Travel

7 จุดหมายสุดตื่นตา จุดบรรจบภูเขาและทะเล

Pinterest LinkedIn Tumblr

เมื่อต้องเลือกจุดหมายในฝันสำหรับทริปพักผ่อนสุดหรูหลายคนพบว่าตนเองต้องพบกับคำถามที่ยากจะตอบว่าชอบไปหาดทรายงามบริสุทธิ์หรือดื่มด่ำทิวทัศน์เทือกเขาที่สวยจนลืมหายใจดีดังนั้น Booking.com จึงเฟ้นหาจุดหมายสุดตื่นตาที่ซึ่งภูเขาและทะเลมาบรรจบกันเรียกได้ว่ามีทั้งป่าฝนเขตร้อนเขียวชอุ่มยอดเขาสูงชัน ผืนน้ำใสราวกระจกและหาดทรายทอดยาวรวมอยู่ในที่เดียวและใกล้ๆ
1.โซเฟรียร์เซนต์ลูเซีย หมู่เกาะเลสเซอร์แอนทิลลีส

สำหรับจุดหมายเงียบสงบที่มีทั้งชายหาดที่เหมาะกับถ่ายภาพลงIGอย่างไม่น่าเชื่อกับเส้นทางเดินเขาผ่านป่าเขตร้อนเขียวชอุ่มไม่มีที่ไหนจะเหมาะไปกว่าเกาะสวรรค์แห่งทะเลแคริบเบียนอย่างเซนต์ลูเซียหลังแช่ตัวในผืนน้ำสีฟ้าตรึงใจผู้รักการผจญภัยสามารถไปเดินเขาอย่างกระปรี้กระเปร่าข้ามGrosPiton ซึ่งได้ขึ้นทะเบียนมรดกโลกUNESCOและเป็นภูเขาไฟ1ใน2ลูกบนเกาะเริ่มออกเดินทางจากหมู่บ้านFondGens Libre และใช้เวลาประมาณ2ชั่วโมง(ต่อขา)ก็จะไปถึงยอดเขาซึ่งสูงเกือบ798เมตรเหนือระดับน้ำทะเลทิวทัศน์มุมกว้างแบบไม่มีใครเทียมจากจุดบนสุดนั้นเรียกได้ว่าคุ้มค่าที่ได้ลงแรงไปอย่างแน่นอน



ที่พักแนะนำ:SugarBeach, A Viceroy Resortให้บริการวิลลาพร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัวตั้งอยู่ติดกับผืนทรายขาวไร้มลทินของหาดSugarBeach (หาดน้ำตาลทรายขาว)อันสมชื่อโดยมียอดเขาสูงชันชื่อ PetitPiton ตั้งตระหง่านอย่างยิ่งใหญ่อยู่ทางเหนือที่พักนี้จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการถ่ายภาพทริปพักผ่อนสุดตระการตาแบบสุดๆ หลังได้ตื่นเต้นกับการสำรวจทุกอย่างบนเกาะมาทั้งวันก็สามารถผ่อนคลายที่ Temazxalซึ่งเป็นซาวน่ากลางแจ้งของรีสอร์ทโดยเป็นลอดจ์ขับเหงื่อทรงโดมแบบเมโซอเมริกาดั้เดิม
2.เกาะอิธากาประเทศกรีซ

อิธากาเป็นเกาะเล็กๆ ของกรีซที่ยังคงความงามตามธรรมชาติมีชื่อเสียงในฐานะบ้านเกิดของวีรบุรุษโอดิเซียสจากมหากาพย์โอดิสซีของโฮเมอร์เกาะที่เงียบสงบแห่งนี้ห่างไกลจากความพลุกพล่านของผู้คนบนเกาะมีหาดหินกรวดแสนสวยอยู่กระจัดกระจายเสริมด้วยผืนทะเลสีน้ำเงินอมเขียวและหมู่บ้านเก่าแก่ทรงเสน่ห์ซึ่งตั้งเรียงรายไปตามพื้นที่ส่วนในของเทือกเขาวิธีที่ดีที่สุดในการเดินทางไปรอบๆ อิธากาคือใช้รถยนต์เนื่องจากเกาะแห่งนี้ค่อนข้างเล็กและเดินทางไปยังจุดต่างๆ ได้ง่ายพอ อีกทั้งยังมีเส้นทางวิวสวยให้ไปสำรวจซึ่งรวมถึงเส้นทางจาก VathyไปStavrosซึ่งขอแนะนำให้แวะจอดที่AnogiและExogiเพื่อสัมผัสวิถีชีวิตหมู่บ้านชนบทอย่างแท้จริงลองให้ความอยากรู้อยากเห็นนำทางไปเพราะไม่ว่าจะเลือกสำรวจที่ไหนก็จะได้รับรางวัลงามๆ เป็นวิวสุดตระตาการอย่างแน่นอน

