เมื่อเหล่าคุณแม่รับบทฮีโร่สาว ปกป้องลูกน้อยจากแผ่นดินไหว

จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นการผจญเหตุมหันตภัยจากธรรมชาติครั้งใหญ่ในรอบหลายปีของชาวไทย ที่ไม่ค่อยได้เตรียมตัวเตรียมใจกับเหตุการณ์แบบนี้กันเลย ทำเอาหลายคนสับสน งุนงง ทำอะไรไม่ถูก บ้างก็ไม่มีสกิลการเอาตัวรอดสักนิด บางคนก็หมดแรง ยิ่งพวกที่วิ่งหนีจากตึกสูงหลายสิบชั้น ยังไม่ถึงชั้นล่างก็เหนื่อยจนถอดใจก็มี แต่มีคนอยู่หนึ่งประเภทนั่นคือ บรรดาคุณแม่ทั้งหลาย ที่มีสัญชาตญาณมารดา ซึ่งนึกถึงความปลอดภัยของลูกน้อยเป็นหลัก ทำให้เกิดพลังกายพลังใจ ปกป้องชีวิตลูกน้อยให้รอด แปลงร่างเป็นยอดมนุษย์ ซูเปอร์เกิร์ล วันเดอร์วูแมน ไม่แตกตื่นตกใจ เพื่อเป็นหลักยึดให้ลูกน้อยรู้สึกปลอดภัย

เริ่มจากเคสของ “ชมพู่-อารยา เอ ฮาร์เก็ต” ซุปตาร์ตัวแม่แฟชั่น เผยถึงเหตุการณ์หนีตายตอนเกิดเหตุแผ่นดินไหว ที่เธอหอบลูกวิ่งลงจากที่พักเพนต์เฮาส์บนชั้น 47 ของยอดตึกคอนโดฯ หรูใจกลางกรุง มาถึงชั้นล่างได้อย่างปลอดภัย โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นขณะที่เธอกำลังแต่งตัว เมื่อรู้สึกถึงความสั่นสะเทือนตอนแรกก็สวดมนต์ภาวนา จนได้รับการเรียกเตือนจากเซเลบสาวเพื่อนซี้ “พลอย-ชวพร เลาหพงศ์ชนะ” ว่าแผ่นดินไหวให้วิ่งหนีออกจากอาคาร จึงได้รีบหอบลูกสาว-น้องเกล วิ่งลงบันไดหนีไฟลงมาด้านล่าง แบบไม่คิดชีวิต และจำภาพอะไรไม่ได้เลย เหมือนภาพตัดไป จนตอนหลังสามีซึ่งได้วิ่งกลับขึ้นไปตรวจสอบดูว่า ไม่มีใครตกค้างอยู่ในห้องพัก ได้วิ่งตามมาสมทบและช่วยอุ้มลูกให้ จนพากันออกมาจากตึกได้อย่างปลอดภัย

ด้านสาวพลอยเพื่อนสนิทที่ร่วมอยู่ในเหตุการณ์ ได้ถ่ายทอดให้ฟังว่า คุณแม่ดารานั้นสุดยอดมาก เพราะอุ้มลูกวิ่งลงมาอย่างมั่นคงแบบไม่หยุดพัก ทรงตัวอย่างเก่งแบบไม่มีการเอื้อมจับราวบันได แต่ใช้สองมือประคองลูกอย่างมั่นคง และวิ่งแบบไม่มีเหนื่อย แซงหน้าคนที่วิ่งตัวเปล่า ไม่ได้อุ้มเด็กหนักเป็นสิบกิโล แบบนี้ได้ซะอีก และน้องเกลก็รู้งานมาก ไม่มีดิ้น ไม่มีงอแง อยู่ในความสงบ ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี อาจจะเพราะมีคุณแม่คนเก่งสุดแข็งแกร่ง มอบความรู้สึกมั่นคงปลอดภัยให้ ทำให้ลูกสาวไม่ตื่นตกใจนั่นเอง

