Travel

มาลอนดอนชมกีฬา เช็ก-อินแหล่งไลฟ์สไตล์สุดฮิป

Pinterest LinkedIn Tumblr


>>นอกจากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคที่ลอนดอนปีนี้จะคึกคักไปด้วยเหล่านักกีฬาแล้ว วงการแฟชั่น ความงาม และวิถีการดำเนินชีวิตในลอนดอนช่วงนี้ก็คลื้นเคลงไม่สไตล์ไม่น้อยเช่นกัน

ผู้ที่เฝ้าติดตามสถานการณ์วิกฤติเศรษฐกิจในยุโรปต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ หรือ “London 2012 Olympics” ครั้งนี้ น่าจะช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจของอังกฤษกระเตื้องขึ้นและกลับมาขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ดังเดิมอีกครั้ง หลังจากที่โดนผลพวงของวิกฤติเศรษฐกิจในยูโรโซนมาซะอ่วม

แม้ว่าแมดริดและปารีสจะเป็นผู้แข่งขันที่น่าชนะมากที่สุด จาก 5 เมืองที่มีชื่อเสียงระดับโกล ที่เข้าร่วมเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิค นั่นคือ ลอนดอน แมดริด มอสโก นิวยอร์ก และปารีส แต่แล้วลอนดอนก็ชนะฝรั่งเศสไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิค ปี 2012 นี้ และเป็นเมืองแรกที่เป็นเจ้าภาพโอลิมปิคถึง 3ครั้ง และจะเป็นการแข่งขันพาราลิมปิคครั้งที่ 14 ที่อุทิศให้กับนักกีฬาผู้พิการทั้งร่างกายและบกพร่องทางปัญญา โดยหวังว่ากีฬาครั้งนี้จะช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจทั้งยุโรปกลับมาคึกคักอีกครั้ง

และไม่แน่ใจว่าเพราะลอนดอนเป็นเจ้าภาพหรือเปล่า ถึงทำให้หลายวงการ ทั้งแฟชั่น ความงาม และไลฟ์สไตล์ ต่างเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในกระแสกีฬาโอลิมปิกครั้งนี้ ผ่านกิจกรรมต่างๆ มากมาย จนมีบางคนพูดติดตลกว่า “คงทำให้ธงชาติอังกฤษ” ขายดีเป็นเทน้ำเทท่ามากขึ้น เพราะที่ผ่านมาไม่ว่าใครก็นำธงชาติอังกฤษไปใช้ในหลายรูปแบบ และอาจจะเป็นธงชาติเดียวในโลกที่มีผู้คนนำไปใช้แทนอัตลักษณ์ตัวเองมากที่สุดในโลก โดยไม่เคยสนใจเรื่องมิติทางด้านการครอบงำทางความคิดเลยก็ว่าได้

ไม่น่าเชื่อว่าอีกว่า โอลิมปิก 2012 ลอนดอน เกมส์ ซึ่งปกติแล้วจะเป็นสังเวียนที่บรรดานักกีฬาจากทั่วโลกจะมาแข่งขันชิงแชมป์กันแล้ว แต่โอลิมปิกครั้งนี้ยังได้กลายเป็นสนามแข่งขันของเหล่าบรรดาดีไซเนอร์ผู้ได้รับหน้าที่ออกแบบชุด ต่างๆ ให้กับนักกีฬาของแต่ละชาติมากที่สุดอีกด้วย

อย่างแบรนด์ดัง จิออร์จิโอ อาร์มานี, ปราด้า, สเตลลา แม็กคาร์ตนีย์, แอร์เมส, เฟอร์รากาโม หรือ ราล์ฟ ลอเรน ต่างก็ยกขบวนจัดเต็มคอลเลกชั่นพิเศษเพื่อการนี้โดยเฉพาะ ซึ่งแทนที่จะนำไปเปิดตัวคอลเลกชั่นใหม่ล่าสุด นี้ที่นิวยอร์ก หรือปารีสแฟชั่นวีกเหมือนเช่นเคย แต่คราวนี้กลับกลายเป็นการประชันฝีมือกันในพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคอย่างเป็นทางการแทน

