ด้วยความเข้าใจในความต้องการและไลฟ์สไตล์ของลูกค้า บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย สานต่อแคมเปญ ‘JOY is BMW’ ด้วยการสื่อสารผ่านคำง่าย ๆ แต่มีความหมายลึกซึ้งอย่างคำว่า ‘JOY’ โดยมุ่งรังสรรค์สุดยอดประสบการณ์เหนือระดับผ่านโปรแกรม The Ultimate JOY Experience (ดิ อัลติเมท จอย เอ็กซ์พีเรียนซ์) อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เจ้าของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูไม่ว่าจะเป็นรุ่นใด ได้ร่วมเปิดประสบการณ์ที่ยากจะมีใครได้สัมผัส ครบครันทั้งกิจกรรมไลฟ์สไตล์ในประเทศ และทริปต่างแดนสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ล่าสุด บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย พร้อมสร้างความเร้าใจครั้งใหม่กับการพลิกโฉม JOY ด้วยกิจกรรมใหม่สุดพิเศษตลอดปี 2563 นี้ที่พร้อมเชื่อมโยงลูกค้าและแบรนด์เข้าไว้ด้วยกัน
เศรษฐิพงศ์ อนุตรโสตถิ ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายการตลาด บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย เผยว่า ‘JOY’ คือตัวตนของบีเอ็มดับเบิลยู ซึ่งเป็นโฟกัสของแบรนด์ที่มุ่งเน้นการสร้างสุนทรียภาพในการขับขี่ด้วยเทคโนโลยีวิศวกรรมยานยนต์ที่ล้ำสมัย ควบคู่ไปกับดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ ดังนั้น JOY จึงเปรียบดั่งหัวใจของแบรนด์ที่แทรกซึมและขับเคลื่อนทุก ๆ สิ่งที่เราทำ เพราะเราไม่ได้สร้างแค่รถยนต์ แต่เราสร้างความรู้สึกที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า และตอนนี้เรามุ่งเน้นสร้างความ JOY ที่เหนือไปกว่าการขับขี่ด้วยประสบการณ์ไลฟ์สไตล์อันหลากหลายที่คัดสรรมาให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นสายท่องเที่ยว สายกินดื่ม ผู้ที่ชอบเล่นกีฬา รักสุขภาพ ขาช้อป หรือคนรักเสียงเพลงและความบันเทิง เชื่อว่าครบและตอบโจทย์ทุกคนอย่างแน่นอน”
“ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โปรแกรม The Ultimate JOY Experience โดดเด่นและแตกต่างจากโปรแกรมสิทธิประโยชน์อื่น ๆ เพราะรูปแบบของโปรแกรมที่ไม่ใช่การคืนกำไรหรือมุ่งหวังด้านการขาย แต่เปิดกว้างให้ทุกคนมีสิทธิ์เข้าร่วมได้ ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของบีเอ็มดับเบิลยูรุ่นใดก็ตาม เราสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดเป็นแบรนด์แพลตฟอร์มที่เปิดให้เจ้าของรถยนต์ BMW ได้เข้ามาสัมผัสความ JOY ในรูปแบบของ BMW อย่างใกล้ชิด ผ่านกิจกรรมไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเราได้เชื่อมโยงแบรนด์และลูกค้ากว่า 20,000 คนเข้าไว้ด้วยกัน ให้ทุกคนได้มีโอกาสร่วมกันลองทำสิ่งใหม่ ๆ รวมถึงประสบการณ์พิเศษหาได้ยากมีแค่ที่บีเอ็มดับเบิลยูเท่านั้น และเป็นประสบการณ์ที่สะท้อนแนวคิดยุคใหม่ที่ว่า Experience is the new luxury” เศรษฐิพงศ์ กล่าวเสริม
สำหรับปี 2563 บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ได้เตรียมกิจกรรมที่น่าสนใจภายใต้โปรแกรม “The Ultimate JOY Experience” ไว้มากมาย เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าการเข้ามาสัมผัสโลกของบีเอ็มดับเบิลยูนั้นมอบทั้งความสุขและสิทธิประโยชน์เหนือชั้นตลอดทั้งปี โดยเปิดศักราชใหม่ด้วยทริปล่าแสงเหนือ JOY GO /// M ON ICE 2020 – Arjeplog ที่หลายคนรอคอย ผู้เข้าร่วมจะได้ท้าทายทักษะการขับขี่ด้วยการขับรถบีเอ็มดับเบิลยู M4 Competition และ M2 Competition บนพื้นทะเลสาบน้ำแข็งในประเทศสวีเดน จากนั้นเรียกน้ำย่อยต่อด้วยทริปตะลุยหิมะ JOY GO ICE DRIVING EXPERIENCE – Rovaniemi ณ เมืองโรวานีมี ประเทศฟินแลนด์ หรือลองซิ่งบนสนามแข่งระดับตำนานกับทริป JOY GO ///M ON TRACK 2020 – Nürburgring และ JOY GO xVENTURE – Namibia การผจญภัยสุดตื่นตาที่ให้ทุกคนเพลิดเพลินไปกับการขับบีเอ็มดับเบิลยู X3 ใหม่ในระยะทางกว่า 1,300 กิโลเมตร และท่องซาฟารีชมวิถีชีวิตสัตว์ป่า ส่วนผู้ที่ชื่นชอบการเล่นกีฬาเป็นชีวิตจิตใจก็มีกิจกรรมหลากหลายรูปแบบให้เลือกสรร ไม่ว่าจะเป็น
