Travel

แนะนำ 5 เมืองน่าเที่ยว สัมผัสเสน่ห์แปลกใหม่ที่รอคุณไปสัมผัส

Pinterest LinkedIn Tumblr

>>จุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวอย่าง ปารีส ลอนดอน เซี่ยงไฮ้ ฯลฯ สำหรับบางคนอาจจะเป็นเมืองที่เปรียบได้กับเดสติเนชั่นในฝัน ที่อยากไปเยี่ยมเยือนสักครั้ง แต่กับเหล่านักเดินทางมืออาชีพ เมืองเหล่านี้บางคราวก็เป็นของซ้ำซากน่าเบื่อ วันนี้เราจะมาแนะนำให้คุณได้ลองบุกเบิกเส้นทางใหม่ๆ ที่แม้จะไม่ได้เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม แต่ก็มีอะไรรอให้คุณไปเที่ยวชมมากมายไม่น้อยหน้าเมืองใหญ่ๆ

โดยเว็บไซต์กูรูด้านที่พักอย่าง Booking.com ได้รวบรวมลักษณะเด่นของแต่ละเมืองที่ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนักเหล่านี้มาให้ดูกัน

ควิเบคซิตี
เมืองเล็กๆ ในแคนาดาที่ให้อารมณ์ความเป็นปารีสในทุกอณู

วิวทิวทัศน์: แม้ควิเบคจะมีขนาดเล็ก แต่ก็เป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องทิวทัศน์ที่สวยงามและหลากหลาย ย่านเมืองเก่าซึ่งมีถนนโรยด้วยกรวดหินพาดผ่านบ้านสมัยศตวรรษที่ 17 และ 18 โบสถ์ จัตุรัส และโรงแรม ชาโต ฟรงเทอนัค (Chateau Frontenac) แสนสวย ทั้งหมดนี้อยู่ในพื้นที่มรดกโลกของ UNESCO และเป็นสถานที่น่าสนใจที่คุณไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง

วัฒนธรรม: เมืองนี้แบ่งได้เป็น 2 ส่วนหลัก คือ ส่วนเมืองเก่า (Old Town) และเมืองเก่าตอนล่าง (Old Lower Town) แต่ก็ยังมีสิ่งที่น่าสนใจรอผู้เดินทางไปสำรวจอยู่นอกประตูเมืองเก่าแก่ ลองออกเดินทางไปยังประตูเซนต์หลุยส์ (Port St-Louis) และประตูเซนต์จีน (Porte St-Jean) จากนั้นลิ้มลองอาหารในร้านอาหารชั้นเลิศ สัมผัสประสบการณ์การชอปปิ้ง และท่องราตรี ลองจินตนาการถึงร้านขายของเก่า ร้านอาหารในบรรยากาศสุดชิล และโรงละครระดับโลก รวมถึงบรรดาเทศกาลกลางแจ้งที่มีชื่อเสียงของควิเบค ที่จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองให้กับดนตรี ประวัติศาสตร์ในฤดูหนาวดูสิ

สถานที่น่าสนใจ: เข้าร่วมทริปล่องเรือซึ่งจะพาคุณล่องไปตามแม่น้ำเซนต์ลอว์เรนซ์ (Saint Lawrence River) เพื่อชมความสวยงามของเมือง หรือเดินเล่นในละแวกชาโต ฟรงเทอนัค (Chateau Frontenac) เพื่อสำรวจสิ่งที่ยังหลงเหลืออยู่จากสนามรบ และเรียนรู้ประวัติศาสตร์ด้านการทหารของควิเบค

อาหาร: อาหารในควิเบคนั้นแปลกใหม่และมีประวัติความเป็นมายาวนาน ที่นี่มีชื่อเสียงในเรื่องกาแฟรสเลิศ พายเนื้อ และชีสจากนมสด นอกจากนี้คุณยังสามารถลิ้มลองอาหารที่ตลาดท้องถิ่น อย่าลืมไปโรงแรมชาโต ฟรงเทอนัค เพื่อจิบชายามบ่ายและชิม “ปูติน” หรือเมนูอาหารท้องถิ่นที่ทำจากมันฝรั่งทอดราดน้ำเกรวี่ และชีสกองโต

