Travel

หนาวนี้ มุ่งขึ้นเหนือสู่อ้อมกอดของขุนเขา สัมผัสธรรมชาติและวัฒนธรรมชนเผ่า ที่งาน “สีสันแห่งดอยตุง”

Pinterest LinkedIn Tumblr


>>นับเป็นแลนด์มาร์กสำคัญในช่วงหน้าหนาวของทุกปี สำหรับ “สีสันแห่งดอยตุง” ที่ปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 8 โดยมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยการจัดงานในครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนอย่างดีจาก บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จํากัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) มูลนิธิเอสซีจี และ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) ภายใต้แนวคิด “Forward to Nature” ชวนนักท่องเที่ยวมุ่งสู่อ้อมกอดของขุนเขาสัมผัสลมหนาวและวัฒนธรรมชนเผ่า ในช่วงตั้งแต่วันนี้จนถึงสิ้นเดือนมกราคมปีหน้า ในทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ที่โครงการพัฒนาดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดเชียงราย


โดยไฮไลท์สำคัญของปีนี คือนอกจากจะได้กลับมาสัมผัสกับธรรมชาติอันงดงามของดอยตุงกันอีกครั้ง หลังห่างหายไปนานนับปีเนื่องด้วยโรคโควิด-19 กลับมาครั้งนี้ คุณยังจะได้บันทึกความประทับใจจากดอยตุงเป็นที่ระลึกกลับบ้านผ่านเทคโนโลยีโลกเสมือนผสานโลกแห่งความจริง (Augmented reality – AR) ที่ให้นักท่องเที่ยวสามารถไปถ่ายรูปกับตัวการ์ตูนผ่านแอพพลิเคชัน AR ที่ซ่อนตัวอยู่ตามหุบเขาและบริเวณงานอย่าง โตสีส้มอุดมโชค โตสีชมพูใจฟูรักปัง โตสีทองเงินกองงานพุ่ง โตสีน้ำเงินเติมเต็มความสุข เพื่อเก็บความโชคดีในด้านต่างๆ ตามแบบฉบับความเชื่อของชาวดอยตุงกลับบ้านกัน


นายณรงค์ อภิชัย ประธานสายปฏิบัติการพัฒนา มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ กล่าวว่า “เราเชื่อว่าธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ วัฒนธรรมชนเผ่าที่หาชมยาก และมิตรภาพของชาวดอยตุงจะช่วยเยียวยาจิตใจชาวไทยและชาวต่างชาติที่เผชิญสถานการณ์โควิด-19 มายาวนานได้มีความสุขท่ามกลางอากาศเย็นสดชื่น ส่วนผู้ประกอบการในพื้นที่ก็ได้พัฒนาศักยภาพตนเองและเกิดความภาคภูมิใจในการให้บริการผู้มาเยือนอย่างอบอุ่น ช่วยสร้างรอยยิ้มให้กันและกันอีกครั้ง”


สถานที่และกิจกรรมสำคัญภายในงาน มีทั้งสวนแม่ฟ้าหลวง ที่หมู่บ้านอาข่าป่ากล้วย ซึ่งเดิมเคยเป็นเส้นทางลำเลียงยาเสพติด และอาวุธสงครามของกองคาราวานฝิ่น ปัจจุบันคือสวนดอกไม้นับร้อยสายพันธุ์ที่สลับสับเปลี่ยนเป็นประจำ โดดเด่นด้วยกล้วยไม้รองเท้านารี ดอกเจอราเนียม สีสดใส ดอกไม้ทรงโปรดของสมเด็จย่า และกล้วยไม้พันธุ์ฟาแลนนอปซิส ที่โครงการพัฒนาดอยตุงฯได้พัฒนาและเพาะพันธุ์เอง พร้อมความพิเศษการจัดสวนดอกไม้ให้เป็นลายผ้าของชนเผ่าบนดอยตุงที่กลางสวน ง เป็นอีกจุดหนึ่งที่นักท่องเที่ยวสามารถมาชื่นชมความสวยงามและถ่ายรูปเช็คอินฟิน


สนามเด็กเล่น ดอยตุง ที่มีเครื่องเล่นที่ถูกออกแบบมาให้กลมกลืนกับธรรมชาติ นอกจากเด็กๆ จะได้ออกกำลังกายท่ามกลางอากาศที่บริสุทธิ์แล้ว ยังสามารถเรียนรู้สิ่งแวดล้อมที่เต็มไปด้วยความสวยงามจากธรรมชาติ เช่น ผีเสื้อ ที่บินไปมาในสวนดอกไม้


ชิมอาหารชนเผ่า สารพัดเมนูที่น่าสนใจ อย่าง ข้าวฟืนทอด อาหารไทใหญ่ ทำจากแป้งข้าวจ้าวผสมถั่วเหลือง เคี่ยวนาน 2-3 ชั่วโมง จนได้มาเป็นข้าวฟืนแล้วนำมาทอดจนเหลืองกรอบ ทานพร้อมน้ำจิ้มฟองถั่ว รสชาติกลมกล่อม กินได้ทุกเพศทุกวัย เป็นอาหารที่ชาวไทใหญ่ ทำกันได้ทุกครัวเรือน


ข้าวปุกปิ้ง เมนูที่แสดงถึงสายใยรักและความผูกพันธ์เหมือนข้าวทุกเม็ดที่นำมาตำรวมกันของชาวลาหู่ มักทำในเทศกาลพิเศษหรือวันสำคัญ เช่น ปีใหม่ เช้าวันแรกของปีใหม่ทุกบ้านจะนำข้าวปุ๊กไปดำหัวหรือมอบให้ผู้สูงอายุ, ผู้นำหมู่บ้าน เพื่อขอพรอันเป็นสิริมงคลให้ตัวเองและครอบครัว

