เรียกว่าเป็นอาณาจักรที่ครบวงจรที่สุด จนแทบจะไม่ต้องออกไปตามหาที่ไหน หากมาเยือนมาเก๊าสำหรับกาแล็คซี่ มาเก๊า (Galaxy Macau) จุดหมายเดียวที่มอบประสบการณ์ไร้ขีดจำกัดในการท่องเที่ยวมาเก๊า
ซึ่งมาเก๊าเรียกได้ว่าเป็นเขตบริหารพิเศษ (SAR) มาครบ 25 ปีแล้ว หากมองมาเก๊าเรารู้สึกว่ามาเก๊า เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวามีความมุ่งเน้นการรักษามรดกทางวัฒนธรรม ในขณะเดียวกันก็เพิ่มเติมความทันสมัย มุ่งสู่อนาคตและมาเก๊ายังเป็นเมืองที่พรั่งพร้อมไปด้วยโรงแรมที่ได้รับการจัดอันดับห้าดาวจากนิตยสาร Forbes มากที่สุด จึงไม่แปลกใจที่มาเก๊าจะกลายเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับการท่องเที่ยวและธุรกิจที่หลากหลายยิ่งขึ้น
แม้ว่ามาเก๊าจะมีขนาดใหญ่กว่าครึ่งหนึ่งของเกาะแมนฮัตตันเพียงเล็กน้อย แต่เขตบริหารพิเศษนี้ก็มีความพิเศษที่ยิ่งใหญ่เกินกว่าพื้นที่ 33.3 ตารางกิโลเมตร ในปี 2022 ผู้ประกอบการด้านความบันเทิงรายใหญ่ 6 รายของเมืองได้ให้คำมั่นว่าจะลงทุน 14.82 พันล้านเหรียญสหรัฐในระยะเวลา 10 ปีเพื่อขยายข้อเสนอด้านการพักผ่อนหย่อนใจที่หลากหลายขึ้น
และหนึ่งในรีสอร์ทที่โดดเด่นที่สุดคือ รีสอร์ทกาแล็คซี่ มาเก๊า (Galaxy Macau) ซึ่งเป็นรีสอร์ทระดับโลกที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดในมาเก๊า ที่ที่จะมอบประสบการณ์แบบครบวงจรให้แก่นักท่องเที่ยว
กาแล็คซี่ มาเก๊าอยู่ในย่านโคไท นับตั้งแต่ปี 2011 Galaxy Macau ได้ขยายตัวจนมีโรงแรมระดับโลกถึงแปดแบรนด์ภายใต้หลังคาเดียวกัน ซึ่งได้แก่ Banyan Tree Macau, Galaxy Hotel™, Hotel Okura Macau, JW Marriott Hotel Macau, The Ritz-Carlton Macau, Broadway Hotel, Raffles at Galaxy Macau และ Andaz Macau แต่ละโรงแรมมอบประสบการณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ในบรรยากาศที่แตกต่างกันไป ทำให้นักท่องเที่ยวมีตัวเลือกมากมายในการเข้าพัก และท่องเที่ยวอย่างเพลิดเพลินที่ Galaxy Macau
ไม่ว่าจะเป็น The Grand Resort Deck โอเอซิสบนดาดฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งมีสระว่ายน้ำลอยฟ้าบนชั้นดาดฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก สไลเดอร์น้ำแบบผจญภัย สระว่ายน้ำหลายแห่ง และชายหาดทรายขาวยาว 150 เมตร (490 ฟุต) ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนและความสนุกสนานของลูกค้ากลุ่มครอบครัวทุกวัย
Galaxy Promenade แหล่งช้อปปิ้งครบวงจร โดยมีแบรนด์หรูและบูติกดีไซเนอร์มากกว่า 200 แบรนด์ The Promenade ยังจัดกิจกรรมป๊อปอัพและประสบการณ์น่าตื่นเต้นจากแบรนด์ระดับโลกให้กับลูกค้าเป็นประจำ นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารกว่า 120 ร้าน รวมถึงร้านอาหารที่ได้รับดาวมิชลินหลายแห่ง