หรือแม้แต่วงการความงาม บริษัท พร็อกเตอร์ แอนด์ แกมเบิล จำกัด หรือ พี แอนด์ จี บริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ระดับโลกที่มีฐานบริษัทอยู่ในอังกฤษ ก็ได้เป็นผู้สนับสนุนด้วยเช่นกัน ทำให้มีการเปิดตัวแคมเปญย่อยๆ เพื่อเชื่อมโยงกับสินค้าหลากหลายรูปแบบ ทำให้ภาพที่เห็นขณะนี้สะท้อนถึงความเหมือนและแตกต่างของประเทศเจ้าภาพในแต่ละภูมิภาคทั่วโลก

ที่จริงแล้วการมาเยือนกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ครั้งนี้ของ Celeb Online ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคแต่อย่างใด เพราะเดินทางมาเยือน “Customer Collaboration Centre” ของบริษัท ดิอาจิโอ โมเอต เฮนเนสซี จำกัด มากกว่า ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของกรุงลอนดอน แต่ด้วยความที่ดิอาจิโอผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น จอห์นนี วอล์กเกอร์, สเมอร์นอฟ วอดก้า, โมเอต แอนด์ ชองดอง, เฮนเนสซี, คาเทล วัน และอีกมากมาย ซึ่งเกี่ยวข้องกับไลฟ์สไตล์ทั้งการเดินทางและการดื่มอย่างมีรสนิยม จึงทำให้อดไม่ได้ที่มาเยือนอังกฤษแล้วจะต้องไปสัมผัสกับวิถีการดำเนินชีวิตสุดฮิพในกรุงลอนดอน

ข้อย้อนกลับไปที่ “Customer Collaboration Centre” ของดิอาจิโอ ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ กันก่อน ที่นี่มีอะไรดี? ทำไมเราถึงต้องมาเยือน? ต้องขอเล่าว่า ดิอาจิโอลงทุนสร้างศูนย์แห่งนี้ขึ้นเพื่อเป็นแหล่งศึกษา การสร้างกลยุทธ์ วางแผน เรียนรู้ แลกเปลี่ยนความคิด สร้างแรงบันดาลใจ และการสื่อสารผลิตภัณฑ์ต่อลูกค้าในรูปแบบต่างๆ นอกจากนี้ ยังเป็นแหล่งรวมข้อมูลเชิงลึก รวมถึงแนวโน้มของลูกค้า ข้อมูลส่วนตัวของลูกค้า และพฤติกรรมการดื่มที่แตกต่าง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญต่อการพัฒนาธุรกิจ และการนำประสบการณ์ระดับโลกไปพัฒนาเพื่อไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ในอนาคต

ภายในถูกออกแบบอย่างทันสมัย เริ่มจากห้องประชุมใหญ่ที่ผนังรอบด้านเต็มไปด้วยภาพอารมณ์ต่างๆ ทั้งการใช้ชีวิตในบ้านและนอกบ้าน โดยแสดงผ่านโปรเจ็กเตอร์ เมื่อเดินผ่านกระจกเข้าไปจะพบกับโซนย่อย ประกอบด้วย At Home ภายในจำลองห้องพักสุดเก๋ที่ประกอบด้วยเตียงนอน มุมนั่งเล่น และพื้นที่ครัว เพื่อแสดงให้เห็นถึงวิถีการดำเนินชีวิตของคนรุ่นใหม่ที่มักนิยมอาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียม หรืออพาร์ตเมนต์

