>>“สยามพารากอน วอชท์ เอ็กซ์โป 2014” (Siam Paragon Watch Expo 2014) งานแสดงนวัตกรรมนาฬิการะดับโลกครั้งยิ่งใหญ่แห่งปี พร้อมเผยโฉมประดิษฐกรรมเรือนเวลาชั้นเลิศและคอลเลกชันใหม่ล่าสุดจากแบรนด์นาฬิกาชั้นนำระดับโลกกว่า 180 แบรนด์ จำนวนกว่า 30,000 เรือน นำมาจัดแสดงภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘The Legacy of Timepieces’
สุดยอดปรากฏการณ์แห่งเรือนเวลาครั้งใหม่ เอาใจนักสะสมทั้งชาวไทยและต่างชาติ ด้วยการมอบส่วนลดสูงสุดกว่า 50%, พิเศษสำหรับสมาชิกบัตรเอ็ม การ์ด (M Card) และแพลทินัม เอ็ม การ์ด (Platinum M Card) รับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 10% อีกทั้งโปรแกรมผ่อน 0% นาน 10 เดือน พร้อมรับ Cash back/on top จากบัตรเครดิตชั้นนำสูงสุด 32% ตลอดจนข้อเสนอชั้นเลิศที่คุ้มค่าที่สุด และของรางวัลมากมาย รวมมูลค่ากว่า 18 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม-18 สิงหาคม นี้ ณ ฮอลล์ ออฟ เฟม, ฮอลล์ ออฟ มิเรอร์, วอชท์ บูติก และ Watch Galleria พารากอน ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ ชั้น M และแฟชั่น ฮอลล์, แฟชั่น แกลเลอรี, พื้นที่ฝั่ง Star Dome ชั้น 1 สยามพารากอน
สำหรับนักสะสมนาฬิกาเรือนหรู เซเลบออนไลน์มีเรือนเวลาราคาเบาๆ แค่หลักล้านเท่านั้นมาแนะนำถึง 8 เรือน เริ่มจาก
1.Corum รุ่น Admiral's Cup AC-One 45 Double Tourbillon ราคา 10,875,600 บาท
เดินด้วยระบบลาน ความถี่ 3 Hz, แรงสั่นสะเทือน 21,600 รอบต่อชั่วโมง การทำงาน ชั่วโมง, นาที, วันที่, ทูร์บิญองคู่ สำรองพลังงาน 72 ชั่วโมง หน้าปัดสีดำตัวเรือนสีทอง ประดับเพชรเหลี่ยมน้ำงาม 7 เม็ด น้ำหนัก 0.14 กะรัต มีรูปธงสัญญาณนาวีติดรอบริมขอบวงหน้าปัด ตัวเรือนประดับเพชรเหลี่ยม 48 เม็ด น้ำหนัก 2.84 กะรัต ตัวเรือนใช้วัสดุพิงก์โกลด์ บริเวณเม็ดมะยมมีการสลักประทับตรารูปกุญแจ สัญลักษณ์ของโฆรุ่ม ประดับคริสตัล แซฟไฟร์ กันน้ำได้ 300 เมตร สายหนังจระเข้สีดำ และหัวเข็มขัดรัดสายใช้วัสดุพิงก์โกลด์
2.Carl F. Bucherer : Alacria Swan ราคา 5,654,000 บาท
เครื่องประดับเรือนหรูบนข้อมือสุดยอดปรารถนาของสุภาพสตรีรุ่นอลาเครีย สวอน จากคาร์ล เอฟ บุคเคอเรอร์ ได้รับแรงบันดาลใจจากฝูงหงส์ที่แหวกว่ายอยู่กลางสายน้ำในทะเลสาบลูเซิร์น ของเมืองลูเซิร์น สถานที่พำนักของ Carl Friedrich และ Louis Bucherer ต้นตระกูลบุคเคอเรอร์ จัดทำขึ้นเพื่อยกย่องสรรเสริญถึงบรรพบุรุษผู้ซึ่งวางรากฐานการผลิตนาฬิกาไว้ ช่างฝีมือบรรจงเรียงรายเพชรน้ำงามไว้ที่ตัวเรือน สาย และหน้าปัด ด้วยจำนวนมากถึง 1,300 เม็ด ตัวเรือนทำจากวัสดุทองคำขาวล้ำค่า