คอลัมน์ Sexociety โดย Dr.DEN
ยังมีเรื่อง การบริหารจัดการเรื่องทางเพศ ที่โหดพิลึกอีกครับ ตามไปดูกันเลยว่าประเทศไหนเค้ามีปัญหากิจกามด้านไหน และแก้ปัญหาด้วยวิธียังไง
เกลียดตุ๊ด
ปัจจุบันการแต่งงานระหว่างคนเพศเดียวกันกลายเป็นประเด็นร้อนไปทั่วโลก มี 15 ประเทศที่อนุญาตให้เรื่องนี้ถูกกฎหมาย และสหรัฐฯ ก็อยู่ในข่ายนี้เช่นกัน แต่ในประเทศแถบแคริบเบียน อย่าง จาไมก้า นั้น เกย์ เลสเบียน และพวกข้ามเพศไม่อาจฝันถึงการแต่งงานอย่างมีความสุขได้เลย แค่เอาชีวิตรอดไปวันๆ ก็บุญแล้ว
จาไมก้ามักถูกนักท่องเที่ยวคิดว่าเป็นสวรรค์เมืองร้อนที่น่านอนอาบแดดในรีสอร์ทชายหาด แต่ในความเป็นจริง มันคือประเทศที่กลายเป็นเมืองหลวงของโลกในเรื่องการฆาตกรรม ไล่ๆ มากับเวเนซุเอลาและเบลิซ
สำหรับพวกเกย์ สิ่งต่างๆ ยิ่งเลวร้ายมากกว่าอีก ถึงแม้ว่าการเป็นเกย์ในจาไมก้าไม่ผิดหลักกฎหมาย แต่เซ็กซ์ระหว่างผู้ชายด้วยกันจะถูกลงโทษจำคุก 10 ปี ไม่มีกฎหมายที่เอาผิดอาชญากรรมแห่งความเกลียดชัง ความรุนแรงที่กระทำต่อพวกรักร่วมเพศจึงแพร่ขยาย ตำรวจแทบจะไม่สืบสวนคดีทำร้ายร่างกายทำนองนี้ และไม่แม้แต่จะแสดงความกระตือรือร้นในการป้องปราม
ในปี 2004 ไบรอัน วิลเลียมสัน หัวหน้ากลุ่ม J-Flag (กลุ่มสิทธิเกย์จาไมก้า) ถูกพบเป็นศพถูกแทง ซึ่งเป็นหนึ่งในหลายสิบคดีที่เกย์ถูกฆ่าอย่างหฤโหดในจาไมก้าโดยเจ้าหน้าที่บ้านเมืองไม่เคยแยแส
บรรดาศิลปินเร็กเก้ยอดนิยมชาวจาไมก้า จึงรวมหัวกันแต่งเพลงที่ว่าด้วยความชั่วร้ายและความเกลียดชังไว้ในเนื้อเพลงของพวกเขา บูจู แบนตัน ศิลปินคนหนึ่งแต่งเพลงที่มีเนื้อหาผูกพันกับการจู่โจมทำร้ายในการกราดยิงเกย์หลายคนด้วยปืนกลมือ อูซี่ และราดพวกเขาด้วยน้ำกรด
จาไมก้า สวรรค์ของนักท่องเที่ยว… นรกของกะเทยพื้นเมือง
โรงแรมโรงรถ
ในอเมริกา สำหรับคนที่ชอบเที่ยวโสเภณี ย่อมคุ้นเคยกับการใช้รถของตัวเองเป็นรังรักอยู่แล้ว คุณขับรถไปตามย่านอันพลุกพล่านในตัวเมือง หิ้วผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งแต่งหน้าจัดจ้าน สวมกางเกงยืดรัดรูป แล้วคุณก็ขับเข้าไปประกอบกามกิจในซอยมืดๆ ที่ใกล้ที่สุด
แน่ละ คุณไม่รู้ตัวหรอกว่ากิจกามแบบนั้นมันอันตรายแค่ไหน เพราะโสเภณีคือ เป้าหมายอันโปรดปรานของฆาตกรต่อเนื่อง
แกรี่ ริดจ์เวย์ หรือที่รู้จักกันดีในนาม “นักฆ่าแห่งแม่น้ำกรีน” มีชื่อกระฉ่อนว่าชอบฆ่าผู้หญิงกลางคืนเป็นพิเศษ และเขาอาจสังหารเหยื่อไปแล้วกว่า 100 คน
