Pernod Ricard Thailand (เพอร์นอต ริคาร์ด ประเทศไทย) จัดงานเปิดตัว Les Remarquables De Martell คอลเลคชั่นคอนยัค (Cognac) ระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่จากแบรนด์ Martell (มาร์แตลล์) ที่มีมูลค่าสูงถึง 1 ล้านยูโร หรือกว่า 37 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเปิดตัวครั้งแรกของคอลเลกชั่นสุดพิเศษนี้ ที่จะนำเสนอคอนยัคหายากสุดพรีเมี่ยม บรรจุใน Dame-jeanne (ดาม-ฌอง) หรือขวดแก้วรูปทรงสวยงาม เพียงปีละ 1 ขวดเท่านั้น โดยแต่ละขวดจะถูกแปลงโฉมโดยศิลปินที่ผ่านการคัดเลือกอย่างพิถีพิถัน ให้กลายเป็นงานศิลปะอันน่าทึ่งที่มีเพียงชิ้นเดียวในโลก
สำหรับคอลเลกชั่น Les Remarquables De Martell ขวดแรกที่นำมาจัดแสดงในครั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญในศาสตร์แห่งการผสมผสานคอนยัคชั้นสูง Christophe Valtaud, Cellar Master ของ Martell ได้เลือก Eaux-de-vie (โอ-เดอ-วี) หรือ น้ำคอนยัค 2 ตัว ที่หายากและเก่าแก่กว่า 70 ปี จากเขต Grande Champagne หนึ่งในเขตพื้นที่ที่มีชื่อเสียงที่สุดในภูมิภาคคอนยัค ประเทศฝรั่งเศส โดยทั้ง 2 ตัวได้รับการบ่มในโรงบ่มที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานที่ Port du Fondateur ซึ่งสร้างโดยบุตรของ Jean Martell ผู้ก่อตั้งแบรนด์ ในศตวรรษที่ 18 ก่อนที่จะถูกนำไปเก็บรักษาไว้ใน Réserve du Fondateur สถานที่สำหรับเก็บ Eaux-de-vie ที่มีค่าและหายากเท่านั้น
โดย Eaux-de-vie ทั้ง 2 ตัว ได้ถูกนำมาผสมผสานเข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์แบบ เพื่อสร้างรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่อาจเลียนแบบได้ โดย Eaux-de-vie ตัวแรกซึ่งบ่มในถังไม้โอ๊คเป็นเวลานานนั้น มีจุดเด่นในเรื่องของรสชาติอันทรงพลัง ความเข้มข้น และการทิ้งสัมผัสยาวนานบนเพดานปาก พร้อมกลิ่นหอมของไม้ซีดาร์ (Cedar) ที่ชัดเจน ขณะที่ Eaux-de-vie ตัวที่ 2 นั้นเต็มไปด้วยความสดชื่นและมีชีวิตชีวา พร้อมกลิ่นของน้ำผึ้ง, ดอกไม้ขาว, และผลไม้รสหวาน เกิดเป็นความกลมกลืนและรสชาติอันน่าทึ่ง ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ Cellar Master นำ Eaux-de-vie ที่หายากขนาดนี้มาผสมกัน ซึ่งมีเพียงหนึ่งเดียวในโลกเท่านั้นและจะไม่มีการผลิตอีกเป็นครั้งที่สอง
ในด้านของการออกแบบตกแต่งขวดนั้น ทาง Martell ได้ร่วมมือกับ Laurentine Perilhou ศิลปินชาวฝรั่งเศส ผู้เชียวชาญ Macramé (มาคราเม่) คือการมัดหรือถักเชือกให้เกิดลวดลายด้วยมือ ที่มีความละเอียดสวยงามและพิถีพิถันเป็นอย่างมาก ทั้งยังเคยสร้างสรรค์ผลงานร่วมกับแบรนด์ Haute couture (โอต์ กูตูร์) มาแล้วมากมาย โดยในครั้งนี้ Laurentine ได้ใช้ด้ายทองคำแท้ จากโรงงานสุดท้ายในเมือง Lyon (ลียง) ประเทศฝรั่งเศส มาถักทอเป็นลวดลายของเถาวัลย์อันงดงามและซับซ้อน ที่ดูดซับพลังงานจากผืนดิน จนนำไปสู่การเติบโตของยอดองุ่น วัตถุดิบสำคัญในการผลิตคอนยัคอันล้ำค่าของ Martell