ประดับตกแต่งหรูหราด้วยขอบตัวเรือนประดับด้วยเพชรน้ำงามเกรด VVS 348 เม็ด บนพื้นหน้าปัดอีกจำนวน 137 เม็ด และบนยอดเม็ดมะยม 1 เม็ด รวมไปถึงบนสายนาฬิกาอีกจำนวน 844 เม็ด สะท้อนให้เห็นถึงมาตรฐานชั้นสูงในฝีมือเชิงประณีตศิลป์ของศิลปินผู้สร้างสรรค์เครื่องประดับอัญมณี ที่ตกทอดจากรุ่นสู่รุ่นมาอย่างยาวนานของแบรนด์คาร์ล เอฟ บุคเคอเรอร์ ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 88 เรือน
3.Bovet รุ่น DIMIER Recital 11 “Miss Alexandra” ราคา 3,790,000 บาท
มีการแสดงดิถีพระจันทร์ที่แม่นยำ และเข็มที่มีลักษณะเฉพาะ Tourbillon เข็มชั่วโมงและนาทีอยู่ตรงตำแหน่ง 6 นาฬิกา ประกอบกับโครงร่างของสองเข็มที่ดูแปลกตาได้กลายเป็นหัวใจให้กับเวลาทุกชั่วโมง และยืนเด่นเป็นสง่าตัดกับผิวของหน้าปัดมุกแท้ลายกิโยเช่ (Guilloch?) ที่ผ่านการทำมาอย่างประณีตจากฝีมือช่างแห่งโรงงาน หน้าปัด Dimier 1738 Dial Manufacture พลังงานสำรอง 72 ชั่วโมง หรือ 3 วัน โมเดล R?cital 11 มีให้เลือก 2 แบบคือ ทองคำแดง 18 กะรัต หรือทองคำขาว และแต่งเติมความหรูหรารอบขอบตัวเรือนที่สามารถเลือกหรูได้ในแบบประดับเพชรกลมหรือเหลี่ยมบาแกตต์
4.Breguet รุ่น Reine de Naples Charlestone Brecelet 8928 ราคา 2,600,000 บาท
แรงบันดาลใจจากนาฬิกาข้อมือเรือนแรกที่อับราฮัม หลุยส์ เบรเกต์ ออกแบบให้กับพระนางคาโรลีน มูราต์ ด้วยดีไซน์อันอ่อนช้อย เล่นเส้นสายอันงดงามคงความเป็นอมตะ ดังจะเห็นได้จากตัวเรือนรูปไข่ไวต์โกลด์ 18 กะรัต ขอบตัวเรือนและขอบหน้าปัดประดับเพชร 139 เม็ด (ประมาณ 1.32 กะรัต) เม็ดมะยมประดับเพชรบริโอเล็ต 1 เม็ด (ประมาณ 0.26 กะรัต) ฝาหลังแซฟไฟร์คริสตัล หน้าปัดเปลือกหอยมุก ทุกชิ้นมีหมายเลขประจำตัวกำกับและมีชื่อ Breguet หลักชั่วโมง เป็นเลขโรมัน เข็ม Breguet ปลายเปิดผลิตจากสตีลขัดเงา เครื่องแบบขึ้นลานอัตโนมัติ Calibre 586 กำลังลานสำรอง 38 ชั่วโมง อินไลน์สวิสลีเวอร์เอสเคปเมนต์ ซิลิคอนบาลานซ์สปริง ความถี่ 3 เฮิรตซ์ ปรับตั้งเพื่อความเที่ยงตรงใน 5 ตำแหน่ง สายนาฬิกาเป็นแบบสายโซ่สไตล์ชาเลสสโตน ทำมาจากไวต์โกลด์ 18 กะรัต ที่มาพร้อมชุดเครื่องประดับเพชรทั้งสร้อยคอ และต่างหู จาก S.T. Diamond
5.Corum รุ่น Heritage Artisans Feather ราคา 2,250,000 บาท
อัศจรรย์แห่งขนนกบนเรือนเวลา โดยการนำขนนกยูงมาตัดแต่งอย่างประณีตงดงามด้วยมือในทุกขั้นตอน และผสานงานช่างเชิงศิลป์ของการประดับเพชรน้ำงามเติมความหรูหราได้อย่างลงตัว เพชรน้ำงามแต่ละเม็ดเรียงร้อยไปตามแนวโค้งของแนวขนนกอย่างเป็นระเบียบ ตัวเรือนทองคำชมพูประดับเพชร 120 เม็ด น้ำหนัก 0.71 กะรัต กลไกอัตโนมัติ คาลิเบอร์ CO 082 แสดงเวลา ชั่วโมง นาที สำรองพลังงานได้ 42 ชั่วโมง กันน้ำได้ 50 เมตร ผลิตจำกัดจำนวน 25 เรือน และ 5 เรือนสำหรับประเทศไทย
