>>ท่ามกลางความขลังของสถาปัตยกรรมโบราณ เทคโนโลยีสมัยใหม่ได้เข้ามีบทบาทสำคัญต่อวิถีชีวิตของผู้คนกัมพูชา ทำให้สังคมของชาวเขมรวันนี้เปลี่ยนไปและมีความขัดแข้งกันอย่างสิ้นเชิง ระหว่างความทันสมัยกับอัตลักษณ์ดั้งเดิมของชาวเขมร
เมื่อกล่าวถึงกัมพูชาภาพแรกที่หลายคนนึกถึง คือ นครวัด สัญลักษณ์ความมั่งคั่งทางด้านสถาปัตยกรรม จนได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ซึ่งแทบจะไม่มีโครงสร้างใดเปลี่ยนแปลงไปเลย ถึงแม้ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ร้อยปีก็ตาม ในทางกลับกันสภาพวิถีชีวิตของผู้คนกลับแปรเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง จากการไหลบ่าทางวัฒนธรรมผ่านเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่นำเอาวัฒนธรรมตะวันตกเข้ามีอิทธิพลต่อการใช้ชีวิตและความรู้สึกนึกคิดจนแทบจะไม่หลงเหลือความเป็นเขมรขนานแท้
เด็กสมัยใหม่นิยมแต่งตัวแบบนักร้องวงดังจากแดนกิมจิ แต่งหน้าจัดเหมือนนักแสดงในละครโทรทัศน์ และนิยมใช้สินค้าเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างโทรศัพท์มือถือ ที่มีใช้กันตั้งแต่บ้านเล็ก บ้านใหญ่ ไปจนถึงกระท่อมปลายนา ซึ่งนั่นคือ สิ่งที่เทคโนโลยีสมัยใหม่ประสงค์ และมันก็ได้ผลจริงๆ เพราะเด็กรุ่นใหม่ในกัมพูชาไม่ค่อยสนใจกับวัฒนธรรมหรืออัตลักษณ์ดั้งเดิมของกัมพูชาเท่าไหร่ แต่มุ่งแสวงหาสิ่งใหม่ที่ทันสมัย เพื่อให้ก้าวล้ำทันสมัยเหมือนเช่น นักร้อง นักแสดง และโมเดลของเทคโนโลยียอดนิยม
ปรากฎการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นแล้วและสัมผัสได้ที่เสียบเรียบวันนี้ ระหว่างที่ผมเดินทางไปเยือนเมืองเสียบเรียบ โดยผมเลือกเข้าพักที่ “โรงแรมโซฟิเทล อังกอร์ โภคีธรา กอล์ฟ แอนด์ สปา รีสอร์ต” ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา โรงแรมแห่งนี้เป็นของคนไทย นาม “คุณสุภชัย วีระภุชงค์” ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัท ไทยนครพัฒนา จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายยาลดไข้ทิฟฟี่ ซาร่า และอื่นๆ อีกมากมาย
นักธุรกิจไทยรายนี้เข้ามาเปิดตลาดในกัมพูชากว่าสิบปี และมีบทบาทสำคัญต่อชาวเขมรเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะเข้ามาทำธุรกิจแล้วยังเป็นผู้สนับสนุนหลักของกระทรวงสาธารณสุข ประเทศกัมพูชา อีกด้วย
ผมใช้เวลาสำรวจโรงแรมในช่วงเช้า ซึ่งอากาศเย็นสบาย ตัวโรงแรมมีลักษณะโดดเด่นด้วยการตกแต่งสไตล์โคโลเนียลของฝรั่งเศส พร้อมด้วยพื้นไม้ หน้าต่าง ที่มีความสูงสองเท่า และล้อมรอบไปด้วยระเบียง ซึ่งมีความแตกต่างอย่างมากกับรายละเอียดภายนอกสไตล์เขมร ที่มีลักษณะเพดานสูง มีเสาที่มีลักษณะเรียวยาว ปูด้วยกระเบื้องสีแดงโบราณ
ตัวโรงแรมรายล้อมไปด้วยการตกแต่งทิวทัศน์ของสวน มีสระว่ายน้ำกลางแจ้ง ที่มีประกายระยิบระยับอยู่บริเวณสนามส่วนกลาง ซึ่งเป็นทางคดเคี้ยวและมีน้ำพุขนาดเล็กที่มีสีสันสวยงาม เส้นทางที่นำคุณจากรีสอร์ตไปยังสถานที่สปา และสถานที่ประชุม จะเดินทางผ่านสวนสระบัวที่สวยงาม การเดินเล่นในตอนเช้าผ่านเส้นทางทิวทัศน์ เหล่านี้ทำให้ผมได้พบกับประสบการณ์ที่น่าประทับใจอย่างยิ่ง
