เที่ยวอย่างมืออาชีพกับกูรูนักผจญภัยไร้พรมแดน "ติ๊ก-จงกลณี"

“ต้องเดินทางถ่ายรายการทั้งในและนอกประเทศไม่ต่ำกว่าเดือนละ 3 ทริป แต่ทุกครั้งที่จะออกเดินทางก็ยังอดรู้สึกตื่นเต้นไม่ได้ ว่าเราจะได้ไปเจออะไรบ้าง ถึงจะเคยไปมาแล้วก็ตื่นเต้น เพราะไปแต่ละครั้งก็ไม่เหมือนเดิม เวลาเปลี่ยนสเน่ห์แต่ละที่ก็เปลี่ยนไป แล้วได้ไปซ้ำที่เดิมก็เท่ากับไปย้อนความประทับใจ เก็บเกี่ยวความสุขที่เคยมีด้วย” จงกลณีเล่าให้ฟังถึงชีวิตการเดินทาง ถ้าไปที่เดิมที่ประทับใจก็คงไม่เป็นไร แต่ถ้าต้องไปที่เคยมี Bad Impression ล่ะ เธอจะทำใจอย่างไรให้อยากไป?

“เราต้องรู้จักเก็บเกี่ยวแต่สิ่งดีๆ มองให้เห็นสวรรค์ในนรก เพราะมันไม่มีทริปไหนจะดีเลิศเพอร์เฟกต์เต็มร้อย หรือทริปที่มันแย่ไปซะทุกอย่างหรอก มันอยู่ที่เราจะเลือกเก็บความทรงจำเหล่านั้นในมุมไหน? อย่างไร? แม้แต่เรื่องที่โชคร้าย หรือลำบากที่สุดก็กลายเป็นเรื่องขำขันได้เมื่อเราย้อนกลับไปมอง เพราะฉะนั้นในแต่ละทริป ขอให้เก็บเกี่ยวแต่สิ่งดีๆ และความประทับใจกลับมา ส่วนอะไรที่ไม่เวิร์กก็จำไว้เป็นบทเรียนก็พอ”

พูดถึงประโยชน์ของการเดินทาง จงกลณีบอกว่า มันช่วยเปิดโลก ทำให้เราได้เห็นอะไรมากมาย ให้เราได้คิดทบทวนสิ่งต่างๆ ไปเรียนรู้โลกแห่งความเป็นจริง เห็นชีวิตคนมากมาย ซึ่งการเดินทางแตกต่างจากการท่องเที่ยว เพราะนอกจากเที่ยวแล้ว เราจะใช้เวลาเรียนรู้เมือง สัมผัสวิถีชีวิต วัฒนธรรม ดังนั้น… “นักท่องเที่ยวได้เจอแค่จุดหมายปลายทาง แต่นักเดินทางได้เจอเรื่องราวต่างๆ อีกมากมาย”

>>>>>5 วิธีเที่ยวอย่างนักเดินทาง<<<<<

การไปเยือนสถานที่ต่างๆ หลายๆ แห่ง ไม่ได้ทำให้คุณเป็นนักเดินทาง เพราะนักเดินทางแตกต่างจากนักท่องเที่ยว ที่การได้ไปสัมผัสสถานที่แต่ละแห่งอย่างลึกซึ้ง เรียนรู้และค้นหาเสน่ห์ของที่แห่งนั้น อย่าง 5 กิจกรรมนี้

1. เดินเล่นอย่างอิสระไปเรื่อยๆ ไม่ต้องตามหนังสือไกด์บุ๊คเล่มไหน เหนื่อยเมื่อไรก็หยุดพัก ซึมซับกับบรรยากาศรอบด้าน ปล่อยให้เท้าเราพาไปค้นพบอะไรใหม่ๆ และทำให้เราได้รู้จักสถานที่ไหนในมุมของเราเอง คุณอาจจะไปเจอสถานที่ประทับใจของคุณเองที่แตกต่างจากคนอื่น

2. ไปเดินตลาดสด ที่ซึ่งทำให้เรารู้ความเป็นไปและได้เห็นตัวตนของเมืองนั่นอย่างเด่นชัดที่สุด เป็นที่ผู้คนชาวท้องถิ่นได้ใช้ชีวิตให้เราไปสัมผัสของจริงด้วยตาตนเอง