ถัดมาเป็นโซน The Supermarket โดยจำลองซูเปอร์มาร์เกตขนาดย่อม ภายในประกอบด้วยสินค้าหลากหลายชนิด เพื่อสะท้อนแนวคิดในการคิดหากลยุทธ์หรือตำแหน่งของสินค้าอย่างไรให้โดนใจลูกค้า ถัดมาเป็นโซน The Convenience Store and Street Scene ภายในจำลองร้านสะดวกซื้อที่เต็มไปด้วยสินค้า เพื่อศึกษากระบวนการขายสินค้าอย่างไรให้เกิดความประทับใจต่อลูกค้า รวมถึงโซน The Cash & Carry, Travel Retail, The Brand Experience และ The Cafe อีกด้วย

และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือโซน The Bar จำลองบาร์ขนาดใหญ่ มีมุมโซฟา โต๊ะ-เก้าอี้ ให้อารมณ์เหมือนอยู่ในไนต์บาร์จริงๆ พร้อมด้วยเคาน์เตอร์ขนาดใหญ่ ที่ผนังเต็มไปด้วยเครื่องดื่มหลากรสชาติหลายแบรนด์ และการผสมค็อกเทลรสชาติต่างๆ ด้วยส่วนผสมที่สมบูรณ์แบบที่สุด เพื่อให้ได้เครื่องดื่มที่เต็มด้วยศิลปะและรสชาติอันมีสไตล์เฉพาะตัว

นี่สะท้อนได้เป็นอย่างดีว่าปัจจุบันคนเราหันมาอาศัยอยู่ในสังคมเมืองมากขึ้น ในห้องแคบๆ อย่างคอนโดมิเนียมหรืออพาร์ตเมนต์ ทำงานเก่ง ใช้เงินเป็น และมีรสนิยมในการชีวิต เรียกว่าเป็นผู้มีระเบียบแบบแผนในการใช้ชีวิตมากขึ้น โดยเฉพาะผู้หญิงสมัยใหม่ถือเป็นนักดื่มหน้าใหม่ที่น่าสนใจกว่าผู้ชาย ยกตัวอย่าง ผู้หญิงที่ถือกระเป๋าแอร์เมส จะต้องแต่งตัวอย่างไร เที่ยวที่ไหน กินอย่างไร ขับรถอะไร หรือการใช้ชีวิตหลังเลิกงานส่วนใหญ่ด้วยการไปยังแหล่งพบป่ะกะเพื่อนฝูง ในร้านอาหารกึ่งผับมากกว่าการเที่ยวผับอย่างเดียว เป็นต้น

หลังจากนั้น Celeb Online ได้มีโอกาสไปสัมผัสกับลอนดอนด้วยตัวเอง พร้อมด้วยคุณภีสภัทร์ ดีดับเข็ญ ผู้อำนวยการขายสินค้าในกลุ่ม Reserve & Prestige อาทิ เฮนเนสซี, สเมอร์นอฟฟ์, จอห์นนี วอร์กเกอร์ โกลด์ รีเสิร์ฟ-บลู รีเสิร์ฟ, โมเอต แอนด์ ชองดอง, คาเทล วัน และชองดอง เป็นต้น พร้อมด้วยคุณเจนณรงค์ ภูมิจิตร Brand Ambassador บริษัท ดิอาจิโอ โมเอต เฮนเนสซี (ประเทศไทย) จำกัด

สำหรับใครที่สนใจไปเที่ยวลอนดอนแนะนำให้เดินทางด้วยตัวเอง หรือเป็นกลุ่มเล็กๆ จะดีที่สุด ด้วยเพราะการพัฒนาด้านคมนาคมทำให้การเดินทางสะดวกสบาย สามารถเดินทางเชื่อมต่อถึงกันถึงมุมเมือง มีทั้งรถเมล์ที่สามารถใช้เดินทางในเวลาเร่งด่วนได้ เพราะมีเส้นทางพิเศษ ไม่ต้องกลัวรถติดเหมือนกรุงเทพฯ บ้านเรา หรือจะเลือกใช้บริการแท็กซี่สีดำสุดคลาสสิก ถึงแม้จะมีราคาแพงแต่นานๆ ได้มาเลือกใช้บริการก็ได้ฟิลไปอีกแบบ แต่ถ้าจะให้สะดวกและประหยัดสุดแนะนำให้เลือกใช้บริการรถไฟใต้ดินจะดีที่สุด