ท่ามกลางป่าแห่งเมืองเสียมเรียบที่ซ่อนขุมทรัพย์ล้ำค่าอย่าง นครวัด รายล้อมไปด้วยมรดกที่มีความละเอียดปราณีตที่สุดแห่งหนึ่งในอารยธรรมเขมร สร้างขึ้นในรัชสมัยของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ในพุทธศตวรรษที่ 16-17 เพื่อเป็นศาสนสถานประจำนครของพระองค์ เมื่อสมัยแรกนั้น นครวัดได้ถูกสร้างเป็นเทวสถานในศาสนาฮินดู ลัทธิไวษณพนิกาย แต่ต่อมาในสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ได้เปลี่ยนให้เป็นวัดในศาสนาพุทธนิกายมหายาน ปัจจุบันปราสาทนครวัดนับเป็นสิ่งก่อสร้างสัญลักษณ์ของประเทศกัมพูชา และได้รับลงทะเบียนเป็นมรดกโลกภายใต้ชื่อ เมืองพระนคร
ปราสาทนครวัดได้เริ่มสร้างในกลางพุทธศตวรรษที่ 17 ในรัชสมัยของ พระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 เพื่อบูชาแด่พระวิษณุ หรือพระนารายณ์ ในปี พ.ศ. 1720 ชาวจามได้บุกรุกขอม ทำให้พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ต้องย้ายเมืองหลวงไปที่เมืองนครหลวง หรือเสียมเรียบในปัจจุบัน หลังจากนั้น พระองค์จึงสร้างเมืองนครธม และปราสาทบายน ห่างจากปราสาทนครวัดไปทางเหนือ เพื่อเป็นเมืองหลวงแห่งใหม่ของชาวขอม ในปี พ.ศ. 2129 ได้มีนักบวชจากโปรตุเกส นามว่า “อันโตนิโอ ดา มักดาเลนา” เป็นชาวตะวันตกคนแรกที่ได้ไปเยือนปราสาทนครวัด
แต่ที่จะถือว่าเป็นการเปิดประตูให้แก่ปราสาทนครวัดนั้น คือการค้นพบของ “อองรี มูโอต์” นักสะสมแมลงและนักสำรวจชาวฝรั่งเศส เมื่อประมาณร้อยกว่าปีที่แล้วมา ปราสาทนครวัดเป็นสิ่ง ก่อสร้างในยุคสิ้นสุดของราชอาณาจักรขะแมร์ โดยมีหินทรายเป็นวัสดุก่อสร้างหลัก ขนาดและการก่อสร้าง
นครวัดยังคงเป็นหัวใจของจิตวิญญาณสำหรับประเทศกัมพูชาสมัยใหม่ และเป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาดสำหรับการเดินทางมาที่นี่ จุดเด่นที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งยังรวมไปถึงการได้เห็นปรากฏการณ์พระอาทิตย์ขึ้นที่ปราสาทบายน ซึ่งเป็นการยากที่จะอธิบายปรากฎการณ์ที่น่าพิศวงนี้เมื่อพระพักตร์ของพระอวโลกิเตศวรจ้องมองลงมาจากที่สูง ซึ่งเป็นการเดินชมที่จับใจเป็นอย่างยิ่ง ปราสาทนครวัดที่มีความมหัศจรรย์ทางสถาปัตยกรรม ซ่อนอยู่ภายในอาณาจักรโบราณเขมรแห่งนี้ และยังเป็นการเดินทางผ่านหนึ่งในโบราณสถานที่มีซากปรักหักพังที่น่าประทับใจที่สุดแห่งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ ซึ่งนั่นก็คือ ปราสาทตาพรหม
ปัจจุบันเมืองเสียมเรียบยังคงมีความโดดเด่นในเรื่องของร้านค้าสไตล์ฝรั่งเศสที่มีเสน่ห์ ถนนในเมืองที่มีต้นไม้อยู่ริมทาง พิพิธภัณฑ์ทางประวัติศาสตร์ และร้านค้าศิลปะ สำหรับการเดินทางในตัวนครแห่งเดียวภายในสองวันก็สามารถสัมผัสกับตัววัดได้ หรือการเดินทางสามถึงสี่วันก็สามารถสถานที่สำคัญต่างๆ ได้แต่ถ้าหากคุณเดินทางภายในหนึ่งสัปดาห์ หรือมากกว่านั้น คุณได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่คุ้มค่ามากยิ่งขึ้นในการย้อนเวลาหาอดีตเพื่อรำลึกถึงความศิวิไลส์ของนครวัด
ท่ามกลางความหลากหลายของถนนกลางเมืองเสียมเรียบ คุณสามารถเยี่ยมชมร้านค้าศิลปะได้ที่ เลส์ ชานเทียร์ เอโคลส์ (Les Chantiers Ecoles) หรือศูนย์ศิลปาชีพขนาดเล็กของนครวัด (Artisan d' Angkor) ซึ่งคุณจะได้พบกับงานศิลปะพื้นเมืองจำพวกงานแกะสลักไม้และหิน รูปปั้น เครื่องเรือน และงานหัตถกรรม
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่หลงใหลความงดงามของสถาปัตยกรรมโบราณแบบเขมร แนะนำว่านครวัด ในเมืองเสียมเรียบ มีหลายสิ่งที่จะเติมแรงบันดาลใจให้คุณมีพลังในการต่อสู้เพื่อปกป้องศิลปะและวัฒนธรรมอันล้ำค่าให้คงอยู่ต่อไป
* * * * * * * * * * * * * * * *
Hotel Info.
