ดูเหมือนว่าเวลานี้รันเวย์แฟชั่นในเมืองไทยบ้านเราจะร้อนแรงไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าเวทีระดับโลกอย่าง มิลาน ปารีส ลอนดอน และนิวยอร์ก ที่ขนผลงานออกมาประชันฝีมือกันอย่างคึกคัก ทั้งจากห้องเสื้อโดยดีไซเนอร์รุ่นเดอะ หรือดีไซเนอร์ที่คร่ำหวอดในวงการ รวมถึงดีไซเนอร์น้องใหม่ ที่ผลงานล้วนแล้วแต่น่าจับตามองแทบทั้งสิ้น
ส่วนหนึ่งที่ทำให้วงการแฟชั่นในเมืองไทยคึกคักสวนกระแสวิกฤตเศรษฐกิจนั้นเป็นเพราะ คนไทยยังคงใส่ใจเรื่องการแต่งตัว และหันมานิยมสินค้าแฟชั่นไทยเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นการเปิดประตูให้นักออกแบบหลายรุ่นหันมาเอาจริงเอาจังในการออกแบบสินค้าแฟชั่นเพื่อเอาใจแฟชั่นนิสต้า ซึ่งมีอยู่หลากหลายกลุ่ม
ดังจะเห็นได้จากแฟชั่นสำหรับเด็กแบรนด์น้องใหม่ อย่าง Rhapsody ของ วรรณพร โปษยานนท์ หรือแบรนด์แฟชั่นชุดชั้นในสุดเก๋ อย่าง Boudoir ของ ดิษยา สรไกรกิติกุล แบรนด์แฟชั่นสำหรับสาวเจ้าเนื้อ อย่าง Suri by surivipa
นี่ยังไม่นับรวมแฟชั่นสุดเปรี้ยวอีกหลากหลายแบรนด์ที่เอาใจทั้งคนที่ชอบแฟชั่นเรียบหรู เปรี้ยว ซ่า และสำหรับหนุ่มๆ ที่รักการแต่งตัว “เป็นเรื่องดีที่เกิดการแข่งขัน เพราะจะเป็นการกระตุ้นให้วงการแฟชั่นไทยคึกคัก และผู้บริโภคจะได้มีทางเลือกมากขึ้น” พลวัฒน์ อัศวะประภา ดีไซเนอร์แบรนด์น้องใหม่ไฟแรงแห่ง Asava กล่าว
การประโคมโหมโรงให้วงการแฟชั่นไทยกลับมาคึกคักอีกครั้ง เป็นตัวกระตุ้นให้ทั้งแบรนด์แฟชั่นรุ่นเดอะอย่าง Flynow, Tube Gallery, Good Mixer, Senada หรือ Theatre จากที่เคยอ่อนแรงเริ่มหันกลับมาต่อสู้กับแบรนด์น้องใหม่ฝีมือเยี่ยมอย่าง Sretsis, Kloset, Boudoir by Disya, Munchu’s, 27 Nov, T-RA, Sanchai, CHAI, Pravit Suwadviphachai, Real หรือ maruwut รวมทั้งยังก์ดีไซเนอร์เลือดใหม่จากมหาวิทยาลัยที่กำลังเตรียมพร้อมลงสนามแข่งขัน
ที่สำคัญตลาดสินค้าแฟชั่นไทยในปัจจุบันมีหลายกลุ่ม ทั้งแบบไฮต์อย่างการจำหน่ายในศูนย์การค้าสยามพารากอน ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ ศูนย์การค้าสยามดิสคัฟเวอรี ตลอดจนย่านแฟชั่นสำคัญอย่างสยามสแควร์ กับตลาดสินค้าแฟชั่นที่เป็นแบบแมส อย่างศูนย์การค้าแพทตินัม ประตูน้ำ และศูนย์การค้ายูเนียน มอลล์ ปากซอยลาดพร้าว
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น แต่ละแบรนด์จะประสบความสำเร็จถึงฝั่งฝันหรือไม่นั้น ยังต้องการการผลักดันจากหลายปัจจัย “ส่วนหนึ่งเป็นเพราะในประเทศไทยยังไม่มีโรงงานอุตสาหกรรมแฟชั่นที่รองรับกระบวนการผลิตสินค้าแฟชั่นได้ในคราวละมากๆ แบบในยุโรป หรือสหรัฐอเมริกา ซึ่งในอนาคตหวังว่าคงจะมีโรงงานดีๆ มารองรับการเติบโตของวงการแฟชั่นไทย เพราะถ้าพูดถึงเรื่องการออกแบบแล้วฝีมือของคนไทยไม่ได้หย่อนไปกว่าดีไซเนอร์ยุโรปเลย” ดีไซเนอร์แบรนด์ Asava กล่าวย้ำอย่างหนักแน่น
นอกจากนี้ ยังต้องการการผลักดันทั้งจากภาครัฐ เอกชน และเวทีแฟชั่น วีก ต่างๆ ที่จะเป็นส่วนช่วยกระตุ้นให้วงการแฟชั่นไทยนั้นประสบความสำเร็จ
Comments are closed.