ART EYE VIEW—ดูจากภาพก็พอจะรู้และเดาออกใช่ไหมว่าหนุ่มน้อยคนนี้ มีความสามารถด้านไหน และมีใครเป็นไอดอล
น้องซาลโตส หรือ ด.ช.ประกาศิต ฉ่ำบุญทา นักเรียนชั้น ป.6 วัย 11 ปี โรงเรียนสุวิทย์เสรีอนุสรณ์ ผู้เคยถูกรับเชิญให้ร่วมแสดงผลงานกับศิลปินรุ่นใหญ่ เมื่อครั้งเปิด หอศิลป์ศุภโชค ดิ อาร์ต เซนเตอร์ มาแล้วครั้งหนึ่ง และล่าสุดก็เพิ่งถูก หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เชิญมาแสดงผลงานให้ผู้สนใจได้ชม 3 วันเต็มๆ
หลังจากที่หลายคนได้ไปพบน้องขณะนั่งเขียนภาพโชว์ ที่ ตลาดนัดการกีฬาแห่งประเทศไทย
>>>วาดลายไทย กินขนมไทย
วันเพ็ญ โยยิ่ง คุณแม่ของน้องเล่าว่า ลูกชายเป็นคนชอบถ่ายภาพและชอบขีดๆเขียนมาตั้งแต่เด็ก แต่มาฝึกฝนวาดภาพอย่างจริงจังและวาดทุกวันก็ในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมาเท่านั้นเอง
โดยภาพที่น้องชอบวาดที่สุดคือภาพลายเส้นเกี่ยวกับตัวละครในวรรณคดีไทย โดยเฉพาะ “หนุมาน” ในวรรณคดีเรื่อง “รามเกียรติ์”
แม้ที่ผ่านมาคุณแม่จะพยายามส่งเสริมลูกชายด้วยการพาไปชมงานศิลปะในนิทรรศการที่มีงานให้ดูหลากหลายรูปแบบ กระนั้นซาลโตสก็ยังปักใจชอบวาดแต่อะไรที่เป็นไทย แถมขนมที่ชอบกินก็ยังชอบแต่ขนมไทยอีกด้วย
“ชอบกินขนมไทยมาก ขนมขี้หนู หรือพวกขนมโบราณ จะชอบมาก แต่ก่อนก็คุยขำๆ กับเพื่อนเพื่อนว่า ลูกฉัน ใครมาเกิดเนี่ย คุณแม่ก็ไม่เข้าใจว่าเป็นเพราะอะไร ทั้งที่ไม่ได้ปลูกฝัง แต่จะปลูกฝังเรื่องธรรมะ พาไปวัด หรือพาไปเห็นสถานที่โบราณมากกว่า ซึ่งคุณแม่ชอบ คิดว่าอาจจะเป็นเพราะตรงนั้นด้วยมั้งคะ แล้วก็ชอบแนะนำของเล่นโบราณให้เขาดูว่าสมัยก่อนแม่เล่นนะลูก หรือไม่เขาก็อาจจะชอบด้วยตัวเขาเอง”
>>>รัก “อ.เฉลิมชัย” ชอบใส่ม่อฮ่อม
นอกจากนี้ซาลโตสยังมีศิลปินที่ชื่นชอบเป็น อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ชอบมาตั้งแต่ยังไม่มีโอกาสได้เจอตัวจริง หนุ่มน้อยบอกถึงเหตุผลที่ชอบว่า
“อาจารย์เป็นไอดอลครับ ผมชอบที่อาจารย์ทำงานใหญ่โต”
กระทั่งต่อมาได้มีโอกาสไปเยือน วัดร่องขุ่น จ.เชียงราย ปะหน้ากับศิลปินที่ตัวเองชื่นชอบตัวจริง เสียงจริง
“แม่ไปเที่ยวเชียงราย ไปวัดร่องขุ่น ได้เบอร์เลขาฯ ของอาจารย์มา ก็เลยส่งงานซาลโตสไปให้อาจารย์ดู ผ่านเมลของเลขาฯ ช่วงนั้นซานโตสก็เพิ่งจะหัดวาดรูป อาจารย์ดูแล้ว ก็บอกเลขาฯ ว่า เด็กคนนี้เก่งว่ะ อย่างนี้ต้องส่งเสริม
จากนั้นอาจารย์ก็เรียกให้ไปอยู่วัดร่องขุ่นสองครั้งช่วงปิดเทอม ทานข้าวก็นั่งโต๊ะเดียวกันกับอาจารย์ เขาก็เลยยิ่งชอบ ยิ่งรักอาจารย์”
