ความมหัศจรรย์ของพลังแห่งสีทอง

>>ปรับเมนูสู่สุขภาพดีด้วยผลไม้มากคุณค่าเปี่ยมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์อย่าง “กีวี” ที่เราอาจจะคุ้นเคยกันกับกีวีสีเนื้อสีเขียวๆ กัน แต่ตอนนี้เราอยากแนะนำให้คุณรู้จักกับกีวีพันธุ์ใหม่เนื้อสีทองสวย ที่ทั้งมีรสหวานและมีคุณค่าทางสารอาหารมากกว่าเดิมหลายเท่า

โดยงานนี้บริษัท เซสปรี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้นำตลาดกีวีที่ใหญ่ที่สุดในโลก และได้จัดจำหน่ายกีวีมากกว่า 60 ประเทศทั่วโลก สำหรับในประเทศไทย เซสปรีก็นำเข้ากีวีสีทองจากประเทศนิวซีแลนด์ ได้เปิดตัวเซสปรี® ซันโกลด์กีวีสายพันธุ์ใหม่ เนื้อสีทอง รสหวานชุ่มฉ่ำ ให้คนไทยเราได้สัมผัสกับความมหัศจรรย์พลังแห่งสีทองกัน

เซสปรี® ซันโกลด์กีวี เป็นกีวีสายพันธุ์ใหม่ที่ใช้เวลาพัฒนาสายพันธุ์มากว่าสิบปี อาทิ วิตามินซี วิตามินอี และโพแทสเซียม ให้ความหวาน ชุ่มฉ่ำ รับประทานง่าย แถมยังมีรสชาติอร่อย นับเป็นวัตถุดิบที่ควรซื้อหาติดบ้านไว้ จะกินสดหรือนำไปประยุกต์ทำอาหารและเครื่องดื่มก็ได้หลากหลายเมนู

ด้านคุณค่าทางสารอาหาร พญ.ธิดากานต์ รุจิพัฒนกุล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณและชะลอวัย ประจำที่โรงพยาบาลสมิติเวช เธอเป็นคุณหมอนักเขียนเจ้าของพ็อกเกตบุ๊กสุขภาพขายดีหลายต่อหลายเล่ม เผยถึงผลวิจัยของมหาวิทยาลัยโอทาโก เมืองไครสต์เชิร์ช (UOC) ประเทศนิวซีแลนด์ว่า

“รับประทานกีวีทุกวันสามารถช่วยพัฒนาอารมณ์ให้ดีขึ้นและยังเพิ่มพลังงานได้เป็นอย่างมาก การวิจัยแบ่งชายหนุ่มที่มีสุขภาพปกติออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกรับประทานกีวีวันละ 2 ผลทุกวัน อีกกลุ่มหนึ่งรับประทานกีวีเพียงครึ่งผลต่อวัน เป็นระยะเวลามากกว่า 6 สัปดาห์ เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ที่ผลไม้จะช่วยทำให้อารมณ์ของคนเราดีขึ้น พบว่า กลุ่มที่รับประทานกีวี 2 ผลทุกวัน มีอาการเหนื่อยล้าและหดหู่น้อยกว่าอีกกลุ่มหนึ่ง นอกจากนี้พวกเขายังรู้สึกว่ามีพลังงานเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเกี่ยวข้องกับปริมาณวิตามินซีที่ร่างกายได้รับจากกีวี 2 ผล ซึ่งกีวีถือเป็นแหล่งวิตามินซีที่ได้รับการยอมรับ”

โดยวิตามินซีช่วยกระตุ้นการทำงานของเอนไซม์หลายตัวในร่างกายซึ่งช่วยเพิ่มระดับพลังงานในการเผาผลาญอาหาร และสารสื่อสารประสาทในสมอง ซึ่งในเซสปรี®ซันโกลด์กีวี อุดมไปด้วยวิตามินซีที่มีปริมาณมากกว่าส้มถึง 3 เท่า* เซสปรี® ซันโกลด์กีวียังอุดมไปด้วยวิตามินซีที่มากกว่าสับปะรด มะม่วง กล้วย แตงโม แอปเปิล และองุ่น

การรับประทานเซสปรี®ซันโกลด์กีวีหนึ่งผลต่อวัน ร่างกายจะได้รับวิตามินซีที่เพียงพอต่อความต้องการในแต่ละวัน (ปริมานวิตามินซีที่ร่างกายต้องการต่อวันคือ 60 มิลลิกรัม) และยังมอบความสดชื่นและกระปรี้กระเปร่าให้แก่ร่างกายอีกด้วย

