Interview

ทายาทนักการทูต “รัมภาสิริ เทวกุล ณ อยุธยา” บิวตี้บล็อกเกอร์ที่กำลังมาแรง!

Pinterest LinkedIn Tumblr


หากพูดถึงวงการบิวตี้บล็อกเกอร์ในเวลานี้ คงไม่มีใครมาแรงแซงหน้าสาวสวยหน้าหวานฉายแววความโดดเด่นมาแต่ไกล “พราว-รัมภาสิริ เทวกุล ณ อยุธยา” ลูกสาวของ พินเทพ เทวกุล ณ อยุธยา นักการทูต กงสุลใหญ่ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครมิวนิก สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี แถมยังมีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องกับเจ้าแม่ไอคอนิกเมืองไทย อย่าง แพร-วทานิกา ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา อย่างแน่นอน


ความโดดเด่นของพราวมิได้เพียงเติบโตมาจากตระกูลดังเท่านั้น หากแต่โปรไฟล์ด้านการศึกษาก็ไม่น้อยหน้าใคร เพราะเธอสำเร็จการศึกษาระดับชั้นปริญญาตรีที่ Royal Academy of Art สาขา Interactive Media Design จากประเทศเนเธอร์แลนด์

แม้จะเติบโตและใช้ชีวิตกับครอบครัวที่ต่างประเทศมานานกว่า 10 ปี แต่สำเนียงการใช้ภาษาไทยของเธอนั้น ชัดถ้อยชัดคำมาก โดยเธอเริ่มเล่าถึงหน้าที่การงานภายหลังจากที่กลับมาใช้ชีวิตอยู่ในประเทศไทยได้เพียงปีเศษๆ ว่า ตอนนี้เธอทำงานอยู่ 2 อย่างด้วยกันคือ การทำแมกกาซีนบิวตี้ออนไลน์ และเป็นโซเชียลมีเดียแมเนเจอร์ ให้กับ วทานิกา บิวตี้ออนไลน์

“พราวกลับมาจากเยอรมนีเมื่อปีที่แล้ว และก็ได้ฝึกงานที่ นิตยสารโว้ก ในตำแหน่งครีเอทีฟ และช่วงนั้นเองทำให้มีโอกาสได้เจอกับลูกค้าที่ทำงานด้านบิวตี้และแฟชั่นมากขึ้น จึงทำให้สนใจงานทางด้านความสวยความงาม และเมื่อได้รับคำชักชวนจากพี่แพร-วทานิกา ให้มาร่วมงานด้วยกันจึงตอบรับในทันที”


จากเด็กที่เรียนจบทางด้านศิลปะ แต่ต้องมารับหน้าที่ดูแลการตลาดออนไลน์ให้กับ วทานิกา บิวตี้ จึงถือเป็นงานที่ท้าทายความสามารถของพราวไม่ใช่น้อย แต่ทุกอย่างไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้หากมีความตั้งใจเกินร้อย บวกกับการหมั่นศึกษาเรียนรู้ไปเรื่อยๆ

“พอมาทำงานกับพี่แพรแล้วก็รู้สึกชอบมากค่ะ แต่งานมันยากกว่าที่คิด เพราะต้องดูแลด้านการตลาดของแบรนด์ ที่สำคัญเราไม่ได้เรียนทางด้านการตลาดมาด้วย ดังนั้น จึงเรียนรู้วิธีการทำการตลาดออนไลน์ไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะ ช่วงโควิดไม่มีใครออกไปชอปเครื่องสำอางในเคาน์เตอร์อยู่แล้ว จึงต้องมาคิดหาวิธีที่จะทำการตลาดออนไลน์อย่างไรเพื่อให้ลูกค้ามาชอปสินค้าในเว็บไซต์ของเราให้มากที่สุด”


พราวเล่าถึงจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอสนใจงานด้านบิวตี้ว่า เป็นความชอบมาตั้งแต่วัยเยาว์ และงานความสวยความงามก็ถือเป็นศิลปะอย่างหนึ่งเช่นกัน