ส่วนลูกชายฝาแฝดของแม่ชม ขณะนั้นอยู่ที่โรงเรียน มีบรรดาคุณครู และเจ้าหน้าที่ช่วยดูแล ก่อนที่ทางบ้านจะรีบส่งคนรถไปรับ กลับมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันอย่างปลอดภัย แม้ขณะเกิดเหตุแต่ละคนจะแข็งแกร่ง แต่พอรอดลงมาแล้ว ต่างคนต่างหมดแรง และเกิดอาการขาระบมปวดกล้ามเนื้อกันแทบเดินไม่ได้เลยทีเดียว

ฝั่ง “มิ้นท์-ณิชชา บุณยากร” เซเลบสาวร่างเล็ก คุณแม่น้องโมกิ ก็เป็นผู้ประสบภัยเช่นเดียวกัน โดยเธอได้เดินทางไปร่วมงานแกรนด์โอเพนนิ่ง เปิดตัวโรงแรม แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ลุมพินี ในคืนก่อนหน้าวันเกิดเหตุ และได้เข้าพักที่ชั้น 41 ขณะเกิดเหตุเธอเพิ่งตื่นนอน ยังไม่ทันได้ตั้งตัว ก็ต้องรีบพาครอบครัวลงมา มีคุณสามีอุ้มลูกเล็ก ก่อนที่พนักงานโรงแรมจะมาช่วยแบกขึ้นหลังวิ่งหนีลงบันไดหนีไฟมาหลายสิบชั้น

ตัวสาวมิ้นท์เองก็ติดปีกวิ่งแบบไม่คิดชีวิต ยอมถอดรองเท้าวิ่งกันเลยทีเดียว และด้วยหัวใจของความเป็นแม่ แม้จะตื่นตระหนกจนคว้าอะไรไม่ทันสักอย่าง ของที่ติดมือลงมา กลับเป็นสิ่งที่ไม่ได้นึกถึงตัวเอง แต่เป็นของสำคัญ อย่าง ตุ๊กตาตัวโปรดของลูกน้อย ทำให้เมื่อรอดลงมาแล้ว จึงไม่มีทั้งเงิน มือถือที่จะสแกนจ่าย ทำให้ต้องหยิบยืมเพื่อน เพื่อเข้า 7-11 หาซื้อข้าวกล่องรับประทาน และแพมเพิร์สให้ลูก รอเวลาคนขับรถมารับกลับบ้าน

ปิดท้ายที่คุณแม่เวิร์กกิ้งวูแมนคนเก่ง “เปเป้-วาริธร กันท์ไพบูลย์” เจ้าของแบรนด์ VARITHORN BOUTIQUE ที่ต้องสวมบทซูเปอร์ฮีโร่ คอยปลอบโยนลูกน้อย-น้องไอร่า ที่ขวัญเสียจากภัยธรรมชาติที่ไม่คาดคิด โดยที่ไม่มีคุณพ่อคุณแม่อยู่เคียงข้าง เพราะเธออยู่ที่โรงเรียน ส่วนคุณแม่กับคุณพ่ออยู่ที่ทำงาน ก็รีบขับรถตรงไปรับลูกสาวทันที เมื่อขึ้นรถได้และเห็นสภาพลูกสาวที่ร้องให้หนักเพราะขวัญเสีย ทั้งๆ ที่เป็นคนร้องไห้ยาก ขนาดที่เคยหกล้มเลือดไหลแผลใหญ่มากก็ไม่มีน้ำตาสักหยด จึงตัดสินใจหอบทั้งครอบครัวตรงไปหัวหิน ตามที่เคยแพลนไว้ก่อนหน้านี้ทันที พาลูกไปเปลี่ยนบรรยากาศ หลบจากตึกสูง และพาไปกินข้าว เดินเล่นที่ตลาด ทำกิจกรรมต่างๆ ให้ทิ้งความหวาดกลัวและลืมเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นไป ซึ่งต้องบอกได้ว่าเป็นการตัดสินใจถูก เพราะสาวไอร่ากลับมาร่าเริงและยิ้มได้อีกครั้ง