ส่าจ๊อย เมนูประจำชนเผ่าลาหู่ ทำจากหมูหมักกับสมุนไพรในท้องถิ่น เช่น รากชู พริกสด กระเทียม เปลือกมะกอก นำส่วนผสมทุกอย่างห่อใบตองการทานแบบดั้งเดิมคือนิยมนำไปนึ่งหรือหมก แต่ปัจจุบันดัดแปลงเป็นการนำมาทอด ให้ทานง่ายขึ้น รสชาติกลมกล่อม มีกลิ่นหอมของสมุนไพร ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

ไก่ดำตุ๋น ที่ทำกินเฉพาะในหน้าหนาว ตำรับชาวลัวะ สูตรส่งต่อกันในครอบครัว ไก่ดำ เป็นไก่ที่มีราคาแพง เป็นที่นิยมกันเพราะมีความเชื่อถือว่า เป็นอาหารที่ทรงคุณค่าและมีสรรพคุณเป็นยาบำรุงกำลังด้วย


พร้อมมีอาหารเมนูพิเศษ เฉพาะงานสีสันแห่งดอนตุงปีนี้จากครัวตำหนักอย่าง ข้าวอบไก่ดำตุ๋นยาจีน – เสิร์ฟคู่กับไก่ดำพริกเกลือ เพิ่มอรรถรสให้ข้าวอบด้วยซุปไก่ดำตุ๋นยาจีนร้อนๆ มีประโยชน์, เฟตตูชินีแกงฮังเลหมู,


ยำบะหมี่เหลืองน้ำพริกกากหมู, ผักพื้นบ้านทอด, ครัมเบิลสับปะรดภูแล, ไอศกรีมวานิลลาอะโวคาโด และของหวานแสนอร่อยอย่าง ไอศกรีมวนิลาจากดอยตุง กินพร้อมข้าวปุกน้ำตาลอ้อยขนมยอดนิยมของชนเผ่าบนดอยตุงปิดท้ายด้วยชาอู่หลงยอดน้ำค้างอุ่นๆ กลิ่นหอมละมุนเข้ากันเป็นอย่างดี ,


อีกทั้งมีการแสดง Rhythm of Doi Tung ที่มีเพลงภาษาชาติพันธุ์ต่างๆ บนดอยตุง ประกอบด้วยเพลงจีน, ไทใหญ่, ลาหู่และอาข่า มีการเต้นเป็นแบบชนเผ่าแสดงให้เห็นวิถีชีวิตในอดีตนำมาประยุกต์กับการเต้นในปัจจุบัน โดยน้องๆ เยาวชนในพื้นที่โครงการพัฒนาดอยตุงฯ มีซุ้ม work shop ทั้งปั้นดินกับศิลปินดอยตุง, ป้ายเล่นเพนต์ลายกระดาษสา, กระเป๋า, เซรามิก, ดอกไม้แห้ง, DIY พวงกุญแจ

เต็มเปี่ยมความบันเทิงครบรสอย่างวิวทิวทัศน์ อาหาร งานหัตถกรรมและการแสดงแล้ว ปิดท้ายความทรงจำกันด้วย จุดถ่ายรูปไฮไลต์ผ่านเทคโนโลยี AR กลับบ้านแบบเสมือนจริง ทั้งจุด “โตยักษ์” สัตว์แห่งความโชคดีในตำนานของชาวไทยภูเขา ประติมากรรมสื่อผสมที่สูงกว่า 9 เมตร ลำตัวที่เป็นขนปกคลุมด้วยต้นไม้ขนาดเล็ก ออกแบบให้แสดงความรู้สึกเสมือนชื่นชมสภาพแวดล้อมของสวนแม่ฟ้าหลวง ที่เต็มไปด้วยพืชและดอกไม้นานาพรรณซึ่งจะมีให้เห็นที่งานนี้เท่านั้น


“โต” คือ สัตว์มงคลตามความเชื่อของชาวไทใหญ่ 1 ใน 6 ชนเผ่าบนดอยตุง มีลักษณะหัวเหมือนกวาง ตัวเหมือนสิงโต ชาวไทใหญ่เชื่อว่า โตเป็นตัวแทนของสิริมงคลและความเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้า ตำนานเล่าว่าเมื่อครั้งที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงมาจากสวรรค์หลังจากเสด็จไปโปรดพระพุทธมารดา ณ สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เทวดา มนุษย์ และสัตว์ในป่าหิมพานต์ พากันมาเฝ้ารับเสด็จเพื่อทำบุญใส่บาตรพระพุทธเจ้า นกกิ่งกะหร่าและโตได้ออกมาฟ้อนรำรับเสด็จด้วยความปลาบปลื้ม


นอกจากการสร้างสรรค์ประสบการณ์อันน่าประทับใจแล้ว โครงการพัฒนาดอยตุงฯ ให้ความสำคัญสูงสุดกับความปลอดภัยของผู้มาร่วมงาน ขอให้ทุกท่านมั่นใจว่าเราปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดอย่างเคร่งครัดรวมทั้งผ่านมาตรฐานการประเมินของกระทรวงสาธารณสุขเป็นที่เรียบร้อย

พบความสนุกในเทศกาลสีสันแห่งดอยตุง ครั้งที่ 8 ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 08.00 – 18.00 น. จนถึงวันที่ 30 มกราคม 2565 ณ โครงการพัฒนาดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดเชียงราย ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวของเทศกาลสีสันแห่งดอยตุงครั้งที่ 8 ได้ที่ www.facebook.com/DoiTungClub, โทรศัพท์ 02-252-7114 หรือ 053-767-015-7

Comments are closed.

Pin It