สยามเจมส์ เฮอริเทจ พิพิธภัณฑ์อัญมณีสุดทันสมัยแห่งแรกในไทย

>>“สยามเจมส์ เฮอริเทจ” พิพิธภัณฑ์เพื่อการเรียนรู้อัญมณีและเครื่องประดับอัญมณี ที่ใช้เทคโนโลยีโดมภาพยนตร์ที่ทันสมัยที่สุดแห่งแรกในประเทศไทย เพื่อสืบสานคุณค่า อนุรักษ์ และส่งเสริมมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าของประเทศไทยที่สืบทอดกันมายาวนานของช่างฝีมือไทยจากรุ่นสู่รุ่น ที่ถนนประดิษฐ์มนูธรรม

งานหัตถศิลป์อัญมณีของไทย ถือว่าเป็นศิลปะชั้นสูงและเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ทรงคุณค่า ด้วยฝืมือของช่างไทยที่สร้างสรรค์งานเจียระไนอัญมณีได้อย่างประณีตงดงาม รวมถึงงานออกแบบที่วิจิตรบรรจงและมีเอกลักษณ์ ส่งผลให้งานศิลป์อัญมณีและเครื่องประดับไทยเป็นที่ยอมรับในระดับสากลมาช้านาน

ดังนั้นเพื่อเป็นการอนุรักษ์ สืบสาน และส่งเสริมให้มรดกทางวัฒนธรรมนี้คงอยู่ เพื่อดำรงไว้ซึ่งศิลปะอันล้ำค่าสู่รุ่นลูก รุ่นหลาน ให้ได้เรียนรู้และภาคภูมิใจในเอกลักษณ์ความเป็นไทย บริษัท เอส จี เซ็นเตอร์ จำกัด จึงได้สร้างสรรค์ “สยามเจมส์ เฮอริเทจ” พิพิธภัณฑ์เพื่อการเรียนรู้อัญมณีและเครื่องประดับไทยแห่งนี้ขึ้น

โดย “สยามเจมส์ เฮอริเทจ” ตั้งอยู่บนถนนประดิษฐ์มนูธรรม มีพื้นที่ทั้งหมด 22,000 ตารางเมตร เป็นอาคารรูปทรงทันสมัยขนาด 3 ชั้น เริ่มต้นที่บริเวณโถงต้อนรับขนาดใหญ่ที่มีงานประติมากรรมช้างทองคำประดับอัญมณีอย่างวิจิตรบรรจง ก่อนจะพาผู้เข้าชมเข้าสู่พื้นที่จัดแสดงนิทรรศการในโซนต่างๆ ดังนี้

SIAMGEMS Sphere (สยามเจมส์ เสฟียร์) เปิดประสบการณ์ Super Full Dome ที่ผสมผสานการถ่ายทำจริงกับเทคนิคภาพพิเศษเพื่อสร้างสรรค์เรื่องราวแห่งอัญมณีไทยสุดอลังการ ให้ผู้ชมได้ร่วมเดินทางผ่านขอบเขตของธรรมชาติและกาลเวลา ใน Cinema Dome ขนาดยักษ์ ที่จะนำผู้ชมดำดิ่งสู่โลกเสมือนจริงกับภาพยนตร์แบบ 360 องศา เพื่อสัมผัสความงดงามอันประณีตวิจิตรบรรจงของการรังสรรค์อัญมณีไทยอันน่าภาคภูมิ

และสามารถเดินชมโซนพิพิธภัณฑ์ซึ่งมีอยู่ทั้งหมด 5 ห้อง ได้แก่




ห้องมณีนิรันดร์ จัดแสดงประวัติศาสตร์แห่งอัญมณีโลก มีเครื่องประดับยุคโบราณสมัยก่อนประวัติศาสตร์ ที่มีการขุดพบในประเทศไทยเปรียบเทียบกับเครื่องประดับที่ค้นพบในต่างประเทศ ตั้งแต่สมัยยุคลูกปัดหินสีซึ่งถือเป็นเครื่องประดับชิ้นแรกของมวลมนุษยชาติ ต่อเนื่องมายุคสำริด ยุคทองคำ ยุครัตนชาติ และยุควิจิตรบรรจง ซึ่งเป็นยุคที่มนุษย์เริ่มคิดค้นวิธีการผลิตเครื่องประดับในหลากหลายรูปแบบและยังมีกรรมวิธีต่างๆ ที่นำมาช่วยเสริมความงดงามให้แก่เครื่องประดับยิ่งขึ้น