สัญลักษณ์ไฮไลต์ของลอนดอนที่ใครมาแล้วไม่ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกเป็นไม่ได้ คงต้องยกให้กับ “ลอนดอนอาย” และ “หอนาฬิกาบิ๊กเบน” (ปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อเป็นหอนาฬิกาอลิซาเบธ ตามชื่อของพระราชินีอลิซาเบธแล้ว) สามารถนั่งรถไฟใต้ดินมาลงที่สถานี Waterloo หรือ Embankment แต่สถานี Waterloo จะใกล้ลอนดอนอายที่สุด โดยเดินออกทางช่อง South Bank นอกจากจะขึ้นลอนดอนอายด้วยราคาค่าตั๋วประมาณคนละ 20 ปอนด์ เพื่อได้ชมวิวอย่างสุดลูกหูลูกตาแล้ว ยังสามารถเดินเล่นริมแม่น้ำเทมส์ และเมื่อมาถึงลอนดอนอายก็สามารถมองเห็นนาฬิกาบิ๊กเบน

ทาวเวอร์ บริดจ์ เรียกได้ว่าเป็นอีกสัญลักษณ์หนึ่งของลอนดอน ซึ่งถูกสร้างขึ้นเพื่อข้ามผ่านแม่น้ำเทมส์ โดยสถานีรถไฟใต้ดินที่ไกลที่สุดคือ Tower Hill ซึ่งมีทั้งรถไฟสองสายที่วิ่งผ่านคือ Circle และ District และยังสามารถเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ รอบสถานี Tower Hill ได้อีก

พระราชวังบัคกิ้งแฮม เป็นเพียงพระราชวังไม่กี่แห่งในโลกที่ยังมีเชื้อพระวงศ์พำนับอยู่จริง และสิ่งที่เป็นดึงดูดนักท่องเที่ยวนอกจากความสวยงามทางสถาปัตยกรรมแล้ว นักท่องเที่ยวมักจะสนใจเพื่อชมการเปลี่ยนเวรยามของทหาร โดยจะมีทหารมาเปลี่ยนเวรยามพร้อมกับกริยาการแสดงที่สวยงาม ซึ่งดูแล้วเพลินมากในความเป็นระเบียบ โดยจะมีการผลัดเปลี่ยนเวรยามในเวลา 11.30 ของทุกวันในช่วงฤดูร้อน และเป็นบางวันในฤดูหนาว โดยในแต่ละครั้งจะใช้เวลาประมาณ 45 นาที และที่สำคัญไม่เสียค่าใช่จ่ายในการดู

ด้านหน้าพระราชวังบัคกิ้งแฮมจะเห็นอนุเสาวรีย์ตั้งอยู่ ชื่อ Victoria Memorial โดยมียอดบนสุดเป็นทองอย่าลืมไปหาให้เจอด้วยตัวเอง และหากเดินมาทางด้านข้างก็จะสามารถเข้าชมแกลอรี่ The Queen’s Gallery ได้ ซึ่งมีการจัดแสดงของสะสมของราชวงศ์ เช่น ภาพวาด เฟอร์นิเจอร์ นาฬิกา และเครื่องประดับ โดยเสียค่าเข้าประมาณ9 ปอนด์ เปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลาประมาณ10.00-17.30 น. โดยเดินทางไม่ยาก แค่นั่งรถไฟใต้ดินมาที่สถานี Victoria, Green Park หรือ Hyde Park Corner