โรงแรมโรงรถถูกตั้งขึ้นเป็นครั้งแรกที่เนเธอร์แลนด์ ในกลางทศวรรษที่ 1980 แพร่ขยายไปสู่เยอรมนีในปี 2001 และในปี 2013 ก็ถูกเปิดอีกแห่งหนึ่งในซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
สถานที่ดังกล่าวนี้มีรูปร่างเหมือนแถวโรงรถเปิด ซึ่งลูกค้าสามารถขับรถเข้าไปจอดในซองอันค่อนข้างลับตาได้ โรงแรมโรงรถของซูริคนี้ทำหน้าที่รับใช้หลายจุดประสงค์ มันถูกสร้างขึ้นในย่านอุตสาหกรรมแห่งหนึ่ง เพื่อย้ายทำเลหากินของเหล่าโสเภณีออกมาให้ห่างจากศูนย์กลางของเมือง
ที่สำคัญกว่านั้นก็คือ มันช่วยให้มีความแน่ใจในความปลอดภัยและความเป็นอยู่ที่ดีของสาวๆ เหล่านั้น มียาม รปภ. ทำหน้าที่ตลอดเวลา และมีปุ่มกดเตือนภัยติดไว้ในแต่ละซอง ในกรณีที่มีเหตุฉุกเฉิน มีนายแพทย์ประจำการคนหนึ่งและนักสังคมสงเคราะห์อีกคนทำหน้าที่ส่งเสริมสุขภาพของร่างกายและจิตใจ
โรงรถเซ็กซ์ดังกล่าวนี้เป็นแนวคิดก้าวหน้าอย่างสุดๆ น่าจะอธิบายถึงความเข้าใจในเรื่องเซ็กซ์ของมนุษย์ได้อย่างดีที่สุด ในเมื่อการค้าประเวณีเป็นสิ่งที่ต้องอยู่คู่กับสังคมมนุษย์ ผู้มีหน้าที่ปกครองสังคมจึงควรยอมรับความเป็นจริงและพิจารณาหาทางทำให้มันได้รับการปฏิบัติอย่างปลอดภัยและอยู่ในที่ทางอันควร
ไม่ใช่ “ปากว่าตาเขยิบ” อย่างบางประเทศที่ประกาศต่อต้านการค้าประเวณีอย่างแข็งขัน ทั้งๆ ที่ชาวโลกรู้ดีว่าประเทศนั้นเป็นเมืองหลวงของกะหรี่
บ้านพักพิงแม็กดาลีน
การป้องกันการประพฤติผิดศีลธรรมของผู้หญิงเคยเกิดขึ้นในรูปแบบแปลกๆ หลายอย่าง แต่ที่มีการลงโทษอย่างรุนแรงกว่ารูปแบบอื่นๆ ก็คือ บ้านพักพิงแม็กดาลีน นี่เอง
สถานที่ดังกล่าวเหล่านี้มีผู้พักอาศัยส่วนใหญ่เป็นโสเภณี มันถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อป้องกันมิให้ผู้หญิงต้องพลีกายอย่างสำส่อน ในขณะที่ผู้พักอาศัยบางคนเป็นโสเภณี แต่หลายคนเป็นเด็กสาวธรรมดาทั่วไป บางคนมีอายุแค่ 12 ปี ซึ่งพ่อแม่นำมาฝากให้ดูแลเพื่อป้องกันมิให้ลูกสาวของตัวเองประพฤติผิดศีลธรรมอันดีงาม
บ้านพักพิงแม็กดาลีนที่รู้จักกันดีที่สุดนั้นอยู่ในไอร์แลนด์ ที่นั่นพวกผู้หญิงในบ้านคือ “ทาส” ด้วยความจงใจ หน้าที่โดยทั่วไปของพวกเธอก็คือ คนซักผ้า อันเป็นสัญลักษณ์ของการล้างบาปอย่างที่ แมรี แม็กดาลีน ยอมสละวิถีชีวิตอันผิดศีลธรรม (โสเภณี) มาเป็นสาวกของพระเยซู