ห้องมณีประกาย เผยความวิจิตรบรรจงแห่งการเจียระไนพลอย ซึ่งเป็นงานศิลปะชั้นสูง พบกับศิลปะแห่งการเจียระไนอัญมณีจากก้อนพลอย จากเดิมที่ดูคล้ายกับหินสีธรรมดาๆ หากแต่เมื่อผ่านการรังสรรค์อย่างละเมียดละไม จากฝีมือช่างเจียระไนชาวไทย อันมากด้วยประสบการณ์ และความพิถีพิถัน ใส่ใจในทุกรายละเอียด ก่อให้เกิดประกายระยิบระยับ ควรค่าแก่การครอบครอง



ห้องมณีมงคล สร้างความตื่นตาตื่นใจไปกับอัญมณี 9 ชนิด ซึ่งชาวไทยนิยมให้ความสำคัญ เกี่ยวเนื่องความเชื่อของคนไทยกับพลังแห่งอัญมณี ซึ่งเป็นของมีค่าและเป็นสิริมงคล เสริมสร้างบารมีให้กับผู้ที่ครอบครอง ดังนั้นสถาบันพระมหากษัตริย์ จึงใช้เป็นสิ่งของพระราชทานให้เป็นบำเหน็จรางวัลแก่ขุนนางข้าราชการที่ทำคุณประโยชน์ต่อแผ่นดิน นอกจากนี้ยังใช้ประดับประกอบพระราชพิธีสำคัญต่าง ๆ ดังปรากฏอยู่ในหลักฐานทางประวัติศาสตร์ได้แก่ บันทึกจดหมายเหตุ พระราชนิพนธ์ หรือแม้แต่ในวรรณกรรมและวรรณคดี ซึ่งสุดยอดอัญมณีไทยเรียกว่า นพรัตน์


ห้องปัทมราณี เผยสัมผัสเรื่องราวความมหัศจรรย์แห่งการรังสรรค์ผลงานด้วยความเชี่ยวชาญ และใส่ใจในทุกรายละเอียดกับเครื่องประดับชิ้นเอกที่ผนวกรวมงานศิลป์ชั้นสูงของไทยไว้ในชิ้นเดียวกับ “Tiara of the Lady หรือ มงกุฎแห่งสตรีผู้สูงศักดิ์” เทียร่าทับทิมสยามล้อมเพชร สง่างามและสะกดทุกสายตาด้วยทับทิมสยามสีแดงฉานเม็ดเอกขนาด 21.09 กะรัต สมบัติอันล้ำค่าคู่แผ่นดินไทย


ห้องมณีวิทยา จัดนิทรรศการพิเศษ ที่เปิดให้นักเรียน นักศึกษาได้ค้นคว้าหาความรู้ในเชิงลึก เกี่ยวกับอัญมณีวิทยา ซึ่งทางสยามเจมส์ เฮอริเทจ ได้รวบรวมข้อมูลต่างๆ ตั้งแต่ขั้นตอนการผลิตเครื่องประดับเริ่มต้นจากการออกแบบ การเจียระไน การขึ้นรูปตัวเรือน และการฝังอัญมณี ค่อยๆ คิด ค่อยๆ ทำ จากก้อนหินสู่งานศิลป์ชั้นสูง พร้อมสำหรับการศึกษาวิจัยสำหรับผู้ที่สนใจ

โดยทุกคนสามารถแวะเวียนเข้าชม สยามเจมส์ เฮอริเทจ ได้ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์นี้เป็นต้นไป ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.siamgemsheritage.com หรือโทรศัพท์ 0-2949-9500