ทริปโชว์วงสวิง JOY GO GOLF – Pebble Beach ตีตามรอยโปรกอล์ฟ ณ สนามกอล์ฟเพบเบิลบีชในตำนานที่แคลิฟอร์เนีย และในปี 2564 ก็จะเดินสายไปที่สนามกอล์ฟ เซ็นต์ แอนดรูวส์อันเก่าแก่ในสกอตแลนด์ หรือใครที่รักการวิ่งก็สามารถมาร่วมพิชิตมาราธอนระดับโลก JOY GO MARATHON – #MissionBerlin 2020 ได้ สำหรับแฟน ๆ มอเตอร์สปอร์ต บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทยก็ได้คัดเลือกโปรแกรมกีฬาท้าความเร็วไว้ให้ทุกคนได้ไปเกาะขอบสนามดูอย่างใกล้ชิด เช่น JOY GO DTM – Hockenheimring รายการแข่งรถยอดนิยม ณ ประเทศเยอรมนี JOY GO FESTIVAL OF SPEED – Goodwood เทศกาลสำหรับคนรักความเร็วสุดคลาสสิค ที่สหราชอาณาจักร หรือ JOY GO FORMULA E การแข่งขันรถพลังงานไฟฟ้าที่กำลังมาแรง
นอกจากนี้สมาชิกยังสามารถเพลิดเพลินไปกับกิจกรรมในประเทศหลากหลายรูปแบบ ทั้งกิจกรรมปั่นจักรยาน วิ่ง ฟุตบอล กิจกรรมเพื่อสังคม รวมถึง BMW Driving Experience ซึ่งได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง และความพิเศษอื่นๆ จากบีเอ็มดับเบิลยูและพาร์ทเนอร์ อาทิ ประสบการณ์เลิศรสกับเชฟระดับมิชลินสตาร์ การเลือกซื้อคอลเล็กชันใหม่ล่าสุดของแบรนด์ดังก่อนใครแบบเอ็กซ์คลูซีฟ กิจกรรมพิเศษสำหรับครอบครัว และอื่น ๆ อีกมากมาย
“อีกหนึ่งไฮไลท์ของกิจกรรมในปีหน้าก็คือ JOY GO COACHELLA – California ที่จะพาลูกค้าบีเอ็มดับเบิลยูไปร่วมสัมผัส Coachella Valley Music and Arts Festival เทศกาลดนตรีกลางแจ้งระดับโลกสุดยิ่งใหญ่ด้วยบัตร Artist Guest สุดเอ็กซ์คลูซีฟที่เข้าได้ถึงพื้นที่วีไอพีหลังเวที และไม่มีจำหน่ายทั่วไป ทั้งยังจะได้สนุกไปกับการแสดงจากศิลปินแถวหน้าหลากหลายแนวเพลง เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ชีวิตที่ไม่อยากให้คุณพลาด ทั้งนี้บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทยได้ปรับระบบจองแบบใหม่สำหรับทริปต่างแดนในปีหน้า ด้วยการให้ลูกค้าสามารถวางมัดจำได้ก่อน ทำให้เตรียมจองไป JOY กันได้สะดวกมากขึ้น” เศรษฐิพงศ์ กล่าวปิดท้าย
โดยในปี 2563 นี้ บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทยยังคงร่วมมือกับพันธมิตรในภาคธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น กล้องและอุปกรณ์ GoPro, ยางรถยนต์บริดจสโตน, บริดจสโตนกอล์ฟ, สถานีโทรทัศน์กีฬากอล์ฟ 24 ช.ม. Golf Channel, ผู้จำหน่ายอุปกรณ์กอล์ฟ Niche, สเปเชียลตี้สโตร์กีฬาวิ่งครบวงจร REV RUNNR, แบรนด์กีฬาชั้นนำ Under Armour, ผู้นำเข้าและจำหน่ายจักรยาน Specialized, บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และผู้ให้บริการด้านการท่องเที่ยวแนวใหม่ Travel creation เพื่อร่วมกันรังสรรค์ทริปและประสบการณ์อันทรงคุณค่าให้แก่ลูกค้า
เจ้าของรถบีเอ็มดับเบิลยูทุกท่านสามารถร่วมสัมผัสสุดยอดประสบการณ์เหนือระดับ พร้อมสิทธิพิเศษหลากหลายสำหรับทุกไลฟ์สไตล์จากโปรแกรม The Ultimate JOY Experience ตลอดทั้งปี ไม่มีวันหมดอายุ โดยสามารถรับชมความพิเศษของประสบการณ์ JOY ได้ที่ https://bit.ly/2KiYua6
สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถลงทะเบียนเป็นสมาชิกฟรีได้ที่ www.BMWultimateJOY.com หรือติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.facebook.com/bmwultimatejoy
Comments are closed.