ที่พักแนะนำ:https://www.booking.com/hot el/gr/razos-windmill.th.html”อาคารที่เคยเป็นกังหันลมแห่งนี้มีเรื่องราวความเป็นมามากมายโดยได้มีการปรับปรุงเป็นอพาร์ตเมนต์ไม่เหมือนใครซึ่งผสานองค์ประกอบแบบดั้งเดิมเข้ากับความทันสมัยหลังออกไปตะลอนเที่ยวชายหาดต่างๆ และสำรวจหมู่บ้านภูเขาทรงเสน่ห์บนเกาะมาทั้งวันคุณก็สามารถจิบไวน์ท้องถิ่นที่ลานระเบียงส่วนตัวแสนกว้างขวางพลางดื่มด่ำกับวิวพระอาทิตย์ตกเหนือทะเลไอโอเนียนแบบไม่มีอะไรมาบดบัง


3.มาคาร์สกาประเทศโครเอเชีย

เมืองท่ามาคาร์สกาซึ่งงดงามเหมือนภาพวาดแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณแนวชายฝั่งในภูมิภาคแดลเมเชียและอยู่ระหว่างเมืองสปลิทกับดูบรอฟนิกมาคาร์สกานั้นทรงเสน่ห์ด้วยป่าสนกลิ่นหอมหน้าผาขรุขระและทะเลเอเดรียติกสีเหลือบน้ำเงินอมเขียวแม้ว่าตัวเมืองจะเล็กพอให้สำรวจด้วยการเดินหรือขี่จักรยานแต่หากอยากผจญภัยและต้องการสำรววจเส้นทางที่ไม่เป็นที่รู้จักนักการมีรถจะช่วยให้สัญจรไปยังเทือกเขา BiokovoMountains ซึ่งอยู่ใกล้เคียงและเป็นแนวเทือกเขาที่สูงเป็นอันดับ2ในโครเอเชียสำหรับรางวัลของความทุ่มเทนั้นคือวิวสุดลูกหูลูกตาของแนวป่าทึบลดหลั่นไปยังผืนทะเลที่ใสเหมือนผลึก



ที่พักแนะนำhttps://www.booking.com/hotel/hr/apartments-beso.th.html”Besoมีวิวมุมกว้างของท่าเรือตั้งอยู่ในใจกลางมาคาร์สกาและห่างจากประภาคารSt.Peter Lighthouse เพียงไม่กี่นาทีลองจินตาการว่าจะได้นั่งทานอาหารโฮมเมดบนระเบียงและเมื่อทอดสายตาออกไปก็จะเห็นเรือใบจำนวนมหาศาลแล่นเข้าออกท่าบนผืนน้ำสีฟ้าระยิบระยับ
4.เกาะคาไวฮาวาย