ที่ตั้งโรงแรม
:: ใช้เวลาเพียง 5 นาที จากตัวเมืองเสียบเรียบและจากนครวัด
:: ใช้เวลาเพียง 15 นาที จากสนามบินนานาชาติเสียมเรียบ
:: ห้องพักพิเศษที่มีทิวทัศน์ของสวนส่วนตัว ซึ่งในแต่ละห้องการตกแต่งสะท้อนถึงความรุ่งโรจน์ในยุคบายอนที่มีความสง่างาม
:: เฟอร์นิเจอร์โบราณ โซฟาหนัง เตียงสี่เสา พัดลมเพดานแบบดั้งเดิม และพื้นไม้แข็งจะตกแต่งภายในห้องพัก 238 ห้อง และในแต่ละห้องสูทจะมีสระน้ำที่กว้างขวาง หรือวิวทะเลสาบ
ร้านอาหารและบาร์
:: Citadel Restaurant เป็นห้องอาหารที่สว่างและมีอากาศถ่ายเท ให้บริการอาหารตะวันตกและอาหารเอเชียในบรรยากาศเขมรดั้งเดิม
:: Leave on the Stone บาร์เทปันยากิญี่ปุ่น ที่มีการย่างแบบเปิดโล่ง โดยที่เชฟจะเป็นผู้เตรียมเนื้อสดและอาหารทะเลสำหรับการทุกความต้องการของลูกค้า
:: Mouhot's Dream ร้านนี้ทำให้นึกถึงหวนระลึกถึงประสบการณ์การรับประทานอาหารค่ำในยุคเก่า โมฮอต ดรีม ให้บริการอาหารที่ผสมผสานระหว่างชสชาติแบบตะวันออกและฝรั่งเศสเข้าด้วยกัน
:: The Royal Court ได้จัดระเบียงไว้สำหรับชมสวนแบบป่าของ เดอะ รอยัล คอร์ต มีความโดดเด่นในการให้บริการรายการอาหารบุฟเฟต์ในสไตล์กัมพูชา พร้อมกับการแสดงวัฒนธรรมพื้นเมือง
:: W Pub ผับบาร์สไตล์อังกฤษที่ตกแต่งด้วยโต๊ะไม้มะฮอกกานีที่วางบนพื้นไม้ ดับบิว ผับ ให้บริการเครื่องดื่มหลากหลายรูปแบบ รวมถึงพาสต้าและยังเป็นหนึ่งในพิซซ่าที่ดีที่สุดในเมือง
:: Explorer Tales ห้องพักผ่อนลอบบี้ซึ่งมีการแสดงเปียโนและเป็นสถานที่พบปะสังสรรค์ที่มีชื่อเสียงเหมาะสำหรับการดื่มเครื่องดื่มและค็อกเทลก่อนหรือหลังรับประทานอาหาร
:: Serpent Bar อยู่ท่ามกลางการรายล้อมของสวนของโรงแรม บาร์เซอร์เพนต์เป็นบริเวณที่เหมาะสำหรับการมาสนุกสนาน ดื่มเครื่องดื่มที่ทำให้รู้สึกสดชื่น ในขณะที่สามารถพักผ่อนริมสระน้ำได้
ข้อมูลห้องพัก
ห้องสูทโอเปร่า จำนวน 1 ห้อง, ห้องสูทเพรสทิจ จำนวน 8 ห้อง, ห้องสูทจูเนียร์ จำนวน 15 ห้อง, ห้องลักชัวรี จำนวน 71 ห้อง, ห้องซุพีเรียร์ จำนวน 143 ห้อง, ร้านอาหาร 5 ร้าน และบาร์ 2 แห่ง, ห้องประชุม 5 ห้อง (รองรับได้ถึง 500 คน)
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
Comments are closed.