ส่งผลให้หนุ่มน้อยเลือกที่จะแต่งกายด้วยชุดม่อฮ่อมตามแบบฉบับ อ.เฉลิมชัย อีกด้วย ซึ่งคุณแม่ยืนยันว่า แม้แต่ตอนนอนก็ยังใส่ชุดนี้ นอกจากตอนที่ไปโรงเรียนเท่านั้นที่ต้องใส่ชุดนักเรียน
“เขาเห็นอาจารย์ใส่ เขาก็อยากใส่ คุณแม่ก็งง และไม่อยากจะให้เขาใส่ เพราะกลัวจะเป็นการลอกเลียนแบบอาจารย์มากเกินไป และกลัวว่าจะเป็นการล้อเลียน แต่เขาบอกว่าเขาอยากใส่ เลยบอกเขาว่า กลับมาบ้านแล้วค่อยใส่ก็ได้ คุณแม่ก็เลยซื้อให้ พาเขาไปเดินตลาด วันที่เข้าไปลาอาจารย์กลับ เขาก็ใส่เลย ไม่ได้ซักด้วย หลังจากนั้นเขาก็ใส่มาตลอดจนถึงทุกวันนี้
(ไม่เคยโดนเพื่อนล้อเรื่องแต่งตัว)เขาไม่สนใจใครเลยนะซาลโตส เขาบอกว่าชอบที่เขาเป็นตัวเขา แม่ก็ทราบเหมือนกัน อย่างเสื้อผ้าชุดอื่นๆที่แม่เคยซื้อให้เนี่ย เขาก็ไม่เคยหยิบขึ้นมาใส่เลยนะ เพียงแต่เวลาไปโรงเรียน ต้องใส่ชุดนักเรียน
มีอยู่ครั้งหนึ่ง มีการประเมินโรงเรียน ครูก็เลยให้วาดรูปให้คนที่มาประเมินดู ซาลโตสก็โทรมาให้คุณแม่เอาเสื้อม่อฮ่อมไปให้ใส่ ที่โรงเรียน ครูก็แซวกันว่าถ้าไม่ใส่ม่อฮ่อมวาดไม่ได้ใช่ไม๊ เขาเป็นอย่างนั้นเลย”
ขณะที่เจ้าตัวบอกถึงเหตุผลที่ไม่กลัวถูกแซวว่าเชยและทำให้อยากใส่ม่อฮ่อมว่า “ใส่แล้วสบาย ไม่ร้อนดีครับ”
แต่สิ่งที่ซาลโตสไม่เหมือน อ.เฉลิมชัย เลย นอกจากเรื่องหน้าตาที่ดูเหมือนเด็กใต้มากกว่าเด็กดอย และที่สำคัญพูดน้อยกว่าอาจารย์เฉลิมชัยมากๆ แต่ใครอย่าได้มานินทา อ.เฉลิมชัยให้ฟัง เพราะซาลโตสจะโกรธตาขวางเลยทีเดียว
“ไอดอลเขา ใครว่าอาจารย์เฉลิมชัยไม่ได้นะ เขาจะโกรธมาก คุณแม่ก็ไม่รู้ว่าทำไม เขาจะรักอาจารย์มาก พอมีคนมาพูดเล่นๆตามประสาชาวบ้านว่าจะบ้า จะ ACT ARTเหมือนอาจารย์รึเปล่าวะ เขาจะโมโหมากเลยนะ จะไม่พูดด้วยแล้วก็จะตาขวาง แม่ก็จะคอยบอกเขาว่า ซาลโตสอย่านะลูก ไม่ควรทำใส่หน้าคนอื่นอย่างนั้น ไม่เอาลูก อะไรอย่างนี้”
>>>วาดภาพหาเงินช่วยวัดสร้างโรงพยาบาล
ส่วนเรื่องการไปเขียนภาพโชว์ที่ ตลาดนัด กกท. คุณแม่บอกว่าไม่ได้บังคับ แต่เป็นเพราะว่าลูกชายอยากจะหารายได้ด้วยตัวเอง และแม่อยากลูกชายมีกำลังที่จะทำต่อ ในเวลาที่มีคนมาชม เงินที่ได้มาไม่เพียงแต่จะส่งตัวเองเรียน แต่ยังส่งพี่ชายคนกลางเรียนและทำบุญอีกด้วย
ตัวอย่างเช่นการวาดภาพหาทุนช่วย วัดสมาน จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อสร้างโรงพยาบาล
