เพราะการเดินทางคือการได้เปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ไปพร้อมๆ กับการผ่อนคลายจากการทำงาน และการที่ได้นั่งอยู่ในรถยนต์ที่เปรียบเสมือนบ้านหลังเล็กๆ เคลื่อนที่ ถ้าบ้านหลังนั้นครบครันไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก แถมยังรู้สึกปลอดภัย ประหนึ่งการได้พักผ่อนไปในตัว นับว่าเป็นสิ่งที่หลายคนปรารถนา
วันนี้ จะพามาส่องรถยนต์ “ฮุนได สตาร์เกเซอร์” (Hyundai Stargazer) ที่หลังจากเปิดตัวในงานมอเตอร์โชว์ 2023 ก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) จึงไม่รอช้า จัดทริปทดสอบทันที โดย เจ กิว จอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวไว้ว่า “ทุกท่านจะได้ทดลองขับและนั่งในสตาร์เกเซอร์ บนเส้นทางที่หลากหลาย และสัมผัสถึงความสบายจากการใช้งานบนถนนจริง รวมไปถึงความสะดวกสบายภายในห้องโดยสาร และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอื่นๆ ที่ครบครันในรถยนต์รุ่นนี้”
ทริปนี้จึงเกิดขึ้นภายใต้แนวคิด “สตาร์เกเซอร์ ความสบายไม่มีที่สิ้นสุด” (STARGAZER the Ultimate Comfort) กับเส้นทางภูเก็ต–พังงา ระยะทางกว่า 200 กม. ที่เพลิดเพลินไปกับความหลากหลายของเส้นทาง ทั้งความเรียบ การเข้าโค้งแบบถี่ๆ การขึ้น-ลงเนินเป็นระยะๆ เพื่อให้ผู้ร่วมเดินทางได้พิสูจน์สมรรถนะในการขับขี่ สัมผัสกับความสบายตลอดการเดินทาง ไปพร้อมๆ กับมินิเอ็มพีวี ทั้ง 2 รุ่นคือ สมาร์ท 6 (Smart 6) และ สมาร์ท 7 (Smart 7) ที่มีหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ความละเอียดสูงแบบ LCDแถมในระหว่างการเดินทาง ยังได้แวะเพลินพุงไปกับอาหารท้องถิ่นของภาคใต้ ที่ร้านอาจ้อ เพลินตาเพลินใจไปกับวิวทิวทัศน์ 360 องศา ที่เสม็ดนางชี และล่องเรือชมป่าไทรโบราณที่คลองสังเน่ห์
สำหรับบ้านไหนที่มีสมาชิกครอบครัวเยอะ ก็จะนั่งกันได้สบายๆ ในแบบ 6 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่งด้วยห้องโดยสารที่กว้างขวาง และรุ่นท็อป (สมาร์ท 6) มาพร้อมกับเบาะที่นั่ง 6 ที่ โดยแถวที่ 2 จะมาในรูปแบบ Captain Seat ผู้โดยสารสามารถเดินผ่านไปแถวที่ 3 ได้โดยไม่ต้องพับเบาะที่นั่ง นอกจากนี้ ยังเอื้อมหยิบสัมภาระที่เก็บไว้ในช่องเก็บของหลังเบาะอย่างง่ายดาย กับพื้นที่บรรทุกสัมภาระที่เหนือระดับ แถมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ช่องเก็บของมีมากกว่า 30 ช่อง ถาดเก็บของแบบซ่อนที่คอนโซลหน้า โต๊ะพับหลังพนักพิงด้านหน้า หรือจะเลือกใช้อุปกรณ์สื่อสารที่ชาร์จไฟได้พร้อมกัน ผ่านที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย ช่อง USB ซึ่งมีทั้งด้านหน้าและด้านหลัง มีช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง และไฟเรืองแสงภายในห้องโดยสาร Ambient Mood Lighting
ด้านผู้ขับขี่ก็จะได้สัมผัสสมรรถนะชั้นนำจากเครื่องยนต์เบนซิน เทคโนโลยีสมาร์ทสตรีม เอ็มพีไอ ขนาด 1.5 ลิตร (Smartstream 1.5 MPI) กำลังสูงสุด 115 แรงม้า ระบบส่งกำลัง เกียร์อัตโนมัติแบบไอวีที (IVT) แถมยังสนุกไปกับรูปแบบในการขับขี่ ที่มีให้เลือกถึง 4 รูปแบบ ทั้งแบบอีโค (Eco), นอร์มอล (Normal), สปอร์ต (Sport) และสมาร์ท (Smart) โดยรูปแบบสมาร์ทจะปรับเปลี่ยนการตอบสนองอัตโนมัติ ตามพฤติกรรมของผู้ขับขี่ ใครชอบแบบไหนก็ปรับเปลี่ยนกันได้แบบเพลินๆ ไปเลย
ในส่วนของผู้โดยสารก็ยังอุ่นใจตลอดการเดินทาง เพราะมีระบบ “ฮุนได สมาร์ทเซนส์” (Hyundai SmartSense) ระบบความปลอดภัยที่มอบความมั่นใจทุกการเดินทาง อย่าง ระบบช่วยเหลือและเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (FCA) และระบบเตือนและช่วยควบคุมพวงมาลัย เมื่อมีรถในจุดอับสายตา (BCA) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน (LFA) ระบบเตือนและเบรกอัตโนมัติขณะถอยรถ (RCCA) ระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ (HBA) ระบบเตือนการเปิดประตูเมื่อมีรถวิ่งมาด้านข้าง (SEW) และระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้า (DAW) ซึ่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรุ่นย่อย สมาร์ท 6 และ สมาร์ท 7 ไม่ต้องคอยเอาใจช่วยคนขับเหยียบเบรคแบบไม่รู้ตัว เหมือนที่หลายคนชอบทำกัน
ทั้งยังตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ กับ 4 รุ่นให้เลือก อาทิ เทรนด์ (Trend), สไตล์ (Style), สมาร์ท 6 (Smart 6) และสมาร์ท 7 (Smart 7) ในราคาเริ่มต้น 769,000-889,000 บาท ส่วนสีนั้นก็มีให้เลือก ทั้งสีดำ มิดไนท์ แบล็ก เพิร์ล (Midnight Black Pearl), สีขาว ครีมมี ไวท์ เพิร์ล (Creamy White Pearl), สีเงิน แม็กเนติก ซิลเวอร์ เมทัลลิก (Magnetic Silver Metallic) และสีเทา ไททัน เกรย์ เมทัลลิก (Titan Grey Metallic) สำหรับ “สีแดง” ซึ่งเป็นสี
พิเศษนั้น สามารถสั่งทำได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้ายุคใหม่ ที่ชอบความโดดเด่นมีสีสัน แถมขับไปไหนต้องมีคนหันมามอง กับรูปลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ เส้นโค้งที่เฉียบคม (One Curve Design) พร้อมแถบไฟส่องสว่างเวลากลางวัน DRL แบบ LED
ช่วงเปิดตัวใหม่ๆ แบบนี้ โปรโมชันมาเต็มฟรีทุกรายการ ทั้ง ประกันภัยชั้นหนึ่ง 1 ปี, รับประกันคุณภาพรถยนต์ 5 ปี หรือ 150,000 กม., บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 5 ปี และค่าแรงบำรุงรักษา 2 ปี หรือ 40,000 กม. ใครที่กำลังมองหารถยนต์คู่กายหรืออยากเปลี่ยนรถใหม่ ฮุนได สตาร์เกเซอร์ อาจตอบโจทย์ความต้องการของคุณ
Comments are closed.