การท่องราตรี: ในยามค่ำคืน ก็มีประสบการณ์ไนต์ไลฟ์ให้คุณสัมผัสมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแกลเลอรีศิลปะ โรงผลิตเบียร์ขนาดเล็ก คาราโอเกะ หรือแม้แต่บาร์ซึ่งตกแต่งด้วยเก้าอี้ยาวสไตล์โบสถ์ ย่านหลักที่คุณควรไปเยือนคือ แกรนด์ อัลเลย์ (Grande-Allee) ซึ่งเป็นที่ตั้งของบรรดาร้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารรสเยี่ยม บาร์ และคลับที่ตั้งอยู่ในคฤหาสน์สไตล์วิกตอเรียน

รู้หรือไม่?: มอร์ริน เซ็นเตอร์ (Morrin Centre) อาคารสง่างามซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นคุก แต่ในปัจจุบันกลายมาเป็นห้องสมุดภาษาอังกฤษเพียงแห่งเดียวในควิเบค การไปเยือนที่นี่เพื่อชมชั้นหนังสือที่เรียงราย และระเบียงที่นักโทษเคยถูกแขวนคอเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่าทีเดียว

ซีแอตเทิล
เมืองผู้ดีของอเมริกาที่ให้บรรยากาศใกล้เคียงกับลอนดอน

วิวทิวทัศน์: การนอนแผ่บนชายฝั่งพิวเจ็ตซาวน์ โดยมีภูเขาเรเนียร์ตั้งตระหง่านเป็นฉากหลัง ทิวทัศน์เมืองของซีแอตเทิลนั้น เกิดขึ้นจากการรวมตัวของเมืองเล็ก ๆ โดยแต่ละเมืองนั้นล้วนมีเสน่ห์เฉพาะตัว

วัฒนธรรม: ซีแอตเทิลถือเป็นเมืองที่ผู้คนมีการศึกษาที่ดีและสามารถใช้เทคโนโลยีได้อย่างคล่องแคล่วที่สุดในสหรัฐอเมริกา แม้ที่นี่จะเป็นบ้านเกิดของกาแฟสตาร์บัคส์ แต่คุณก็ไม่ควรพลาดโอกาสที่จะไปเยือนร้านกาแฟท้องถิ่น ถ้าพูดถึงเรื่องดนตรีซีแอตเทิลก็ไม่ธรรมดา ไม่ว่าจะเป็นนักร้องชื่อดังอย่าง จิมิ เฮนดริกซ์ (Jimi Hendrix) ที่มักถูกต่อต้านอยู่เสมอ รวมถึงนักดนตรีคนสำคัญอื่นๆ อย่าง เพิร์ลแจม (Pearl Jam) หรือ เคิร์ท โคเบน (Kurt Cobain) และเมืองนี้ยังเป็นต้นกำเนิดของแนวดนตรีฮิปฮอปอีกด้วย

สถานที่น่าสนใจ: ลองมุ่งหน้าไปที่ตลาดไพค์ เพลส (Pike Place Market) ที่ตั้งอยู่ริมน้ำเพื่อลิ้มลองอาหารรสเลิศ จากนั้นไปเยือนยอดตึกสเปซ นีดเดิล (Space Needle) เพื่อชมวิวอันงดงามของเมือง หรือเรียนรู้ประวัติศาสตร์ด้านดนตรีที่พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมสมัยนิยม (Museum of Pop Culture)

อาหาร: ซีแอตเทิลมีร้านกาแฟ ร้านเบียร์ และคราฟต์ไซเดอร์ให้เลือกอย่างหลากหลาย รวมทั้งร้านอาหารแสนอร่อยและสดใหม่มากมาย เช่นเดียวกับร้านอาหารชั้นดีที่ขยันรังสรรค์อาหารจานใหม่ โดยเมนูเด็ดคงหนีไม่พ้นอาหารทะเล โดยเฉพาะอย่างยิ่งหอยนางรมทอด ซุปหอยข้น และแซลมอนที่เป็นของขึ้นชื่อของเมืองนี้

