ปราดแรกที่ผู้เขียนได้เหลือบเห็นเมนูของร้านอย่างเก่าก่อน ทำเอาน้ำตาจิไหลเลย นี่มันเมนูที่แม่ทำให้กินตอนเด็ก ๆ ทั้งนั้นเลยนี่ โอ้โห! เมนูเก่าแบบบ้าน ๆ อย่างนี้แทบจะหายไปกับกระแสอาหารต่างชาติที่บุกเข้ามาเบียดเบียนพื้นที่บนโต๊ะอาหารหมดแล้ว ใครอยากไปย้อนรำลึกถึงเมนูเก่า ๆ ที่หาทานได้ยาก รีบตรงดิ่งไปที่ร้านอย่างเก่าก่อนด่วนจ้า
เอ็ด ภิรมย์ เจ้าของร้านเป็นผู้ที่หลงใหลในอาหารไทยอย่างมาก พยายามเก็บเล็กผสมน้อยสูตรอาหารไทยจากที่ต่าง ๆ มาหลายสิบปี ประกอบกับเป็นคนชอบค้นคว้าตำรับตำราอาหารไทยด้วย เมื่อมีโอกาสจึงตัดสินใจเปิดร้านชื่ออย่างเก่าก่อนขึ้นมา เพื่อเผยแพร่อาหารไทยโบราณสูตรบ้าน ๆ และพยายามสอนให้คนไทยกินข้าวแบบสำรับคือมีข่าวสวยร้อน ๆ ที่กินกับ “กับข้าว” และที่ขาดไม่ได้คือ “เครื่องเคียง” ที่มาเป็นตัวช่วยทำให้รสชาติอาหารครบรสกลมกล่อมเพิ่มความอร่อยมากขึ้น
ร้านนี้ค่อนข้างหายากหน่อย เพราะซ่อนตัวอยู่ในซอยพหลโยธิน 8 หรือเดิมเรียกซอยสายลม ขับเข้าซอยไปประมาณ 800 เมตร หาสนามกีฬาฟุตซอลชื่อ FRANK ให้เจอ ร้านอย่างเก่าก่อนจะตั้งอยู่ชั้นบนของสนามกีฬาแห่งนี้
เอ็ดและลูกชายชื่อเผือกอัธยาศัยดี ยิ้มแย้มต้อนรับแขกที่มาเยือนถึงเรือนชานอย่างเป็นกันเอง ร้านตกแต่งแบบบ้านสมัยโบราณ ใช้เครื่องเรือนเก่า ๆ ทั้งโต๊ะ ตู้ รวมไปถึงภาพถ่ายที่แขวนอยู่ตามฝาผนังเป็นภาพเก่าที่บอกเรื่องราวย้อนอดีตของครอบครัวนี้
มาดูอาหารกันบ้าง จานแรกที่ใครเห็นก็ต้องสั่งมาลิ้มลองด่วนเลยคือ “ กากหมูโรยเกลือ” ( 70 บาท ) เนื่องจากร้านนี้ต้องเจียวน้ำมันหมูสดใหม่ทุกวัน จึงได้กากหมูใหม่ ๆหอมกรอบ นำมาคั่วกับเกลือโรยต้นหอมลงไปด้วย แค่นี้ก็ได้มา 1 เมนูที่หอมกรอบ ยิ่งเคี้ยวยิ่งมันจริง ๆ อร่อยเคี้ยวเพลินจนลืมคำว่าอ้วนไปเลย
ตับบด+ข้าวตังทอด ( 160 บาท) จานนี้เป็นลูกผสม เพราะใช้ตับไก่บดปรุงรสด้วยเครื่องเทศแบบฝรั่งกินตอนเช้า แต่แทนที่จะนำมาทาขนมปังอบกรอบ ก็นำมาทาบนข้าวตังทอดเป็นแบบไทย ๆ ดี รสชาติตัวบดหอมมันส่วนข้าวตังใหม่กรอบ ยิ่งเคี้ยวยิ่งหอม เป็นคู่สร้างวคู่อร่อยจริง ๆ
ไข่พะโล้ สูตรคุณย่า (ใบละ60 บาท) ร้านอาหารถ้าอยากจะทดสอบว่าเจ๋งไม่เจ๋ง ต้องสั่งไข่พะโล้มาลิ้มลองก่อนเลย ถ้าอร่อยก็ถือว่าสอบผ่าน ไข่พะโล้ถ้วยนี้ไข่แข็งปั๋ง นำพะโล้หวานนำมีกลิ่นรากผักชีกระเทียมพริกไทยเพิ่มความหอมลงไป
ข้อแตกต่างระหว่างพระโล้ไทยกับจีนคือ พะโล้ไทยจะใช้รากผักชี กระเทียม พริกไทย เจียวกับน้ำมันจนหอมแล้วใส่น้ำตาลปี๊บลงไปเคี่ยวให้น้ำเหนียว ปรุงรสชาติให้หวานนำ ใส่ไข่ต้มปอกเปลือกและหมูลงไปต้มข้ามคืน จนไข่และหมูแข็งอร่อย ส่วนพะโล้แบบจีนนั้นจะโป้ยกัก อบเชยและผงพะโล้ให้หอม
แกงคั่วเห็ดเผาะ จานนี้เป็นอาหารฤดูกาลเพราะเห็ดเผาะมีเฉพาะหน้าฝนเท่านั้น หน้าอื่น ๆ ก็หาทานไม่ได้ ตอนนี้เลยเป็นโอกาสดีที่จะลิ้มลองเพียงปีละครั้งเท่านั้น พริกแกงคั่วสูตรนี้นำมาจากลำปาง ซึ่งพริกแกงต้องตำด้วยครกจนแหลก ปรุงรสชาติหอมละมุน ก่อนเสิร์ฟต้องรูดใบชะอมสดลงไปเพิ่มความฉุนด้วยถึงจะสะใจ หรือถ้าไม่ชอบแกงคั่วก็ต้องกินแกะเปรอะเห็ดเผาะรสแซบถึงใจดี
อาหารไทยที่ขาดไม่ได้คือ “น้ำพริก” มีทั้งน้ำพริกกะปิ (140 บาท) กะปิคั่ว ( 150บาท) หลนแหนมหม้อ (160 บาท) น้ำพริกไข่ปูและน้ำพริกกุ้งสด ฟังดูแล้วน่าทานทุกเมนู แล้ววยังมีเครื่องเคียงที่ต้องสั่งมากินคู่กัน อาทิ ไข่เจียว ปลาทูทอด ปลาสลิดฟู ปลาดุกฟู และกุ้งชุบแป้งทอด เป็นต้น
อาหารเมนูแปลกสมกับชื่อร้านอย่างเก่าก่อนยังมีอีกหลายจานที่รอลูกค้ามาลิ้มลอง อาทิ แกงคั่วสับปะรดไข่แมงดา แกงเผ็ดเนื้อสูตรโบราณ ต้มยำปลาทูใส่ใบสะระแหน่ ยำเนื้อกะทิสมุนไพร หลนแหนมหม้อ ปลาหมึกผัดพริกเหลือง เป็นต้น
ร้านอย่างเก่าก่อนเตั้งอยู่ที่ ซอยศุภราช 1 ซอยพหลโยธิน 8 เขตพญาไท กรุงเทพฯ โทร.081-930-5260 เปิดบริการทุกวัน( เว้นวันอังคาร) เวลา 11.30-21.00 น.
ชิมโดย : ปาณี ชีวาภาคย์
Comments are closed.