>>ผ่านไปแล้วสำหรับงาน “2 WONDERS ONE TRIP” ที่จัดขึ้นโดยการท่องเที่ยวฮ่องกงและสำนักวัฒนธรรม การกีฬาและท่องเที่ยว เซินเจิ้น ร่วมกับสายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิค เพื่อนำเสนอการเดินทางเยือนฮ่องกง มหานครระดับโลกของเอเชียและเซินเจิ้นไปด้วยในทริปเดียวกัน โดยเฉพาะช่วงเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคมนั้น จะตรงกับช่วงเทศกาลฮ่องกง ซัมเมอร์ สเปคทาคูลาร์ ที่นักช้อปชาวไทยโปรดปราน และการเดินทางเยือนฮ่องกงนั้นคนไทยไม่ต้องขอวีซ่า และคนไทยยังสามารถใช้วีซ่าพิเศษ 144-ชั่วโมง (144-hour Convenient Visa) เพื่อข้ามไปเยือนเซินเจิ้นได้ด้วย
สตาร์ทกันที่ฮ่องกง มหานครระดับโลกของเอเชีย มีแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นที่รู้จักและสวยงามมากมาย เริ่มกันจาก “Sky 100” ไปชมวิวฮ่องกงแบบ 360-องศา บนความสูงจากระดับน้ำทะเล 400 เมตร บนชั้นที่ 100 ของอาคารอินเตอร์เนชั่นแนล คอมเมิร์ซ เซ็นเตอร์ สูง 118 ชั้น และเป็นอาคารที่สูงที่สุดเป็นอันดับที่สี่ของโลก
ต่อกันด้วย “Ocean Park” ที่เพิ่มจำนวนสถานที่น่าสนใจในโอเชี่ยนปาร์คจาก 35 แห่งเป็น 70 แห่ง เพื่อให้เป็นสวนน้ำที่ดีที่สุดของโลก โอเชี่ยนปาร์คใหม่จะประกอบด้วยพื้นที่ 2 ส่วนใหญ่ๆ คือ เดอะวอเตอร์ฟร้อนท์ (Aqua City-มีโดมชมสัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดของโลก, Birds of Paradise และ Whisker Harbour) และ เดอะ ซัมมิท (Marine World, the Rainforest-ธีมโซนแห่งแรกที่รวมเครื่องเล่นและการเดินชมนิทรรศการป่าฝนแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้, Thrill Mountain และ Polar Adventure-เป็นพื้นที่จัดแสดงสัตว์ที่อาศัยอยู่ในเขตอาร์ติกและแอนตาร์คติกแห่งแรกของเอเชีย รวมไปถึงรถไฟเหาะ)
ปิดท้ายทริปฮ่องกงกันที่สวนสนุก “Hong Kong Disneyland” ที่เพิ่มพื้นที่ 3 โซนใหม่อย่าง “Grizzly Gulch” – สร้างขึ้นเป็นพิเศษสำหรับฮ่องกงดิสนีย์แลนด์โดยเฉพาะ, “Toy Story Land” – พิเศษเฉพาะในเอเชีย, “Mystic Point” – โซนพิเศษที่พร้อมมอบความสนุกเฉพาะในดิสนีย์ธีมปาร์คทั่วเอเชียเป็นเวลา 5 ปี ก่อนจะขยายไปทั่วโลก มีกำหนดเปิดในดิสนีย์แลนด์ฮ่องกงวันที่ 17 พฤษภาคม 2013
อำลาฮ่องกงแล้วข้ามแม่น้ำเซินเจิ้นไปยัง “เซินเจิ้น” เมืองชายฝั่งตอนใต้ของจีนและเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการเดินทางเข้าสู่จีน อีกทั้งยังได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน 31 เมืองที่ต้องมาเยือนโดยหนังสือพิมพ์ New York Times เมื่อปี 2010 อีกด้วย มาถึงแล้วเราก็เริ่มทริปในเซินเจิ้นกันที่
เมืองต้าเผิงซัว (Dapengsuo Town) ต้าเผิงซัวสร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์หมิง ปีที่ 27 ในรัชสมัยกษัตริย์หงอู่ (ค.ศ. 1394) เป็นป้อมที่มีความสำคัญในสมัยราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง ตั้งอยู่ทางทะเลจีนใต้ และเป็นที่มาของชื่อ “เผิงเฉิง” ของเซินเจิ้นในอดีต เมืองต้าเผิงซัวเป็นที่อยู่ของนายพลกว่า 10 นาย อาทิ นายพลหลิว จง และนายพลซวี่ ซวิ่น แห่งอาณาจักรหวูเย่ สมัยราชวงศ์หมิง และนายพลอีกห้านายจากตระกูลไหล 3 รุ่นในสมัยราชวงศ์ชิง ด้วยเหตุนี้เอง เมืองนี้จึงขึ้นชื่อในฐานะ “เมืองนายพล”