อีกหนึ่งสิ่งที่เป็นการเติมเต็มความสมบูรณ์แบบก็คือ Galaxy Arena ที่เป็นทั้งสนามกีฬาในร่มที่ใหญ่ที่สุดในมาเก๊า มีที่นั่งรองรับถึง 16,000 ที่นั่ง ตลอดจนเป็นสถานที่จัดงานอีเวนต์ระดับนานาชาติสุดยิ่งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นคอนเสิร์ตระดับโลกไปจนถึงการแข่งขันแมทช์ ชกมวยคู่หยุดโลกที่น่าตื่นเต้น สถานที่นี้ได้ต้อนรับศิลปินชั้นนำอย่างทัวร์คอนเสิร์ตของ BLACKPINK, Jackson Wang, Billkin รวมถึงงานประกาศรางวัลประจำปีอย่าง Tencent Music Entertainment Award (TMEA) และงานกีฬานานาชาติ เช่น การแข่งขันเทเบิลเทนนิสชิงแชมป์โลก และ Women's Volleyball Nations League เป็นต้น
เช่นล่าสุดที่เพิ่งผ่านพ้นไปกับ คอนเสิร์ตวง K-pop (G)I-DLE ได้กลับมาแสดงที่ Galaxy Arena ซึ่งเป็นครั้ง ที่สองในการจัดทัวร์คอนเสิร์ตที่มาเก๊าและยังเตรียมจะมีกิจกรรมสุดตื่นตาตื่นใจหลังจากนี้อีกมากมาย
และเพื่อรองรับกลุ่มผู้จัดงานอีเวนต์ขนาดใหญ่และผู้เข้าร่วมชมการแสดงที่ Galaxy Arena โรงแรม Andaz Macau จึงได้รับการสร้างขึ้นภายในบริเวณเชื่อมต่อกับ Galaxy Arena โดยตรง Andaz Macau เป็นไลฟ์สไตล์โรงแรมที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวาและสะท้อนศิลปะและวัฒนธรรมท้องถิ่น ออกแบบโดย EDG Design ซึ่งเป็นบริษัทสถาปนิกภายในที่มีชื่อเสียง ห้องพักและห้องสวีททั้งหมดของ Andaz Macau ได้รับแรงบันดาลใจจากสภาพแวดล้อมในท้องถิ่น โดยใช้เฉดสีเขียวของป่าและสีส้มอมน้ำตาลที่สะท้อนถึงทิวทัศน์สีเขียวชอุ่มของเกาะ โคโลอาน (Coloane) ที่อยู่ใกล้เคียง
Andaz Macau มีร้านอาหารที่หลากหลายสัญชาติ ซึ่งผู้เข้าพักสามารถสัมผัสรสชาติแท้ ๆ ของมาเก๊าและอาหารคลาสสิกจากทั่วโลก Andaz Kitchen เป็นจุดหมายปลายทางการรับประทานอาหารแบบพร้อมให้บริการตลอดทั้งวัน (All Day Dining) ที่มีการปรุงอาหารสด ๆ จากเชฟให้ได้ชมอย่างใกล้ชิด โดยผู้เข้าพักสามารถเพลิดเพลินกับอาหารโปรตุกีส อาหารแมคกานีส และอาหารท้องถิ่นต่าง ๆ โดยเชฟใหญ่ชาวโปรตุเกส André Lai มีความรักในศิลปะการทำอาหารตั้งแต่วัยเด็ก เติบโตมาในครอบครัวที่มีอิทธิพลทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย เชี่ยวชาญในอาหารโปรตุเกสและอาหารจีน เขาจะนำเสนอเมนูอาหารโปรตุกีส อาหารแมคกานีส และอาหารท้องถิ่นหลากหลายเมนู เพื่อสร้างประสบการณ์เชื่อมโยงแขกผู้เข้าพักเข้าด้วยกันผ่านรสชาติของอาหารหลากวัฒนธรรม
Andaz Bar เป็นบาร์ของโรงแรมแอนดาส มาเก๊า ที่มีบรรยากาศเปิดโล่ง สบายๆ ผ่อนคลาย โดยมีการออกแบบโครงสร้างโค้งที่เชื่อมโยงกับสถาปัตยกรรมแบบยุโรปของมาเก๊า พร้อมด้วยสีฟ้าน้ำทะเลและสีส้มที่สะท้อนถึงประวัติศาสตร์การเดินเรือของเมืองนี้ โดยมี Shobit Shetty นักผสมเครื่องดื่ม (mixologist) ฝีมือเยี่ยม ซึ่งเคยทำงานในบาร์ที่ติดอันดับหนึ่งใน “50 บาร์ที่ดีที่สุดในเอเชีย” เป็นเสมือนนักเล่าเรื่องหลังบาร์ เขาได้รับแรงบันดาลใจจากสิ่งที่ได้เห็น ได้ยิน และได้ลิ้มรสในมาเก๊า กระทั่ง Shobit นำเสนอออกมาเป็นค็อกเทลที่สร้างสรรค์และสะท้อนถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรมของเมือง
ทุกครั้งที่มาเยือนมาเก๊าจึงให้ความรู้สึกเหมือนได้มาสัมผัสกับความเปลี่ยนแปลงทันสมัยแต่แฝงด้วยเสน่ห์ของวัฒนธรรมดั้งเดิมที่อยู่ด้วยกันอย่างลงตัว และทุกครั้งที่มาก็รู้สึกว่ามีอะไรให้ทำอีกเยอะเลยในมาเก๊า
Comments are closed.