เกาะคาไวของฮาวายนั้นมีอีกชื่อเรียกว่า“GardenIsle” ที่นี่เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์เขตร้อนอย่างแท้จริงเพราะมีแนวผาใหญ่โตป่าฝนเขียวชอุ่มและหาดทรายสีทองยาวเป็นกิโลๆ แม้บรรยากาศจะชวนให้เดินเที่ยวเตร่และดื่มด่ำกับทุกสิ่งที่สวยงาม(ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่ง)แต่การเช่ารถเพื่อสำรวจบรรดาเมืองชายฝั่งที่น่าหลงใหลของเกาะคาไวชายหาดที่ซ่อนตัวอยู่และน้ำตกชื่อดังก็เป็นกิจกรรมที่ห้ามพลาดโดยจะใช้เวลาเพียงประมาณ3ชั่วโมงในการเดินทางจากสุดฝั่งทางเหนือ(Haena)ไปยังฝั่งตะวันตก(Polihale)ซึ่งเป็นเส้นทางขับรถชมวิวที่ท่านจะได้พบกับหนึ่่งในหาดทรายสีขาวนวลที่ยาวที่สุดของเกาะผู้เดินทางซึ่งมองหาทิวทัศน์ที่ตระการตาอย่างแท้จริงก็ควรไปอุทยาน Koke’eState Park เป็นอย่างยิ่งเพราะมีภูมิทัศน์ยุคจูราสสิกแผ่กว้างและพืชพรรณสีเขียวเข้มและแนวผาสีแสดเข้มออกตะลุยไปตาม 1ใน7เส้นทางเดินเขาหรือขับรถขึ้นไปยังจุดชมวิวKalalauLookout เพื่อชมวิวชายฝั่งที่งดงามหาใดเปรียบ

ที่พักแนะนำ:หากทริปพักผ่อนสุดสมบูรณ์แบบหมายถึงการนั่งทานอาหารใต้แสงดาวและขับกล่อมด้วยเสียงคลื่นกระทบฝั่งKauaiShores Hotelซึ่งอยู่ติดหาดในคัปปาก็อาจจะเป็นที่พักสำหรับคุณและหากต้องการให้บรรยากาศเงียบสงบชวนพักผ่อนตื่นเต้นขึ้นมาอีกสักหน่อยก็อาจลองจองทัวร์เฮลิคอปเตอร์เพื่อชมวิวมุมสูงของภูมิทัศน์ภูเขาไฟสุดงดงามบนเกาะ
5.รัฐซาบาห์เกาะบอร์เนียว ประเทศมาเลเซีย

เกาะบอร์เนียวเป็นเกาะที่ใหญ่อันดับ 3 ของโลกผืนดินเกือบครึ่งปกคลุมด้วยป่าและแบ่งพื้นที่ออกเป็นของ 3 ประเทศนอกจากนี้ก็ยังเป็นที่หลบมาพักผ่อนของผู้รักธรรมชาติเพราะมีความหลากหลายอย่างมากของพืชพรรณและสรรพสัตว์ท้องถิ่นรัฐซาบาห์ซึ่งอยู่ปลายเหนือสุดของเกาะนั้นยังเป็นที่ตั้งของภูเขาคินาบาลูซึ่งเป็นยอดเขาสูงที่สุดในมาเลเซียจึงทำให้เป็นจุดหมายท่องเที่ยวแสนมหัศจรรย์ที่ได้รับความนิยมสำหรับทั้งป่าฝนเขียวขจีและชายหาดกว้างใหญ่



ที่พักแนะนำ:shangri-la's-rasa-ria-resort and spa ตั้งอยู่ในเขตสงวนซึ่งสามารถมองเห็นทะเลจีนใต้และมีวิวงดงามของหาดทรายที่สะท้อนแสงแดดป่าทึบ และยอดเขาสุดยิ่งใหญ่เลือกได้ว่าจะเที่ยวแบบสบายๆ ด้วยการล่องเรือผ่อนคลายไปตามแม่น้ำคินาบาตางันหรือถ้าจะให้ตื่นเต้นขึ้นมาหน่อยก็เดินป่าอย่างกล้าหาญตัดผ่านพุ่มไม้โดยไม่ว่าจะชอบสไตล์ไหนก็มีอะไรมากมายให้สำรวจ