ต้าเผิงซัวมีพื้นที่ถึง 100,000 ตารางเมตร ในเมืองมีทั้งประตูโบราณใหญ่ บ้าน ถนนโบราณ คฤหาสน์นายพล และยังเป็นป้อมปราการชายฝั่งสมัยสมัยราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิงที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ในสภาพดีเยี่ยมอีกด้วย โดยในสมัยสงครามฝิ่น นายพลไหล เอินเจวี้ย แห่งราชวงศ์ชิง ซึ่งประจำการอยู่ที่ต้าเผิงซัว สามารถชนะศึกเกาลูน ซึ่งเป็นยุทธการสงครามที่เปิดฉากสงครามครั้งนี้ได้สำเร็จ จนกลายเป็นอีกหนึ่งหน้าสำคัญในประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ของเซินเจิ้น นอกจากนี้ เมืองโบราณแห่งนี้ยังรักษาวัฒนธรรมพื้นบ้านอันเป็นเอกลักษณ์สำคัญของวัฒนธรรมหลิ่งหนานไว้เป็นอย่างดีอีกด้วย
จากนั้นต่อกันที่เมืองจำลองและหมู่บ้านวัฒนธรรม “Splendid China & China Folk Culture Village” ที่จัดแสดงสถานที่สำคัญต่างๆของจีนเกือบ 100 แห่ง โดยจัดวางตำแหน่งของแต่ละสถานที่ตามที่ตั้งจริงในประเทศจีน จึงทำให้เมืองจำลองแห่งนี้มองดูคล้ายแผนที่ขนาดยักษ์ของจีน ที่ผู้ชมสามารถเห็นภาพรวมของประเทศได้ภายในไม่กี่ชั่วโมง ส่วน China Folk Culture Village นั้น มีการแสดงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชนเผ่าต่างๆ ถึง 56 เผ่า รวมไปถึงการแสดงโชว์พื้นเมืองต่างๆ ให้ชมฟรี
ถ้าเป็นสถานที่ทางธรรมชาติที่น่าสนใจก็ต้อง “แหลมต้าเผิง” (Dapeng Peninsula) ที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นหนึ่งในแปดชายฝั่งที่งดงามที่สุดของจีน โดย “เนชั่นแนล จีโอกราฟฟิค จีน” ตั้งอยู่ในเขตหลงก่าง ตะวันออก ทอดตัวจากอ่าวต้าย่า (Daya Bay) ทางตะวันออกไปยังอ่าวต้าเผิง (Dapeng Bay) ทางตะวันตก มีพื้นที่ 294.18 ตารางกิโลเมตร ชายฝั่งยาว 133.22 กิโลเมตร พื้นที่กว่า 76% เป็นป่า มีทั้งวิวภูเขาและทะเล แหล่งท่องเที่ยว ทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ และยังมีข้อได้เปรียบทางภูมิภาคและมีศักยภาพที่จะพัฒนาต่อไปได้อีกมาก เพราะทรัพยากรต่างๆได้รับการปกป้องและอนุรักษ์อย่างเข้มงวด ปัจจุบัน แหลมต้าเผิงกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่ได้รับการอนุรักษ์ที่ดีที่สุดและใหญ่ที่สุดในเซินเจิ้น
และไปจบทริปนี้กันที่ “OCT·East” ครอบคลุมพื้นที่เกือบ 9 ตารางกิโลเมตร สร้างโดยกลุ่มโอเวอร์ซีส์ ไชนีส ทาวน์ ถือเป็นพื้นที่โซนท่องเที่ยวเชิงนิเวศระดับชาติแห่งแรกของจีนที่ได้รับรางวัลจากการท่องเที่ยวแห่งชาติ และกระทรวงพิทักษ์สิ่งแวดล้อม ภายในประกอบไปด้วยธีมปาร์คเชิงนิเวศ 2 แห่ง สนามกอล์ฟบนภูเขา 2 แห่ง เมืองท่องเที่ยว 3 แห่ง รีสอร์ท 4 แห่ง โรงละครแสดงศิลปะ 4 แห่งและสวนพุทธศาสตร์ โดยไฮไลท์หลักๆ อย่างหุบเขา Ecoventure, หุบเขา Tea Stream, วัด Huaxing, โรงแรม Interlaken, โรงแรม Huaxing Mahayna และโรงแรม Interlaken Aqua Boutique ล้วนแล้วแต่แสดงให้เห็นถึงการอยู่ร่วมกันของคนกับธรรมชาติ ในแต่ละช่วงของปี OCTEast จะจัดกิจกรรมต่างๆ เวียนกันไป เช่น “Hillside Tea Season”, “Hillside Singing Festival”, “Hillside Blessing Season” เพื่อสร้างความสนุกสนานแก่นักท่องเที่ยว
:: การขอวีซ่า
นักท่องเที่ยวชาวไทยไม่ต้องขอวีซ่าเมื่อต้องการเดินทางเข้าฮ่องกง และสำหรับเซินเจิ้น นักท่องเที่ยวที่เดินทางกับกรุ๊ปทัวร์จากฮ่องกงสามารถที่จะใช้สิทธิ์ในโครงการวีซ่าพิเศษ 144-ชั่วโมง หรือ 144-Hour Convenient Visa ได้ ณ จุดผ่านแดนหลักๆ 10 แห่งของมณฑล ได้แก่ กวางโจว จงซาน และเจียงเหมิน วีซ่าดังกล่าวมีอายุใช้งาน 6 วันนับจากวันที่ออก รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถดูได้จากเว็บไซต์ DiscoverHongKong.com/th :: Text by FLASH
>> อัปเดตข่าวในแวดวงสังคม กอสซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net และ ติดตาม CelebStagram ได้ที่ http://www.manager.co.th/celebonline/celebstagram/
Comments are closed.