“คุณแม่พาเขาไปวัดไปทำบุญ และเขาก็ไปวาดโชว์เพื่อหาทุนการศึกษานี่แหล่ะ เหมือนศิลปินเปิดหมวก พอทางวัดประกาศว่าจะสร้างโรงพยาบาลหลายล้าน เขาก็วาดให้ ทางวัดจะเอาไปประมูลหรือขาย ก็แล้วแต่ทางวัด ครั้งแรกท่านเจ้าอาวาสให้เงินนะคะ พอครั้งที่สองจะให้อีก น้องบอกว่าไม่ต้องหรอกครับผมมีแล้ว
แต่ความตั้งใจของแม่ อยากให้น้องมีกำลังใจในการวาด ใครเห็นใครชม เขาจะได้มีกำลังใจวาดต่อ ส่วนใหญ่คนเขาจะชม หรือบางคนพาลูกมาด้วยก็จะสอนลูกเขาว่า เนี่ยดูสิ พี่หรือน้องเขาโตแค่นี้ สามารถหาเงินวาดรูปหาทุนการศึกษาเองได้ ไม่ได้ไปเกเรทีไหน เวลาว่างเสาร์อาทิตย์ยังมาหารายได้พิเศษ”
ที่ผ่านมาถ้าไม่นับรวมหาเงินช่วยวัด เฉลิมชัยน้อยไม่เคยมีความต้องการที่จะขายภาพที่ตัวเองวาด เพราะว่า “ผมรักทุกรูป ไม่ค่อยอยากขาย”
ด้านคุณแม่เสริมว่า “เขารักงานของเขามาก ตอนไปวาดที่วัดมีคนจะขอซื้อมากมาย แต่เขาก็จะบอกทุกคนว่าให้ไปติดต่อกับเจ้าอาวาสครับ
รูปที่เขาวาด ต่อให้ไม่สวยเขาก็ไม่ยอมขายนะ เขาบอกว่าวาดด้วยความตั้งใจ และจะชื่นชมผลงานของตัวเองมาก
และที่น้องเขาวาดรูปได้ เขาไม่มีครูสอนด้วยนะคะ จนทุกวันนี้เขาก็ไม่มีครู เขาฝึกฝนด้วยตัวเอง คุณแม่คิดว่าที่เขาวาดเก่ง เพราะเขามีความตั้งใจมากกว่า เขารัก เขาชอบ มันเป็นสิ่งที่เขารักจริงๆ โรงเรียนก็มารู้ว่าน้องวาดรูปเก่ง ตอนออกทีวี อ้าวนั่นลูกศิษย์ฉันนี่
และ เขาเป็นคนไม่ชอบประกวดวาดภาพ ไม่ชอบถูกบังคับ ถามคนในแวดวงศิลปะ เขาก็บอกนี่แหล่ะอารมณ์ศิลปิน ครูก็บอกสอนไม่ได้ น้องมันเก่งเกิน”
ซาลโตสบอกเคล็ดลับในการวาดภาพให้เก่งว่า ต้องฝึกฝน “วาดไปเรื่อยๆครับ ผมก็ทำอย่างนั้น ต้องฝึกฝนเอาครับ วาดบ่อยๆ”
>>>อยากเข้าศิลปากร อยากเป็นศิลปิน
แต่ใครที่อยากจะพบซาลโตสที่จุดเดิม ช่วงนี้คงต้องรอไปก่อน เพราะสภาพอากาศที่ร้อนทำให้ต้องขอหยุดพักเขียนภาพอยู่ที่บ้านเป็นการชั่วคราว
และเปิดเทอมที่จะถึงนี้ ก็กำลังจะไปเรียนต่อชั้น ม.1ที่ โรงเรียนพรตพิทยพยัต ย่านลาดกระบัง
เมื่อถามถึงเป้าหมายของอาชีพในอนาคตหนุ่มน้อยไม่ลังเลที่จะตอบว่า “อยากเป็นศิลปินครับ”
“คุณแม่ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเขามุ่งมั่นได้ตั้งแต่อายุเท่านี้ เขาอยากจะเข้ามหาวิทยาลัยศิลปากรให้ได้เหมือนอาจารย์เฉลิมชัย”
ถ่ายภาพโดย : วารี น้อยใหญ่
ส่งข่าวสารงานศิลปะร่วมสมัย มาได้ที่ ข่าว ART EYE VIEW เซกชัน Celeb Online www.astvmanager.com และ M-Art eye view เซกชัน Lite ในหนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ Email: thinksea@hotmail.com
และคลิกเป็น แฟนเพจ ได้ที่ http://www.facebook.com/arteyeviewnews
Comments are closed.