6.DEMONACO รุ่น Quantieme Perpetual Eazy Adjust Limited Edition ราคา 2,070,000 บาท
นำเสนอความสลับซับซ้อนของการแสดงปฏิทินตลอดชีพ (Perpetual Calendar) ด้วยภาพลักษณ์ที่ให้อารมณ์แห่งความร่วมสมัยใหม่ โดยตั้งชื่อตาม โคล เดอ ทูรินี (Col de Turini) ถนนที่ตัดผ่านภูเขาสูงในเทือกเขาแอลป์ เหนือโมนาโก ที่กลายเป็นเส้นทางสุดหินชื่อดังของการแข่งขัน มอนติ-คาร์โล แรลลี (Monte-Carlo Rally) ซึ่งจัดขึ้นบนถนนสายแคบๆ ที่เต็มไปด้วยทางโค้งรูปตัวยู (U) มากมาย ภายใต้หน้าปัดกึ่งเปลือยใสสีดำ หรือหน้าปัดแซฟไฟร์เขม่าควัน หนา 0.3 มม. คุณจะสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนถึงองค์ประกอบของจักรกลที่พัฒนาขึ้นภายในโรงงานของเราเอง และปฏิทินตลอดชีพผ่านการจดสิทธิบัตร พร้อมด้วยระบบปรับตั้งอีสซี-แอตจัสต์ (EaZy-adjust system) ซึ่งทำให้แค่เพียงคุณหมุนมะยมไปหนึ่งครั้งก็สามารถเปลี่ยนฟังก์ชันระหว่างวันที่-วัน-สัปดาห์-เดือน และปี (อธิกสุรทิน) และเมื่อคุณพบโหมดการทำงานที่คุณต้องการเปลี่ยนแล้ว ก็เพียงกดเม็ดมะยม แล้วปรับตั้งได้อย่างง่ายดาย
7.Century รุ่น Leela Blossom ราคา 1,450,000 บาท
ผลงานนาฬิกาเรือนเด่นของ เซ็นจูรี่ ที่นำความงามของดอกไม้มาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบ ด้วยเทคนิคที่สืบทอดกันมายาวนาน ออกแบบตัวเรือนด้วยกลีบดอกไม้แซฟไฟร์ หรือพลอยเนื้อแข็งรองจากเพชร เจียระไน 48 เหลี่ยม ตัวเรือนประดับเพชรน้ำงามรอบกลีบดอกไม้ 78 เม็ด กลีบดอกไม้ชั้นในเป็นทองคำขาว 18K ประดับเพชร และรอบหน้าปัดประดับเพชรรวม 168 เม็ด ตัวเลขบอกเวลาประดับเพชรอีก 12 เม็ด ด้วยความประณีต พื้นหน้าปัดทำจากเปลือกหอยมุกมาพร้อมกับสายผ้าซาตินสีม่วง
8.Montblanc : Nicolas Rieussec Rising Hours ราคา 1,210,000 บาท
นิโคลัส ริอูซเซ็ค คือหนึ่งในนาฬิกาโครโนกราฟ คอลเลกชันดังของ มงต์บลองค์ สำหรับ ไรท์ซิ่ง ฮาว ได้เพิ่มฟังก์ชันของตัวแสดงค่าสถานะกลางวัน/กลางคืน ในช่องแสดงชั่วโมง ซึ่งการแสดงเวลาที่แปลกใหม่ไม่ธรรมดาเช่นนี้เกิดขึ้นได้ด้วยกลไก calibre MB R220 ที่คิดค้นขึ้นพร้อมอวดกลไกซับซ้อนโดยจดสิทธิบัตรเป็นที่เรียบร้อย กลไกนี้อาศัยจานดิสก์ 2 ชิ้น ซึ่งไม่เพียงแสดงเวลา 12 ชั่วโมง แต่ยังบอกได้ว่า 12 ชั่วโมงนั้นเป็นชั่วโมงในเวลากลางวันหรือกลางคืน และมีกลไกโครโนกราฟจับเวลา ความถี่ 28.800 ครั้งย่อยต่อชั่วโมง สะสมพลังงานสำรองไว้ได้ 72 ชั่วโมง หน้าปัด off-centre dial ลวดลาย Grain d’Orge ตัวเรือนขนาด 43 มิลลิเมตร วัสดุทอง 18K :: Text by FLASH
Comments are closed.