:: 5 แหล่งฮิตที่สุดเวลานี้ในลอนดอน




1.Chic in Town

ร้านที่มีชื่อสุดเก๋ว่า “สเกตช์” (Sketch) ฟังครั้งแรกรู้สึกว่าร้านนี้เล็กๆ น่ารักๆ แต่เมื่อคุณมาเช็ก-อินแล้วจะพบว่าเป็นร้านน่ารักแต่ไม่เล็ก! โดยดัดแปลกอาคารสมัยศตวรรษที่ 18 บนถนน Conduit มาเป็นร้านอาหารและบาร์สุดเก๋มีสไตล์ เปิดเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2002 โดยหุ้นส่วนที่มีอาชีพเป็นเชฟและดีไซเนอร์

ภายในถูกแบ่งออกเป็น 5 โซน ประกอบด้วย โซนแกลลอรี, ห้องเลกเชอร์, ห้องนั่งเล่น, ห้องโถงสไตล์ธรรมชาติ (ที่ให้ความรู้สึกเหมือนนั่งอยู่ในลานโล่งซาฟารี) และห้องสไตล์ตะวันออก โดยที่แต่ละห้องมีการตกแต่งอย่างมีสไตล์และเอกลักษณ์เฉพาะตัว แต่ที่เก๋อีกคือห้องน้ำที่แต่ละห้องออกแบบให้เป็นรูปไข่ ส่วนเรื่องอาหารไม่ต้องพูดถึง ทุกจานเต็มไปด้วยการครีเอต รวมถึงจาน ชาม ช้อน แก้วน้ำ และอุปกรณ์บนโต๊ะทุกชนิด ของแต่ละคนไม่ซ้ำกัน (www.sketch.uk.com)




2.Experience luxury

ถ้าคุณอยากรู้ว่าตอนนี้พวกลอนดอนเนอร์เขาไปอัพความฮิปที่ไหนกัน แนะนำว่าที่โรงแรมดับเบิลยู (W Hotel) ลอนดอน เป็นที่ที่คุณต้องไปเช็ก-อินด่วน เพราะเป็นแหล่งรวมของพวกลอนดอนเนอร์ที่เก๋ๆ ที่สุดเวลานี้ ตั้งอยู่ในย่านพิกคาดิลลี และรีเจนต์ ถ้าคุณมาถึงตั้งแต่ช่วงบ่ายแนะนำให้ลิ้มรสชา W twist หรือชา W Rockส่วนใน W Lounge เก๋ด้วยค็อกเทลสุดเลิศในแบบ Roll Right ซึ่งได้รับความนิยมมาก และอาหารสไตล์เอเชียมากมาย ทั้งอาหารจีน เวียตนาม และไทย ก่อนจะปิดท้ายด้วยบาร์สุดเลิศ Wyld ที่ดูราวกับไอคอนิก มีลูกบอลดิสโก้ขนาดยักษ์ประดับเด่นเป็นสง่า ภายในถูกตกแต่งแบบเหนือจินตนาการ โดยทุกวันพุธจะมีดีเจระดับท็อปๆ ของลอนดอนมาสแคลชแผ่น (www.wlondon.co.uk)



3.Celebrity Hot Spot

หากคุณเป็นคอปาร์ตี้ไม่ควรพลาด “ฟังกี้ บุด้า คลับ” (Funky Buddha Club) เป็นแหล่งรวมตัวของเหล่าคนดังทั่วลอนดอนที่เต็มตั้งแต่การแต่งตัว สถานที่ คู่ควง และที่สำคัญเครื่องดื่มสุดเก๋หลากหลายเมนู คุณจะได้สัมผัสกับประสบการณ์สุดหรูในลอนดอนอย่างที่ไม่เคยสัมผัสที่ไหนมาก่อน ภายในถูกตกแต่งแบบผสมผสานระหว่างความเป็นโมเดิร์นและวิถีแห่งเอเชีย (www.fbmayfair.co.uk)