3. ทานอาหารพื้นเมืองรสชาติดั้งเดิมสักครั้ง ถ้าไม่ชอบ มื้อหน้าก็ค่อยหาอาหารที่ชอบทาน ไม่แน่นะคุณอาจพบเมนูโปรดจานใหม่ก็ได้

4. พักโรงแรมที่สะท้อนถึงสไตล์ของเมือง อย่างศิลปวัฒนธรรมหรือวิถีความเป็นอยู่ ให้รู้สึกว่าเราได้ไปเยือนจริงๆ ไม่ใช่ก้าวเท้าไปแล้วรู้สึกไม่ต่างจากโรงแรม 5 ดาว ในกรุงเทพฯ

5. ซื้อข้าวของพื้นเมืองเก็บเป็นที่ระลึก โดยอาจเลือกหาของที่คุณสะสมในสไตล์ของเมืองนั้น คุณจะได้อยากเก็บ พร้อมทั้งช่วยเตือนความทรงจำของทริปไปด้วย

>>>>5 สิ่งน่ารู้สำหรับนักเดินทาง <<<<<

1. เตรียมหาข้อมูลล่วงหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องสภาพอากาศและวันสำคัญ เทศกาลต่างๆ เพราะคุณอาจได้ไปสัมผัสกับประวัติศาสตร์และงานสำคัญอย่างไม่คาดคิดก็เป็นได้

2. รองเท้าต้องใส่สบาย เพราะทุกทริปคุณต้องเดิน เดินชอปปิ้งในเมือง เดินชมธรรมชาติ และ…เดินหลง (หัวเราะ) และควรมีรองเท้าที่กันน้ำได้สักคู่ ไม่ต้องทนรำคาญเท้าเวลาเปียกชื้น

3. สิ่งที่ห้ามลืมเวลาจัดกระเป๋า คือ 1)ผ้าคลุม สารพัดประโยชน์และใช้ได้ทุกสถานการณ์ ควรเลือกที่มีส่วนผสมของวูให้ความอบอุ่น 2)ร่ม 3)เสื้อกันฝน 4)หมวก แบบไหนก็ตามแต่ขอให้ใส่กระฉับ กันแดดกันลมได้

4. พกสปอร์ตติดตัวไว้ในเสื้อหรือซองห้อยคอ กระจายเก็บเงินตามกระเป๋าต่างๆ ลดความเสี่ยง พร้อมจดเบอร์สำคัญเผื่อไว้ สิ่งเหล่านี้คนรู้อยู่แล้วแต่มักชะล่าใจ ต้องให้เกิดเหตุขึ้นก่อนถึงจะเห็นความสำคัญ

5. ถ้าจะสังเกตุนักเดินทางมืออาชีพให้ดูจากการวางกระเป๋า ซึ่งจะวางปุ๊ปแล้วเอาขาหนีบ หรือเกี่ยวไว้ เราควรระวังตัวเสมอเพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ตลอด

>>>>>5 ที่เที่ยวในฝัน<<<<<

เดินทางย่ำเท้ามาเกือบทั่วโลกขนาดนี้แล้ว จะมีที่แห่งไหนใต้พื้นฝ้านี้บ้าง ที่เธอยังไม่เคยแวนเวียนไปเยี่ยมเยือน แต่อยากไปจนเรียกได้ว่าเป็นประเทศในฝัน

อัฟกานิสถาน :: ได้ยินคำล่ำลือมาตลอดว่าธรรมชาติสวยและมีอะไรให้น่าเรียนรู้มากมาย

ปากีสถาน :: ไม่ติดอันดับประเทศท่องเที่ยว แต่มีสิ่งน่าสนใจมากมายให้อยากไปสัมผัสสักครั้ง

โมรอกโก :: สวยงาม เป็นประเทศน่าเที่ยวที่คนนิยม สัญญากับตัวเองว่าต้องไปให้ได้

กรีซ :: เดินทางไปได้ง่ายมากกลับไม่เคยไป ในขณะประเทศไปยากๆ อย่าง คาซักสถาน ติ๊กกลับได้ไปหลายครั้ง (หัวเราะ)

พาราณสี :: ไปอินเดียหลายรอบแต่ไม่เคยไปพาราณสีสักที ทั้งที่มีที่น่าเที่ยวมากมาย