>>พูดถึง “มาเก๊า” อย่าเพิ่งคิดแค่ “กาสิโน” และ “ชอปปิ้ง” เพราะหลายๆ แห่งในมาเก๊าได้ถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ถือเป็นเมืองสร้างสรรค์ขององค์กรการท่องเที่ยวแห่งสหประชาชาติ และวันนี้เราจะพาผู้อ่านไปเจาะลึกตามไปไหว้พระกับกูรูที่น่าเชื่อถือ อย่าง “อาจารย์ช้าง-ทศพร ศรีตุลา” ผู้ที่จะพาเราไปเปิดประสบการณ์การขอพรจากวัดสำคัญๆ ต่างๆ จนรู้สึกว่ามาเก๊ามีเสน่ห์น่าเที่ยวกว่าสไตล์การท่องเที่ยวเดิมๆ ที่เคยรู้จักมา
หมอช้างมาให้ความรู้เกี่ยวกับวัดสำคัญๆ ในมาเก๊า และพาเข้าถึงแก่นการไหว้พระขอพร อีกหนึ่งกิจกรรมความศักดิ์สิทธิ์ของมาเก๊า… เริ่มกันที่ วัดเปากง ที่มีเทพประธานของศาล คือเทพเปากง หรือเปาบุ้นจิ้นที่คนไทยรู้จักเป็นอย่างดี เหมาะกับการมาไหว้ขอพรจากเทพเปากง ช่วยปัดเป่าเรื่องร้ายๆ หรือหากใครที่ทำธุรกิจก็เหมาะที่จะมาขอพรเรื่องการทำสัญญาไม่ให้ถูกเอารัดเอาเปรียบ นอกจากนี้ ที่วัดเปากงยังมีหอเทพไท้ส่วยเอี๊ย 60 องค์ สำหรับผู้ที่ต้องการแก้ปีชง ซึ่งแต่ละองค์จะมีเลขปี ค.ศ.ที่เราเกิดกำกับอยู่ก็ให้ไหว้องค์นั้น ส่วนวิธีการไหว้นั้นเริ่มจากไหว้องค์ใหญ่ แล้วตามด้วยองค์ที่เป็นเทพประจำปีของเรา บูชาด้วยเทียน 1 คู่ ธูปใหญ่ 3 ดอก ธูปเล็ก 3 ดอก ปัก 3 จุด และเผากระดาษเงินกระดาษทอง วัดแห่งนี้เป็นวัดเก่าแก่ที่อยู่ใกล้เมือง เมื่อมามาเก๊าก็ไม่ควรพลาดมาขอพรให้การงานก้าวหน้า
ดีที่มาเก๊าเป็นเมืองเล็กๆ วัดและสถานที่ศักดิ์สิทธิ์หลายๆ แห่งจึงอยู่ไม่ไกลกันมากนัก ทำให้เราสามารถเดินต่อไปยัง “ศาลเจ้านาจา” ศาลเจ้าที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ที่ตั้งอยู่ด้านหลังซากประตูโบสถ์เซนต์ปอล ซิกเนเจอร์สำคัญของมาเก๊าที่ใครๆ ก็ต้องมาเยือน และเราก็ไม่อยากให้คุณพลาดการมาไหว้ขอพรที่ศาลเจ้านาจาด้วยเช่นกัน ซึ่งศาลเจ้าแห่งนี้เหมาะเป็นอย่างมากแก่คนที่ต้องการขอลูกหลานไว้สืบสกุล หรือขอให้ลูกหลานเลี้ยงง่าย สุขภาพแข็งแรงเฉกเช่นเดียวกับองค์นาจา
อย่างที่เราเคยเล่าไว้แล้วว่า มาเก๊ามีการผสมผสานวัฒนธรรมกับความเจริญกันอย่างลงตัว ระหว่างที่เรากำลังจะเดินไปไหว้พระขอพรอีกวัดหนึ่งนั้น เราเดินผ่านถนนเส้นเล็กๆ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นถนนสายอาร์ต (Patio de Chon sau) ที่มีเหล่าวัยรุ่นฮิปสเตอร์มาเก๊ามานั่งพบปะและเก็บภาพที่ระลึกกัน ซึ่งไม่ห่างจากถนนสายนี้เท่าไหร่นักเราก็เดินมาถึง “วัดซำไกวัยคุน” หรือ “วัดกวนอู” วัดที่อาจารย์ช้างบอกว่าทุกครั้งที่มาเขาจะไม่พลาดในการมาไหว้ขอพรที่วัดนี้ เพราะวัดนี้เป็นวัดที่มีความเก่าแก่มาก สำหรับในเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ เทพเจ้ากวนอูเป็นเทพเจ้าแห่งความซื่อสัตย์ เปี่ยมไปด้วยคุณธรรม จึงเป็นที่ชื่นชอบและได้รับการเคารพในฐานะเทพอุปถัมภ์ และเทพผู้ปกป้องคุ้มครองของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ตำรวจ นักการเมือง และผู้นำทางธุรกิจ ที่นิยมมากราบไหว้เพราะเชื่อว่าสามารถปกป้องสิ่งชั่วร้ายต่างๆ และช่วยเสริมอำนาจบารมีในการปกครองและคุ้มครองบริวาร ส่วนวิธีการไหว้นั้น เริ่มจากจุดธูปดอกใหญ่แล้วจุดธูปเล็ก เนื่องจากในวัดจะมีเทพอยู่หลายองค์ ให้ปักกระถางละ 3 ดอกให้ครบทุกจุด จากนั้นจะมีการเผากระดาษที่เป็นรูปก้อนทองเพื่อขอพรเรื่องโชคลาภอีกด้วย