การท่องราตรี: คุณสามารถพบเห็นคลับและบาร์สำหรับเต้นรำมากมายในย่านแคปิตอล ฮิลล์ (Capitol Hill) และเบลล์ทาวน์ (Belltown) ที่ที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับคลับดนตรีแจ๊ส ไปจนถึงบาร์คราฟต์ค็อกเทล

รู้หรือไม่?: คนท้องถิ่นและผู้มาเยือนต่างแปะหมากฝรั่งหลากสีที่เคี้ยวแล้ว ลงบนกำแพงเดียวกันมาตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1990 กำแพงดังกล่าวจึงได้ชื่อว่า “กำแพงหมากฝรั่ง (Gum Wall)” ในปัจจุบันกำแพงนี้มีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ขนาบไปตามตรอกโพสต์ กำแพงนี้คือสถานที่ที่คุณไม่ควรพลาดด้วยเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร ความพิสดาร และมีสีสัน

มุมไบ
สีสันแห่งเอเชียที่มีความสดใส คึกคัก และไดนามิกเคลื่อนไหวไม่แพ้เซี่ยงไฮ้

วิวทิวทัศน์: มุมไบเป็นส่วนผสมที่หลากหลายของทิวทัศน์สไตล์โกธิก (Gothic) วิกตอเรียน (Victorian) อาร์ตเดโค (Art deco) และศิลปะแนวร่วมสมัย เมืองแห่งนี้เต็มไปด้วยพลังและรอการค้นพบ จะมีที่ไหนอีกที่คุณจะได้พบกับป่าเขตร้อนใกล้ๆ กับเขตเมือง

วัฒนธรรม: ที่นี่เป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมภาพยนตร์อินเดีย และเป็นส่วนผสมระหว่างชนชั้นแรงงานกับบรรดาเศรษฐี นอกจากนี้มุมไบยังเปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ด้านการเงินของประเทศอินเดีย รวมถึงศูนย์กลางของแฟชั่น และมีบรรยากาศของความเร่งรีบวุ่นวาย

สถานที่น่าสนใจ: การเดินทางไปยังสถานีรถไฟสไตล์โกธิกที่น่าทึ่งของมุมไบเป็นอีกประสบการณ์หนึ่งที่ไม่ควรพลาด ที่นี่ยังมีวัดอิสกอน (Iskcon) ของศาสนาฮินดู ที่งดงาม รวมถึงสวนลอยที่มีชื่อเสียง หรือจะไปยังทิศเหนือเพื่อไปยังพื้นที่มรดกโลกอย่างเกาะอิลลาแพนต้า (Elephanta Island) ซึ่งภายในถ้ำมีการสร้างวัดอย่างสลับซับซ้อน ซากโบราณวัตถุ และผลงานแกะสลักตามแบบฮินดูซึ่งมีอายุตั้งแต่ศตวรรษที่ 5 เลยทีเดียว

อาหาร: อาหารริมถนนของมุมไบนั้นมีรสชาติน่าประทับใจและถือเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของคนที่นี่ ทั้งยังมีเมนูอาหารท้องถิ่นมากมาย แต่ที่คุณไม่ควรพลาดคือ พัฟบาจิ (pav bhaji) เคบับ (kebabs) แพนเค้กมันฝรั่ง (potato patties) และเบห์ล ปุรี (bhel puri) ขนมที่ทำจากข้าวพองและผักแสนอร่อย

การท่องราตรี: ความวุ่นวายยังต้องหลบให้กับความสนุกสนาน การเต้นรำ และการรับประทานอาหารในยามค่ำคืน ที่นี่มีทั้งบาร์ให้คุณได้สนุกสุดเหวี่ยง หรือจะเลือกทานอาหารค่ำแบบโรแมนติก นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มเพศที่สาม รวมถึงการแสดงดนตรีสดและอาหารยามดึกให้เห็นโดยทั่วไป

รู้หรือไม่?: เพื่อให้ได้รสชาติอาหารมุมไบแบบดั้งเดิม ลองไปที่ร้าน สวาติ สแนค (Swati Snacks) ในย่านทาดิโอ (Tardeo) เพื่อลิ้มลองรสชาติอาหารท้องถิ่นในแบบดั้งเดิมดูสิ