นอกจากนี้ ยังประดับด้วยไพลินสังเคราะห์ (Synthetic Sapphire) จำนวน 3 เม็ด สะท้อนถึงสีน้ำเงินของ Martell และเพชรอีก 1 เม็ด บนฐานทองคำ 22 กะรัต รวมไปถึงการตกแต่งด้วยไม้โอ๊คอายุกว่า 300 ปี ที่ถูกนำมาแกะสลักเป็นรูปทรงอัญมณี ตัวแทนของศิลปะและการสร้างสรรค์อันยาวนานของแบรนด์ Martell ซึ่งต้องใช้เวลาในกระบวนการทำผลงานชิ้นนี้ทั้งหมดกว่า 800 ชั่วโมง
“จุดมุ่งหมายของฉันคือต้องการทำให้สิ่งที่เป็นนามธรรมออกมาเป็นรูปธรรม…จากผืนดินสู่ดวงอาทิตย์ จากรากในดินไปจนถึงใบเถาที่หันไปหาแสง” Laurentine Perilhou กล่าวถึงผลงานในครั้งนี้ ซึ่งเธอได้รับแรงบันดาลใจจากการไปเยี่ยมชมไร่องุ่น, โรงบ่ม, และห้องสมุดของแบรนด์ Martell
ผู้ครอบครองเพียงหนึ่งเดียวของคอลเลกชั่น Les Remarquables De Martell ขวดแรกนี้ นอกจากจะได้เป็นเจ้าของคอนยัคและผลงานศิลปะอันล้ำค่าแล้ว ยังจะได้รับตู้โชว์ที่สามารถออกแบบได้ตามต้องการ รวมไปถึงอุปกรณ์เสริม ไม่ว่าจะเป็นแก้วคริสตัลจากแบรนด์ Baccarat จำนวน 6 ใบ, หลอดดูดสำหรับดึงคอนยัคจาก Dame-jeanne, ขวด Montre 6 ขวด และถุงมือขาวปักลาย 1 คู่ เพื่อมอบประสบการณ์พร้อมยกระดับความหรูหราในการดื่มคอนยัคไปอีกขั้น
นอกจากนี้ หากผู้ซื้อต้องการยังสามารถปรับแต่งคอนยัค โดยสามารถเพิ่ม Eaux-de-vie หายาก เพื่อให้ได้รสชาติที่ตรงตามความต้องการอย่างแท้จริง โดยผู้ซื้อและแขกอีก 3 คน จะได้รับการต้อนรับจาก Maison Martell ทั้งในกรุงปารีสและเมืองคอนยัค (Cognac) ประเทศฝรั่งเศสแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ที่จะพาทุกท่านสำรวจโลกแห่งคอนยัค, ศิลปะ และความหรูหราอย่างลึกซึ้ง พร้อมพูดคุยกับ Christophe Valtaud และ Laurentine Perilhou ในระหว่างการชิมคอนยัคแบบส่วนตัวอีกด้วย ซึ่งถือเป็นโอกาสอันยอดเยี่ยมสูงสุดสำหรับผู้ที่หลงไหลในคอนยัคทุกคน
สำหรับการเปิดตัว Les Remarquables De Martell ในประเทศไทย ได้จัดเป็นนิทรรศการเพื่อโชว์ผลงานระดับ World Class นี้ พร้อมจัดเป็น Cognac Tasting Session นำเสนอคอนยัคที่มีชื่อเสียงของ Martell ไม่ว่าจะเป็น Martell VS, Martell VSOP, Martell Cordon Bleu, Martell XO และ Martell XXO รวมไปถึงไฮไลค์สุดพิเศษอย่าง L’Or de Jean Martell คอนยัคระดับ Prestige ที่มีเพียงไม่กี่ขวดในโลกต่อปี และราคาสูงถึง 210,000 บาท เพื่อให้แขกผู้ร่วมงานทุกท่าน ได้ดื่มด่ำไปกับเครื่องดื่มสุดหรูหรา พร้อมชมผลงานศิลปะอันเลอค่าระดับโลกไปพร้อมกัน ที่โรงแรม Okura Prestige Bangkok
Comments are closed.