4.Partying Time

น่าเสียดายที่ “มินิสตรี ออฟ ซาวนด์” (Ministry Of Sound : MOS) ในเมืองไทยปิดไปซะก่อน แต่ถ้าคุณเป็นสาวกคลับสไตล์นี้ เมื่อมาเยือนลอนดอนแนะนำให้เช็ก-อินด่วนที่เอ็มโอเสลอนดอน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งคลับที่ดีที่สุดในลอนดอนเลยก็ว่าได้สำหรับคอมิวสิกเลิฟเวอร์ ภายในมี 4 ห้อง 4 สไตล์ ทั้งการตกแต่งและเพลงให้คุณเลือกแดนซ์แอนด์ดริงก์ได้ตามสไตล์คุณ (www.ministryofsound.com)



5.Quirky & Artfulness

สำหรับใครที่แอบทิสต์หน่อย แนะนำว่าที่ “จากัวร์ ชูส์” (Jaguar Shoes) น่าจะเหมาะกับคุณที่สุด เพราะนอกจากจะมีพื้นที่ในการจัดแสดงผลงานนิทรรศการศิลปะแบบหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนทุกๆ 2 เดือนแล้ว ยังมีบาร์และคาเฟ่เก๋ๆ ให้คุณได้เลือกดื่ม-กิน ละเลียดไปพร้อมกับการเสพศิลป์ได้อย่างมีอรรถรส แถมยังเป็นแหล่งรวมศิลปินทั้งรุ่นเก่า-รุ่นใหม่มากมาย เรียกว่าถ้าคุณอยากมาแอ็กอาร์ตก็ไม่ควรพลาด (www.jaguarshoes.com) :: Text by FLASH

>>> LONDON Fact File

:: ถ้าคุณจองตั๋วเครื่องบินจากเมืองกรุงเทพฯ ไปยังกรุงลอนดอน ผ่านเอเยน แนะนำให้คุณขอใบคอนเฟิร์มตั๋วจากสายการบินอีกชุด เพราะเคยเกิดกรณีเจ้าหน้าที่เช็กอินบอกว่าตั๋วของคุณยังไม่ได้คอนเฟิร์ม เมื่อคุณยื่นใบจองของเอเยน เพราะบางครั้งบริษัทเอเยนในการรับจองตั๋วคอนเฟิร์มแต่ทางสายการบินยังไม่ได้คอนเฟิร์ม ทำให้คุณไม่มีที่นั่งแล้วต้องย้ายมานั่งในชั้นประหยัดแทน โดยเฉพาะผู้ที่จองชั้นธุรกิจหรือชั้นหนึ่ง ดังนั้น เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาระหว่างการเดินทางไกลๆ แนะนำให้ร้องขอใบคอนเฟิร์มตั๋วจากสายการบินกับเอเยนอีกชุด

:: ราคาห้องพักในลอนดอนมีหลากหลายให้เลือก ถ้าจะเลือกราคาถูกหน่อย แนะนำให้พักนอกเมือง เพราะคุณไม่ต้องห่วงเรื่องการเดินทาง เพราะการเดินทางโดยรถไฟถูกและประหยัด แถมได้ห้องพักที่ใหญ่กว่าในตัวเมืองลอนดอนและได้สัมผัสผู้คนแบบอังกฤษแท้ๆ อีกด้วย

:: ย่าน Earl's Court ก็ไม่เลว มีร้านอาหาร ร้านกาแฟมากมาย และเดินทางจากสนามบินฮีตโทรว์ได้ สะดวก เพียงนั่งรถไฟใต้ดินสาย Piccadily แบบไม่ต้องไปสลับสายให้เหนื่อย

:: ถ้าเลือกเดินทางด้วยรถไฟ แนะนำให้ซื้อตั๋วแบบ one day travel จะประหยัดที่สุด สามารถเที่ยวได้รอบเมือง จะขึ้น-ลงสถานีไหนก็ได้ตามสะดวก

 
>> อัปเดตข่าวในแวดวงสังคม กอสซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่  http://www.celeb-online.net หรือ App Store ได้แล้วที่ celeb online ipad edition

Comments are closed.

Pin It