ซานเซบัสเตียน
มีครบทั้งชายหาด สถาปัตยกรรมที่ให้กลิ่นอายแบบละตินอเมริกาอย่าง ริโอ เดอ จาเนโร

วิวทิวทัศน์: ซานเซบัสเตียนเป็นเมืองที่มีเสน่ห์แห่งหนึ่งในประเทศสเปน ที่ไม่ว่าจะมองไปทางใดคุณก็จะพบกับชายหาดอันงดงาม วิหารสไตล์โกธิก จัตุรัส ตลอดจนปราสาทที่ตั้งตระหง่าน

วัฒนธรรม: เมืองแห่งนี้มีทั้งย่านเมืองเก่าซึ่งเต็มไปด้วยบาร์และที่พักเปี่ยมเสน่ห์ ย่านชอปปิ้งอย่างโรแมนติก้า (Area Romantica) ย่านกรอส (Gros) ซึ่งมีบรรยากาศผ่อนคลาย และชายหาดที่เหมาะสำหรับการโต้คลื่น รวมไปถึงย่านหรูหราที่อยู่บริเวณหาดออนดาร์เรต้า (Ondarreta Beach) ชายหาดรูปพระจันทร์เสี้ยวที่มีชื่อเสียงของที่นี่

สถานที่น่าสนใจ: หาดกอนช่า (Concha beach) เป็นชายหาดอันแสนงดงามซึ่งเต็มไปด้วยผู้คน นอกจากนี้สวนคริสติน่า เอเนอา (The Parque de Cristina Enea) ยังเป็นสถานที่อันงดงามอีกแห่งที่คุณไม่ควรพลาด ยิ่งไปกว่านั้นคุณยังสามารถเดินไปยังปราสาท มอนเต อูร์กูล (Monte Urgull) เพื่อชมทัศนียภาพอันสวยงามเหนือตัวเมืองได้ และเมื่อถึงตอนเที่ยง ก็ได้เวลาไปเยือนพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำอันยอดเยี่ยม และพิพิธภัณฑ์ศิลปะหลายแห่งที่พร้อมสร้างความสุขให้ครอบครัวคุณ

อาหาร: วัฒนธรรมการทานทาปาสได้รับความนิยมอย่างมาก และซานเซบัสเตียนก็มีร้านทาปาสระดับมิชลินสตาร์ เมืองแห่งนี้มักติดอันดับสถานที่ที่ดีที่สุดในโลกสำหรับการทานอาหาร อีกทั้งยังเป็นจุดหมายสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการทานอาหารอย่างแท้จริง คุณภาพอาหารของที่นี่อยู่ในระดับยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารที่ดีที่สุด หรือเมนูของบาร์ทาปาสเล็กๆ ก็ตาม เรียกได้ว่าซานเซบัสเตียนเป็นจุดหมายในฝันของผู้หลงใหลในรสชาติอาหารอย่างแท้จริง ลองสัมผัสรสชาติแบบต้นตำรับของเมนูต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อตากแห้ง เมนูเลิศรสที่ทำจากถั่ว ไข่เจียวสเปน ปลาคอดตากแห้ง และขนมคัสตาร์ดไข่

การท่องราตรี: ซานเซบัสเตียนเป็นที่ตั้งของบาร์ที่มีบรรยากาศคึกคักแต่ค่อนข้างมีขนาดเล็ก โดยย่านเมืองเก่าของที่นี่มีทั้งไวน์บาร์แบบดั้งเดิม คลับขนาดเล็ก ตลอดจนบาร์สุดทันสมัย ส่วนย่านกรอสเองก็จะมีบรรยากาศที่ผ่อนคลายมากกว่า เมืองแห่งนี้มีทุกสิ่งสำหรับคุณ รวมถึงกาสิโนสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการให้ความสนุกสนานในช่วงค่ำคืนสิ้นสุดลง

