้าใจในความเป็นหลุยส์ วิตตอง แต่ละโปรเจกต์มีความยากแตกต่างกันออกไป หลังจากที่ทำกันมาหลายโปรเจกต์ เราได้รับความไว้ใจจากการทำงานร่วมกัน ได้เห็นการทำงานที่ละเอียดมาก ซึ่งทำให้เราได้เรียนรู้ เป็นประสบการณ์ที่ดีมาก เราไม่ได้คิดว่าเราเก่งกว่าใคร สิ่งสำคัญในการตกแต่งคือต้องรู้จักสินค้าของเขา ของประดับตกแต่งต้องไม่เด่นกว่าสินค้าในร้าน แต่ต้องสอดคล้องกลมกลืนกันไป ภูมิใจที่เป็นงานที่คนไทยทำ แล้วทั้งคนไทยและต่างชาติชื่นชม”
อีกหนึ่งท่านที่ช่วยเนรมิตความงดงาม ผ่านจินตนาการของแสงออร่าอันเปล่งประกาย ด้านหน้าอาคารของ LV The Place Bangkok ก็คือ “ป้อ-ศิริยศ ชัยอำนวย” ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบของ Onion ที่สั่งสมผลงานอันเป็นที่ยอมรับตลอดช่วงการทำงานที่ผ่านมา รวมทั้งผลงานการออกแบบตกแต่งภายในให้กับโรงแรมสไตล์ลักซ์ชัวรี บูทีค ในโรงแรมเครือศาลา (ศาลาเขาใหญ่, ศาลารัตนโกสินทร์ และศาลาสมุย เฉวงบีช) รวมไปถึงผลงานออกแบบตกแต่งภายใน เพื่อพลิกโฉมครั้งใหม่ของศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
สำหรับงาน LV The Place Bangkok นั้น เขาบอกว่าที่นี่เป็นการผสมผสานทั้งองค์ประกอบด้านวัฒนธรรมของไทย และความพิถีพิถันในงานฝีมือ เพื่อสะท้อนแนวคิดหลักของหลุยส์ วิตตอง ที่เปี่ยมไปด้วยนวัตกรรมและงานผีมืออันประณีต โดยด้านนอกตกแต่งด้วยประติมากรรมรูปทรงแบบเพชรขนาดใหญ่ ที่ส่องแสงยามค่ำคืน ส่วนด้านในได้รวบรวมหลากหลายรูปแบบประสบการณ์ ทั้ง รีเทล อาหาร และเรื่องราววัฒนธรรมของหลุยส์วิตตองไว้ด้วยกัน
“ผมดูแลด้านงานตกแต่งบริเวณฟาซาดหรือด้านหน้าอาคาร โดยได้หยิบลวดลายโมโนแกรมอันเป็นเอกลักษณ์ และนำเอาแพตเทิร์นของลวดลายแบบ Moiré (มัวเร่) ที่เป็นการเลียนแบบศิลปะแบบงาน พานพุ่ม มาเติมในองค์ประกอบของฟาซาด มีรายละเอียดเล็กๆ ซ่อนอยู่ เช่น การเลือกใช้สีแบบโลหะที่ให้การสะท้อน บางวัสดุก็ได้รับแรงบันดาลใจจากรูปทรงโมเสค ที่ทำจากกระจกที่เห็นจากการประดับตกแต่งภายในวัดไทย ดูวิบวับทำให้เกิดเอฟเฟกต์ที่แตกต่างกันไประหว่างช่วงกลางวันกับกลางคืน เรียกว่าเป็นครั้งแรกที่ได้ร่วมงานกับหลุยส์ วิตตอง…แบรนด์หลุยส์ วิตตองมี DNA ที่ชัดเจน ได้เรียนรู้อะไรมากมายจากการทำงาน และขอบคุณที่หลุยส์ วิตตองให้โอกาสและยอบรับในฝีมือของคนไทย” ป้อกล่าวทิ้งท้าย
Comments are closed.