Thailand Coffee Fest 2023 ปิดฉากเทศกาลเพื่อคนรักกาแฟที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประจำปีอย่างยิ่งใหญ่ ทุกองคาพยพของวงการกาแฟตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ ทั้งเพื่อการแลกเปลี่ยนความรู้ การแข่งขันบนเวทีต่างๆ การเลือกซื้ออุปกรณ์กาแฟ รวมไปถึงการบริหารจัดการขยะตลอด 4 วันที่เกิดขึ้นภายในงาน ก็เป็นตัวสะท้อนว่า ผู้จัดไม่ได้มุ่งแต่ความสำเร็จเชิงเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญด้านความยั่งยืนอีกด้วย
ช้างน้อย กุญชร ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท คลาวด์แอนด์กราวนด์ จำกัด กล่าวว่า ความสำเร็จของงาน Thailand Coffee Fest 2023 ยิ่งใหญ่กว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ตลอด 4 วันของการจัดงาน มีผู้สนใจเข้าร่วมงานเกือบ 90,000 คน เพิ่มขึ้น 16% เมื่อเทียบกับการจัดงานในปีที่ผ่านมา ซึ่งภาพที่เกิดขึ้นและเป็นกำลังใจที่ดีสำหรับทีมผู้จัดงาน คือ ทุกวันที่จัดงาน ก่อนเปิดให้เข้างานจริงเวลา 10.00 น. ประมาณ 9.30 น. ผู้ชมเริ่มต่อแถวรอเข้าพื้นที่จัดแสดงแล้ว สะท้อนให้เห็นว่า หลายคนอยากใช้เวลากับงานให้ได้มากที่สุด ทั้งเพื่อการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ความรู้กับกูรูชั้นนำในวงการกาแฟทั้งในไทย และจากทั่วโลก หรือการเลือกซื้อเมล็ดกาแฟ อุปกรณ์กาแฟสุดพิเศษ ที่ต้องมารอซื้อในงานนี้เท่านั้น ซึ่งไม่ว่าจะเป็นเหตุผลใด สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือทุกคนที่เข้ามาหลงมนต์เสน่ห์ของเมล็ดกาแฟ จนมักมีคำพูดเปรียบเปรยที่ว่า “เราไม่ได้ดื่มกาแฟเพื่อให้ตื่น แต่เราตื่นเพื่อดื่มกาแฟ”
นอกจากความภูมิใจในความสำเร็จของงาน Thailand Coffee Fest ที่โตขึ้นต่อเนื่องทุกปี สิ่งหนึ่งที่เราใส่ใจและต้องการให้พัฒนาอย่างยั่งยืน คือ การสร้าง Sustainable Event เพื่อสะท้อนให้เห็นว่าการเติบโตของการจัดงานในทุกอุตสาหกรรม สามารถควบคู่ไปกับความยั่งยืนได้ ถ้าเราตั้งใจศึกษาและลงมือทำอย่างจริงจัง โดยมีโจทย์ว่าขยะภายในงานต้องเป็นศูนย์ ทำให้ทีมงานวางโครงสร้างหลักของงานด้วยผ้าตาข่ายเนื่องจากเป็นวัสดุที่เกษตรกรคนต้นน้ำผู้ปลูกกาแฟสามารถนำไปใช้ตากกาแฟต่อได้ เมื่อจบงานได้มีการส่งต่อให้กับสมาคมกาแฟพิเศษไทยเพื่อส่งต่อให้คนต้นน้ำเหล่านี้ได้นำไปใช้ประโยชน์ต่อ
ถัดมาคือการบริหารจัดการขยะที่เกิดขึ้น เราได้จัดเตรียมจุดแยกขยะ 10 จุดทั่วพื้นที่ โดยมีทีมงานคอยให้ความรู้เรื่องการคัดแยกขยะแต่ละประเภท เพื่อส่งต่อและนำไปรีไซเคิลเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งตลอด 4 วันของการจัดงาน มีปริมาณขยะที่เกิดขึ้น 4,562 กิโลกรัม แบ่งเป็นขยะเศษอาหาร 1,650 กิโลกรัม คิดเป็น 36% นำไปหมักเป็นปุ๋ยอินทรีย์ โดย V Kan Green และ ผัก Done, ขวด กระป๋องน้ำ แก้วพลาสติก แกลลอน ที่สามารถรีไซเคิลได้ จำนวน 1,000 กิโลกรัม คิดเป็น 22% แยกไปรีไซเคิลกับหลายองค์กร ทั้งวงษ์พาณิชย์ Greenery และ CirPlas และขยะถุงพลาสติก จานชาม ที่ไม่สามารถรีไซเคิลได้ จำนวน 1,912 กิโลกรัม คิดเป็น 42% นำไปบดสับและเผาเป็นเชื้อเพลิงขยะ โดย N15 Technology ซึ่งเมื่อบริหารจัดการขยะอย่างชัดเจนจะพบว่า ขยะทุกชิ้นมีที่ไปและไม่สร้างผลกระทบต่อโลก หากทุกคนทุกอีเว้นท์ช่วยกันใส่ใจด้านความยั่งยืน
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงาน Sustainable Event ต้นแบบของประเทศไทยงานต่อไป ได้ที่งาน Thailand Coffee Fest 2023 Year End งานเทศกาลกาแฟส่งท้ายปลายปีที่เราใส่ใจทั้งองคาพยพ ทั้งคุณและโลก ร่วมค้นหากาแฟที่ดีและของขวัญสุดพิเศษให้คนที่คุณรัก ระหว่างวันที่ 14 – 17 ธันวาคมนี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ฮอลล์ 5 ชั้นLG หรือติดตามรายละเอียดได้ที่ เฟสบุ๊ก Thailand Coffee Fest คลิก https://www.facebook.com/ThailandCoffeeFest หรือเว็บไซต์ www.thailandcoffeefest.org
Comments are closed.