ทริปไหว้พระขอพรของเรายังไม่จบเพียงแค่นี้ เพราะไฮไลต์สำคัญที่รอคอยคือ การเข้าร่วมพิธีไหว้เปิดทรัพย์จากพระโพธิสัตว์กวนอิมที่ “วัดกวนอิม” วัดที่เก่าแก่ที่สุดในมาเก๊า ภายในประกอบด้วย 3 วิหาร วิหารแรกจะเป็นวิหารที่ประดิษฐานพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ ส่วนวิหารที่ 2 ประดิษฐาน พระไวโรจนพุทธะ ซึ่งให้ขอพรในเรื่องสุขภาพให้แข็งแรง และองค์ประธานพระโพธิสัตว์กวนอิม จะอยู่วิหารด้านในสุด โดยพิธีไหว้เปิดทรัพย์ในครั้งนี้มีฤกษ์ดีเพียงวันเดียวในรอบ 1 ปี นับจากวันชิวอิกหรือวันตรุษจีนในแต่ละปีไป 26 วัน ที่วัดนี้ผู้คนนิยมมาขอพรเรื่องเงินทองและโชคลาภ
เมื่อพูดถึงองค์พระโพธิสัตว์กวนอิม ทำให้นึกถึงอีกหนึ่งแลนด์มาร์กสำคัญของมาเก๊า ก็คือ องค์พระโพธิสัตว์กวนอิมที่ยืนตระหง่านอยู่ริมทะเล ณ ศูนย์ส่งเสริมศาสนาเจ้าแม่กวนอิม ที่มีความสูงกว่า 20 เมตร ทำจากสัมฤทธิ์พิเศษ ในฐานรูปโดมภายในมีข้อมูลเกี่ยวกับพุทธศาสนาลัทธิเต๋าและขงจื๊อ รวมไปถึงเรื่องราวการก่อสร้างศูนย์แห่งนี้ ซึ่งจุดสำคัญๆ ในการขอพรองค์พระโพธิสัตว์นั้นมีอยู่ 3 จุด คือ ด้านหน้าระหว่างทางเดิน 2 จุด และจุดรับพลังจักรวาลที่อยู่ภายในอีก 1 จุด นอกจากนี้ มีความเชื่อว่าหากใครมาไหว้องค์เจ้าแม่กวนอิมแล้วสามารถหาสัญลักษณ์ infinity หรือเลข 8 ที่ซ่อนอยู่ทั้ง 3 แห่งพบ จะทำให้มีโชคดีอย่างไม่มีที่สิ้นสุดอีกด้วย
จะรู้สึกว่ามาไม่ถึงมาเก๊า ถ้าเราไม่ได้มาไหว้พระขอพรที่ “วัดอาม่า” วัดชื่อดังของที่นี่ที่ใครไปก็ต้องไปสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล วัดอาม่าเป็น 1 ใน 3 วัดที่เก่าแก่ที่สุดในมาเก๊า นับว่าเป็นวัดดังที่ผู้คนนิยมมากราบไหว้กันมากที่สุด อีกทั้งวัดอาม่าแห่งนี้ได้รับการบันทึกจากองค์กร UNESCO ให้เป็นหนึ่งในมรดกโลกอีกด้วย ภายในวัดมีองค์อาม่าหรือเจ้าแม่ทับทิมเป็นองค์ประธาน นิยมมาขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตัวเองและครอบครัว โดยบูชาด้วยธูปขด-เทียน หรือเทียนดอกบัวคู่เพื่อขอพรเรื่องคู่ครอง-คนรัก ภายในวัดมีก้อนหินขนาดใหญ่แกะสลักเป็นรูปเรือสำเภาโบราณ เชื่อกันว่าหากพกธนบัตรที่นำไปลูบกับภาพจำลองเรือแกะสลักบนหินแล้วจะมีโชคลาภ เงินทองไหลมาเทมา
นอกเหนือจากการมาไหว้พระขอพรในหลายๆ เรื่องแล้ว เรายังได้สัมผัสกับความหรูหราที่ทันสมัยของหลากหลายโรงแรมยักษ์ใหญ่ ที่พร้อมต้อนรับนักเดินทางท่องเที่ยว และนักเสี่ยงโชคที่เต็มไปด้วยสีสัน จะว่าไปแล้ว “มาเก๊า” เป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวมือใหม่สามารถท่องเที่ยวได้อย่างง่ายๆ หรือจะเป็นนักท่องเที่ยวสายเก๋าก็ยังมีอะไรให้ลองไปค้นหาได้อีก ยิ่งเร็วๆ นี้สะพานเชื่อม 3 เมือง “มาเก๊า-จูไห่-ฮ่องกง” จะเปิดอย่างเป็นทางการรับรองเที่ยวสนุกยิ่งกว่าเดิมแน่นอน!
Comments are closed.