“พราวสนใจงานด้านศิลปะมาตั้งแต่เด็ก จึงตัดสินใจเรียนดีไซน์ เพราะคิดว่าศิลปะเป็นสิ่งที่สวยงาม และการแต่งหน้าก็ถือเป็นศิลปะอย่างหนึ่งที่ทำให้เราได้ฝึกฝนสมาธิและถ่ายทอดความงามลงบนใบหน้าของเราได้อย่างหมดจด”


การที่ได้มาร่วมงานกับเจ้าแม่ไอคอนิกอันดับต้นๆ ของเมืองไทย อย่าง แพร-วทานิกา สำหรับเธอนั้น มองว่าได้เรียนรู้การทำงานจากพี่สาวคนนี้ตลอดเวลา โดยเฉพาะ ความเป็นผู้นำที่ดี

“พราวไปอยู่ที่เยอรมนีนานกว่า 10 ปี ทำให้ห่างเหินจากพี่น้องไปบ้าง แต่พอกลับมาเมืองไทย ก็พยายามกลับมาเชื่อมความสัมพันธ์กันใหม่ และพอมาร่วมงานกับพี่แพร ทำให้รู้ว่าพี่แพรเป็นคนที่มีความเป็นผู้นำที่ดี ดูแลลูกน้องผู้ร่วมงานทุกคนเป็นอย่างดี พี่แพรใส่ใจในทุกรายละเอียดของงาน อย่างเวลาที่ออกกองไปถ่ายแบบสินค้า พี่แพรก็จะเช็คและดูเองแทบทุกจุดเพื่อให้งานออกมาดีที่สุด สิ่งเหล่านี้ทำให้พราวได้เรียนรู้จากพี่แพรมาตลอด”


เพราะมีศิลปะในหัวใจและรักสวยรักงาม ดังนั้น กิจกรรมสุดโปรดของสาวพราว จึงหนีไม่พ้นการแต่งหน้า เมื่อมีเวลาว่างคราใด เธอก็มักจะสาธิตการแต่งหน้าในโอกาสต่างๆ ลงใน IG และ TikTok อยู่เสมอ จนทำให้ทุกวันนี้เธอมียอดติดตามในไอจีเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

“พราวเป็นคนชอบแต่งหน้ามาก และช่วงนี้โควิดทำให้เรามีเวลาอยู่บ้านมากขึ้น ดังนั้น พราวจึงสาธิตวิธีการแต่งหน้าในสไตล์ต่างๆ ลงในไอจีส่วนตัวที่มีชื่อว่า prouddevakula ซึ่งก็มีคนเข้ามากดติดตามและนำวิธีต่างๆ ที่เราแนะนำไปทำตามกันพอสมควร พราวดีใจมากค่ะที่เราได้นำความสามารถที่เรามี มาช่วยเหลือคนอื่นให้มีอะไรทำคลายเครียดในช่วงนี้ได้”


นอกจากจะรักการแต่งหน้าเป็นชีวิตจิตใจแล้ว ในวันว่างของเธอจึงหนีไม่พ้นการไปเดินชมพิพิธภัณฑ์ศิลปะในสถานที่ต่างๆ เพื่อศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม และนำมาต่อยอดในการทำงานได้เป็นอย่างดี

“สมัยที่พราวอยู่ยุโรป เราจะชอบนั่งรถไฟไปเที่ยวที่ฝรั่งเศสกับสเปน เพราะสามารถนั่งรถไฟจากเยอรมนีแค่ชั่วโมงเดียว และเราก็จะไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ด้านศิลปะตามเมืองต่างๆ ซึ่งพราวสามารถเดินเที่ยวภายในพิพิธภัณฑ์ได้ทั้งวัน อย่างที่อัมสเตอร์ดัม มีพิพิธภัณฑ์ติดกันถึง 10 แห่ง เราก็สามารถเดินชมได้ตลอดทั้งวัน เหตุผลที่ชอบเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ศิลปะ เพราะเราได้เรียนรู้ความเป็นมาของศิลปะที่เราชอบ อันเป็นการได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา และช่วยให้เรานำเอาสิ่งเหล่านั้นมาต่อยอดในการทำงานของเราได้อีกด้วย” พราวเล่าสรุปทิ้งท้าย

Comments are closed.

Pin It