ผู้หญิงของบ้านแม็กดาลีนถูกบังคับให้ใช้ชีวิตไร้กามารมณ์ ผมของพวกเธอถูกโกน และเต้านมของพวกเธอถูกรัด โดนทรมานร่างกายทุกรูปแบบ รวมทั้งการเฆี่ยนตีซึ่งเป็นเรื่องปกติ
ในขณะที่บ้านพักพิงแม็กดาลีนส่วนใหญ่ในโลกปิดตัวลงนานแล้ว แต่หลังสุดท้ายในไอร์แลนด์เพิ่งปิดลงเมื่อปี 1996 นี้เอง ไซนีด โอคอนเนอร์ นักร้องชื่อดังชาวไอริชก็เคยอาศัยอยู่ในบ้านนี้ตอนเป็นวันรุ่น
ในปี 2013 รัฐบาลไอร์แลนด์ออกหนังสือขอโทษอย่างเป็นทางการต่อบรรดาผู้หญิงที่ทำหน้าที่รับใช้เป็นคนซักผ้าเหล่านั้น และยังพิจารณาเสนอการชดเชยบางอย่างให้แก่พวกเธอด้วย
หนังโป๊และของเล่นเซ็กซ์
ในฐานะแหล่งกำเนิดของกามสูตร ตำรับรักโบราณที่มีรายละเอียดของท่าร่วมเพศแบบกายกรรมนั้น คุณอาจทึกทักเอาว่าอินเดียน่าจะมีทัศนคติที่ค่อนข้างเสรีต่อเรื่องเซ็กซ์ แต่ขอโทษที ความคิดเช่นนั้นมันห่างไกลจากความเป็นจริงมาก
จริงๆ แล้ว การขายวัสดุทางเพศหรือของเล่นเซ็กซ์ถูกรัฐบาลอินเดียพิจารณาว่าเป็น “สิ่งลามก” และภายใต้มาตรา 292 ของประมวลกฎหมายอาญา การจำหน่ายจ่ายแจกสิ่งของเหล่านี้มีโทษจำคุกถึง 2 ปีสำหรับการกระทำผิดครั้งแรก หากมีการกระทำผิดครั้งต่อไปก็อาจต้องไปนอนเกาสะดือในคุกถึง 5 ปีได้
แม้ว่าการขายสิ่งลามกจะเป็นอาชญากรรมในอินเดีย และกฎหมายมองว่ามันเคยเป็นความมืดมนทางประวัติศาสตร์ แต่เมื่อเร็วๆ นี้หนังโป๊ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงในอินเดีย ตามสถิติของกูเกิ้ล ปรากฏว่าการค้นหาคำว่า “PORN” (โป๊) เพิ่มขึ้นถึง 5 เท่าของเมื่อ 10 ปีก่อน
อย่างไรก็ตาม อัตราความรุนแรงทางเพศในอินเดียเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนอกเหนือการควบคุม กลายเป็นหัวข่าวใหญ่ไปทั่วโลก และมีการสั่งแบนหนังโป๊ไปพร้อมๆ กัน
ถ้าจะว่าไป กามสูตรในอินเดียโบราณมันมีไว้สำหรับชนชั้นสูงที่มีเวลาฟุ้งเฟ้ออย่างมากมาย จนต้องหาสิ่งพิสดารแปลกใหม่มาบำรุงบำเรอกามารมณ์ของตัวเองให้มากขึ้นไปเรื่อยๆ
ชนชั้นศูทรหรือจัณฑาลนั้นลำพังแค่เอาชีวิตให้รอดไปวันๆ ก็ยากนักหนาแล้ว คงไม่มีเวลาและเรี่ยวแรงมาเล่นซุกซนด้วยท่าอัศจรรย์ของกามสูตรหรอก
* ช่วยคลิก Like ด้วยนะคะ เพื่อเป็นแฟนเพจ Lady Manager รับข่าวสารแซ่บๆ ของผู้หญิงในแวดวงสุขภาพความงาม แฟชั่น และความสัมพันธ์ (**)
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
Comments are closed.