บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้านความงามและผู้บุกเบิกด้าน Beauty Tech ของประเทศไทย มุ่งสนับสนุนภาคส่วนต่างๆ ในประเทศไทย ด้วยโครงการ L’Oréal Thailand COVID-19 Solidarity โดยมีเป้าหมายในการให้ความช่วยเหลือหลายภาคส่วนในประเทศไทยให้ก้าวผ่านวิกฤตโควิด-19 ได้อย่างปลอดภัย ได้แก่
กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์
มอบชุดผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและดูแลเส้นผมให้แก่บุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขด่านหน้าจำนวน 130,000 คน ในโรงพยาบาล 28 แห่งทั่วประเทศ เพื่อแทนคำขอบคุณในความทุ่มเทและเสียสละในการช่วยเหลือประเทศชาติช่วงสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 ทั้งหมดรวมมูลค่ากว่า 150 ล้านบาท แบ่งเป็น โรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข 24 แห่งทั่วประเทศ รวม 90,000 ชุด โดยได้ส่งมอบชุดผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและดูแลเส้นผมรวมกว่า 970,000 ชิ้น มูลค่ารวม 115 ล้านบาท ให้แก่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และได้ส่งมอบให้โรงพยาบาลนอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุขอีก 4 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ รวมอีก 40,000 ชุด
กลุ่มงานวิจัย
มอบทุนพิเศษโครงการลอรีอัล ประเทศไทย เพื่อสตรีในงานวิทยาศาสตร์ เพื่องานวิจัยโควิด-19 จำนวน 1 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นทุนให้แก่นักวิจัยสตรีที่ดำเนินงานวิจัยเกี่ยวกับโควิด-19 ในสาขาวิทยาศาสตร์กายภาพ สาขาวัสดุศาสตร์ หรือสาขาเทคโนโลยี จำนวน 5 ทุน ทุนละ 200,000 บาท เพื่อเป็นกำลังใจในการค้นคว้างานวิจัยที่เป็นประโยชน์ในการยับยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
กลุ่มร้านเสริมสวย
โครงการสนับสนุนเคียงข้างร้านเสริมสวย Salon Solidarity จัดทำเพื่อช่วยเหลือร้านตัดผม-เสริมสวย ทั้งร้านคู่ค้าและร้านเสริมสวยอื่นทั่วประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการห้ามเปิดกิจการ ด้วยการแนะแนวทางช่วยเหลือและให้ความรู้ด้านต่างๆ เพื่อเร่งปรับตัวและฟื้นธุรกิจหลังได้รับอนุญาตให้เปิดบริการได้
กลุ่มผู้ขาดโอกาสทางสังคม
มอบผลิตภัณฑ์ในเครือของลอรีอัล ประเทศไทย ให้แก่บุคคลที่ขาดโอกาสทางสังคมกว่า 100,000 คน ในช่วงครึ่งปีหลัง เพื่อให้ความช่วยเหลือกลุ่มบุคคลผู้ด้อยโอกาสให้สามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์สำหรับทำความสะอาดและดูแลผิวและเส้นผมเพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน
นอกจากนี้ ในระดับโลก ลอรีอัล กรุ๊ปก็ได้จัดทำโครงการ L’Oréal for the Future เพื่อช่วยเหลือผู้หญิงที่ได้รับผลกระทบทางสังคมและเศรษฐกิจ ผ่านการสนับสนุนเงินทุนจำนวนกว่า 50 ล้านยูโรให้แก่องค์กรไม่แสวงผลกำไรและพันธมิตรที่เกี่ยวข้อง ควบคู่ไปกับการให้ทุนเพื่อพัฒนาโครงการที่มุ่งปฏิรูประบบนิเวศสิ่งแวดล้อมที่ถูกทำลายและป้องกันการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศด้วยเงินทุน 100 ล้านยูโรอีกด้วย
นางอินเนส คาลไดรา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ลอรีอัล ในฐานะบริษัทความงามที่ให้ความสำคัญด้านการสนับสนุนชุมชนและความยั่งยืน เรามุ่งเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมปันน้ำใจ เพื่อมอบความช่วยเหลือให้แก่สังคมและภาคส่วนต่างๆ อย่างเต็มที่ให้สามารถก้าวผ่านสถานการณ์โควิด-19 นี้ไปได้ เราจึงดำเนินโครงการ L’Oréal Thailand COVID-19 Solidarity ขึ้น เพื่อปันน้ำใจช่วยเหลือในหลากหลายภาคส่วน ทั้งเพื่อให้การสนับสนุนและแสดงความขอบคุณในการอุทิศตนช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนในสถานการณ์ที่ผ่านมา”
ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบันเป็นช่วงเวลาที่ท้าทายสำหรับทุกภาคธุรกิจ แต่การล็อกดาวน์ไม่ได้ส่งผลให้ลอรีอัลดำเนินธุรกิจช้าลง แต่เร่งปรับตัวให้ทันต่อสถานการณ์ เพราะการดูแลตัวเองด้วยผลิตภัณฑ์เพื่อความงามและการดำเนินชีวิตประจำวันยังคงเป็นสองสิ่งจำเป็นที่มาคู่กันเสมอ ลอรีอัล ประเทศไทย ได้นำเสนอเทคโนโลยีด้านดิจิทัล ส่งมอบประสบการณ์ด้านความงามที่ทันสมัย พร้อมกับนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ให้แก่ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทฯ ยังคงครองตำแหน่งผู้นำด้านผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้า และก้าวสู่ตำแหน่งผู้นำด้านผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางในประเทศไทย
Comments are closed.