6.อ่าวเบย์ออฟไอแลนด์สประเทศนิวซีแลนด์


อ่าวเบย์ออฟไอแลนด์สนั้นประกอบด้วยเกาะกึ่งเขตร้อนมากกว่า140เกาะจึงเรียกได้ว่าเป็นพื้นที่พักผ่อนซึ่งมีรูปแบบหลากหลายทั้งชายหาดที่ยังคงความเป็นธรรมชาติและภูมิประเทศภูเขาไฟสุดตื่นตามีป่าเขียวชอุ่มมากมายอ่าวที่เงียบสงบและประวัติศาสตร์อัดแน่นให้ไปสำรวจโดยคุณควรวางแผนทริปอย่างดีล่วงหน้าเพื่อให้มั่นใจว่าจะเก็บครบทุกอย่างการเดินทางจะสะดวกอย่างยิ่งที่เบย์ออฟไอแลนด์สหากมีรถยนต์อีกทั้งยังช่วยให้คุณสำรวจพื้นที่ต่างๆ ได้มากขึ้นแต่ไม่ว่าความสงสัยจะพาไปที่ไหนก็ไม่ควรพลาดไปเยือนเมืองKeriKeriเพราะคุณจะได้พบกับMissionHouse ซึ่งเป็นบ้านที่เก่าแก่ที่สุดในนิวซีแลนด์(บางครั้งก็เรียกกันว่าKempHouse) และสำหรับผู้ที่ชอบเดินเที่ยวสิ่งที่พลาดไม่ได้เลยก็คือการเดินไปตามริมฝั่งแม่น้ำKerikeriจนถึงน้ำตกWharepukeและน้ำตกRainbowFalls




https://www.booking.com/hotel/nz/craicor-boutique-apartments.th.htmlPaihiaใกล้ป่าOpuaForest จากที่พักแห่งนี้สามารถมองเห็นวิวสุดเลิศของอ่าวและมีพืชพรรณกับดอกไม้รายล้อมทุกด้านซึ่งทำให้ได้บรรยากาศเหมาะสำหรับทริปพักผ่อนเพื่อปล่อยตัวปล่อยใจคืนความกระปรี้กระเปร่าและใช้เวลาดี ๆ กับเพื่อนหรือครอบครัว

7.เมืองปาราตีประเทศบราซิล

ปาราตีเป็นเมืองแสนสวยตั้งอยู่กลางทางระหว่างริโอเดจาเนโรและเซาเปาโลโดยเป็นหนึ่งในสถานที่พักผ่อนซึ่งยังไม่เป็นที่รู้จักกันนักในบราซิลเมืองแห่งนี้มีสถาปัตยกรรมจากยุคศตวรรษที่17-18เนื่องจากเดิมเคยเป็นเมืองท่าในช่วงยุคตื่นทองของบราซิลเมืองแห่งนี้โอบล้อมด้วยหาดทรายและมีฉากหลังเป็นป่าทึบซึ่งปกคลุมไต่ขึ้นไปจนถึงยอดเทือกเขาที่ไม่สูงชันนักรอบๆ เมืองปาราตีนั้นงดงามราวภาพวาดและปลอดรถตัวเมืองเต็มไปด้วยอาคารบ้านเรือนหลากสีสันร้านบูติคของคนท้องถิ่นผู้เป็นมิตรและโบสถ์เก่าแก่หลังออกไปเที่ยวหาดหรือสำรวจตามถนนปูหินมาทั้งวันก็สามารถปิดท้ายด้วยการดื่มเหล้าCachaçaเย็นๆสักแก้วพลางทานเมนูอาหารแบบฉบับบราซิลที่คาเฟ่ดั้งเดิมซึ่งมีมากมายกระจายไปทั่วใจกลางเมือง



ที่พักแนะนำ:https://www.booking.com/hotel/br/casa-mar-paraty-paraty 1CasaMar Paratyตั้งอยู่ในหมู่บ้านชาวประมงอันทรงเสน่ห์และสามารถไปยังใจกลางย่านเมืองเก่าของปาราตีได้ในไม่กี่นาทีเกสต์เฮาส์ทันสมัยแห่งนี้มีอยู่ไม่ไกลจากหาดPrainhaBeach และเทือกเขาที่อยู่รอบๆ หลังจากที่ได้เดินขึ้นเขาอย่างฮึกเหิมผ่านป่าฝนก็สามารถผ่อนคลายในสระอินฟินิตี้ของสระและดื่มด่ำกับวิวสุดตระการตาของอ่าวIlhaGrande Ba

Comments are closed.

Pin It