รู้หรือไม่?: เมืองแห่งนี้มีเส้นทางจักรยานยาวกว่า 30 กิโลเมตร ซึ่งคนในท้องถิ่นรู้จักกันในนาม “บิเดกอริ (bidegorris)” เส้นทางนี้จะนำคุณท่องไปรอบๆ ย่านใจกลางเมือง และไปยังทางเดินริมทะเล รวมถึงนอกเมือง

เบลเกรด
ไม่ต้องไปถึงเบอร์ลิน มาเดินย่างในเบลเกรดก็เที่ยวได้อารมณ์ไม่แพ้กันในราคาที่ถูกกว่าเกินครึ่ง

วิวทิวทัศน์: เมืองที่เต็มไปด้วยความเรียบง่ายคงเป็นคำที่อธิบายได้ดีที่สุดสำหรับเบลเกรด เมืองแห่งนี้มีสวนสาธารณะหลายแห่งช่วยเพิ่มความเป็นธรรมชาติ ในขณะเดียวกันก็มีตึกรามบ้านช่องและอาคารคอนกรีตที่โดดเด่นเหนือทิวทัศน์ของตัวเมือง ที่แม้จะดูเรียบๆ แต่ก็เต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์

วัฒนธรรม: เบลเกรดมีคาเฟ่ที่ได้รับความนิยม อาหารเลิศรส และความบันเทิงยามค่ำคืนที่แสนมีชีวิตชีวา ซึ่งสามารถเพลิดเพลินได้ในราคาเบาๆ จึงทำให้ที่นี่เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานและราคาไม่แพงซึ่งคุณไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง

สถานที่น่าสนใจ: ป้อมเบลเกรด (The Belgrade fortress) ในย่านอัปเปอร์ ทาวน์ (Upper Town) เป็นสถานที่ที่สวยงาม อีกทั้งยังมีร้านอาหารและสวนสาธารณะอันยอดเยี่ยมอยู่ด้านใน หรือคุณอาจจะลองไปชอปปิ้งที่คะเนซ มิฮาโลว่า (Knez Mihailova) นอกจากนี้ที่ตึกซีบินยานิน ยานกา (Sibinjanin Janka) ยังมีวิวที่งดงาม ส่วนพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ของยูโกสลาฟก็เต็มไปด้วยวัตถุโบราณซึ่งหาที่ไหนไม่ได้ อีกทั้งยังมีทัวร์ฟรีในช่วงวันเสาร์และอาทิตย์อีกด้วย

อาหาร: คุณจะได้ทานเนื้อ มันฝรั่ง และผักต่างๆ ได้ในราคาย่อมเยา เมนูทั่วไปของที่นี่คือเนื้อสับปั้นเป็นก้อน ซึ่งมักได้จากการนำเนื้อแกะ เนื้อหมู เนื้อวัว และหัวหอมมาบดรวมกัน นอกจากนี้อาหารที่มีลักษณะคล้ายเคบับก็ได้รับความนิยมเช่นกัน รวมไปถึงเมนูที่ทำจากเนื้อลูกวัวที่ปั้นเป็นแท่งและยัดไส้ด้วยเบคอน หรือคุณอาจอยากลองลิ้มรส “ซาร์มา (sarma)” ซึ่งเป็นกะหล่ำปลียัดไส้ด้วยเนื้อวัวบดและข้าว

การท่องราตรี: การท่องราตรีในเบลเกรดเริ่มโด่งดังในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เอง โดยมีไฮไลต์อยู่ที่ดีเจและคลับใต้ดิน ผู้คนในพื้นที่ต่างชื่นชอบการไปชมคาบาเรต์ในยามค่ำคืนและกาสิโนเป็นอย่างยิ่ง อย่าลืมแวะไปยังบาร์สุดฮิปสักแห่งบนเรือในแม่น้ำล่ะ

รู้หรือไม่?: เบลเกรดนั้นมีทั้งอุโมงค์ แกลเลอรี และถ้ำใต้ดินแสนลึกลับกระจายอยู่ทั่วเมือง และยังเป็นสถานที่ที่คุณจะได้พบกับซากอารยธรรมในยุคก่อน ลองจองทัวร์แล้วไปสัมผัสกับประวัติศาสตร์ที่แท้จริงของเมืองแห่งนี้ดูสิ

Comments are closed.

Pin It