โดยคุณหมอผิงแนะนำว่า “ร่างกายคนเราต้องการการบริโภคผักและผลไม้อยู่ที่ 5 หน่วยบริโภคต่อวัน หรือเปรียบเทียบกันได้ง่ายๆ ที่ในปริมาณ 5 กำมือ สอดแทรกหลังมื้ออาหารในทุกๆ วัน”

สำหรับการรับประทาณกีวีนั้น ถ้าใครเบื่อที่จะรับประทานแบบผลไม้สดๆ ทางคุณลอร่า-ศศิธร วัฒนกุล คุณแม่ผู้รักสุขภาพก็มาช่วยแนะนำเมนูเครื่องดื่มโฮมเมดเพื่อสุขภาพอย่างเบรน บูสเตอร์ (Brain Booster) ที่ใช้เซสปรี®ซันโกลด์กีวี พร้อมด้วยผักและผลไม้อื่นๆ มาปั่นเข้าด้วยกัน ซึ่งเป็นเมนูเครื่องดื่มที่ทำเองได้ง่ายและให้คุณประโยชน์แก่ร่างกาย อีกทั้งยังให้ความมีชีวิตชีวา สดชื่นและกระปรี้กระเปร่าอีกด้วย

ด้านเชฟจุฑามาศ เทียนแท้ เอ็กเซคคิวทีฟเชฟ ผู้มากประสบการณ์และคร่ำหวอดกว่า 10 ปีในธุรกิจโรงแรมระดับพรีเมียมและห้องอาหารต่างๆ อันมีเอกลักษณ์ซึ่งรับรองโดยสมาคม Relais et Chateaux จากฝรั่งเศส ก็มาแนะนำการนำกีวีไปปรับใช้ทำเมนูอาหารต่างๆ อย่าง

เมนูเซสปรี®ซันโกลด์กีวีและกุ้งผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์แบบไทย ซึ่งเป็นเมนูที่ไม่หนักจนเกินไป อีกทั้งยังให้ความสดชื่น เปี่ยมด้วยวิตามิน และอร่อยกลมกล่อม หรือ แกงคั่วเซสปรี®ซันโกลด์กีวีกับกรรเชียงปู ที่ให้รสจัดละมุนลิ้น อร่อยเต็มๆ ด้วยเนื้อกรรเชียงปู และกลมกล่อมด้วยเซสปรี®ซันโกลด์กีวีและผลไม้เขตร้อน พร้อมกันนี้เชฟเก่งของร้าน Patio ก็ยังช่วยเนรมิตเมนูอร่อยๆ อีกมากมายที่สามารถนำกีวีมาปรุงรับประทานได้อย่างไม่จำเจ

ทั้งเมนูอหารไทยโบราณและร่วมสมัย อย่าง พล่ากุ้งเซสปรี®ซันโกลด์กีวีสด, เมี่ยงเซสปรี®ซันโกลด์กีวีกับซอสเซสปรี®ซันโกลด์กีวี, ม้าฮ่อเซสปรี®ซันโกลด์กีวี, ไก่ย่างตะไคร้และเซสปรี®ซันโกลด์กีวีเสิร์ฟคู่กับส้มตำเซสปรี®ซันโกลด์กีวีและข้าวอบเซสปรี®ซันโกลด์กีวี ไปจนถึงของหวานอย่าง กรานิต้าเซสปรี®ซันโกลด์กีวี และข้าวเหนียวมูนเซสปรี®ซันโกลด์กีวีสด และเมนูเครื่องดื่มแสนสดชื่นอย่าง เซสปรี® ซันโกลด์กีวี เวอร์จิ้น โมฮิโต้

Tips :: วิธีการเลือกซื้อกีวี ถ้าคุณอยากได้กีวีที่สุกพร้อมรับประทาณ ให้เลือกแบบเนื้อที่ค่อนข้างนิ่ม นั่นคือกำผลกีวีไว้ในมือและบีบเบาๆ ต้องสัมผัสได้ว่านิ่มๆ หยุ่นๆ ไม่ได้แข็งเกินไป และเมื่อยิ่งปล่อยให้ผลสุกขึ้นเรื่อยๆ รสชาติของเซสปรี®ซันโกลด์กีวีจะยิ่งหวานมากขึ้น เมื่อผ่าครึ่ง จะเห็นว่าเนื้อในมีสีเหลืองเข้มขึ้นอีกด้วย และเมล็ดตรงแกนกลางจะขยายวงใสมากขึ้น :: Text by FLASH