หลังจากอดีตพระมิตซูโอะ พระนักเทศน์ชื่อดังสร้างข่าวชอกวงการผ้าเหลืองด้วยการลาสิกขาบทไปแต่งงานกับ”สีกาแอน” หรือสุทธิรัตน์ มุตตามะระ นักธุรกิจเจ้าของสถานเสริมความงาม โดยทิ้งปริศนาคำถามไว้มากมาย
ผ่านไป 4 เดือน วันนี้อาจารย์มิตซูโอะ จูงมือภรรยาตามกฏหมายออกมาแถลงข่าวพร้อมกับเปิดตัวหนังสือ 2 เล่มในชื่อ “ความในใจ…อาจารย์มิตซูโอะ” และ “บทเทศน์วันสุดท้ายในเพศบรรพชิต” ที่โรงแรมแกรนด์ ไฮแอทเอราวัณ โดยอาจารย์มิตซูโอปรากฏกายในชุดเสื้อแขนยาวคอตั้งสีชมพูกลีบบัวสะพายกระเป๋าคล้ายย่าม พร้อมกับจูงมือแอน-สิทธิรัตน์ ที่มาในชุดแซกสีขาว ทั้งคู่เดินเข้ามาในห้องพร้อมกับใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส
อาจารย์มิตซูโอะ กล่าวกับผู้สื่อข่าวถึงเหตุผลของการออกมาแถลงข่าวครั้งนี้ว่า “ ตอนนี้ผมพร้อมแล้วที่จะมาพูด และจะบอกทุกสิ่งที่ผ่านมาอยู่ในพ็อคเก็ตบุคส์ 2 เล่ม ชื่อ “ความในใจ…อาจารย์มิตซูโอะ” และ “บทเทศน์วันสุดท้ายในเพศบรรพชิต” ที่ได้บันทึกทุกห้วงเวลา กลั่นกรองจากความรู้สึก เหตุการณ์จริง พร้อมกับเรื่องราวทุกแง่มุม ตั้งแต่ก่อนบวชจนกระทั่งลาสิกขาบท อีกทั้งบทธรรมเทศนาในวันสุดท้ายแห่งการครองเพศบรรพชิต เพื่อช่วยตอบโจทย์เจตนาแห่งความรู้สึกของอาจารย์มิตซูโอะ”
ส่วนแอน-สุทธิรัตน์ก็กล่าวเสริมถึงสาเหตุที่ได้มาพบกับอดีตพระอาจารย์มิตซูโอะจนในที่สุดเกิดเป็นความรักว่า “ เหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2556 ตอนนั้นแอนน์มีปัญหาทุกข์ใจเกี่ยวกับโรงแรมที่กำลังสร้างที่จังหวัดภูเก็ตถูกไฟใหม้ไปกว่าครึ่ง พี่สาวของอดีตสามี (อรษา เจริญศิลป์) จึงแนะนำให้มาปฏิบัติธรรมกับ “พระมิตซูโอะ คเวสโก” เพื่อคลายความทุกข์ใจใช้ธรรมะเป็นตัวบำบัด”
จากนั้นแอนน์ก็เข้ามาปฏิบัติธรรมอย่างต่อเนื่องทุกวัน จนเกิดความสนิมสนม ถึงขั้นที่พระมิตซูโอะ คเวสโก ไว้ใจให้เข้ามาช่วยดูแลในเรื่องของการตอบคำถามในเฟสบุ๊คให้ และช่วยดูแลเรื่องอาหาร เพราะพระมิตซูโอะ คเวสโก ป่วยเป็นโรคเบาหวาน รวมถึงเป็นสารถีคอยขัยรถไปรับไปส่งตามสถานที่ต่างๆ และคอยประสานงานทั่วๆ ไป
ระยะเวลาเพียงไม่กี่เดือนที่ใกล้ชิดกัน ทำให้ อาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก เกิดนโนภาพของความรักขึ้นมา และพร้อมที่จะใข้ชีวิตคู่กับแอนน์ หญิงสาวผู้เป็นที่รัก จึงตัดสินใจลาสิกขาในทันที
ส่วนอาจารย์มิตซูโอะกล่าวเพิ่มเติมที่สาเหตุที่ตัดสินใจลาสิขาบทว่า “ ก่อนหน้านี้ตั้งใจว่าขอไม่มีความรักและไม่แต่งงานจนเมื่อมาเจอแอน ก็ทำให้เกิดเป็นมโนภาพที่อยากจะสร้างครอบครัวเลยตัดสินใจลาสิขาบทอย่างเงียบ ๆ และก็บินไปต่างประเทศทันที”
ซึ่งอาจารย์มิตซูโอะได้บรรยายความในใจผ่านหนังสือ “ความในใจ…อาจารย์มิตซูโอะ” ให้เห็นถึงความรักลุ่มหลงที่มีต่อภรรยาว่า “ตั้งแต่เดินทางออกจากประเทศไทยของกลางดึกของคืนวันที่ 9 มิถุนายน 2556 หรือเช้ามืดของวันที่ 10 มิถุนายน 2556 ถึง วันที่ 21 กรกฎาคม 2556 รวม 41 วัน ประมาณ 1,000 กว่าชั่วโมง อาจารย์อยู่กับภรรยาตลอดเวลาเหมือนปาท่องโก๋ ไม่เคยอยู่ห่างกันเกินหนึ่งชั่วโมง ซึ่งก็นับครั้งไดั เช่น เวลาที่แอนน์นอนยังไม่ตื่น อาจารย์ไป Jogging ออกกำลังกายประมาณหนึ่งชั่วโมง อาจารย์เข้า Onsen ฝ่ายชาย แอนน์เข้า Onsen ฝ่ายหญิง ประมาณหนึ่งชั่วโมง เป็นต้น นอกนั้นทำอะไรไปไหนอยู่ด้วยกันตลอด 24 ชั่วโมงต่อวัน หรือ 1,000 กว่าชั่วโมง ตลอด Trip ของการเดินทางก่อนกลับมาประเทศไทย”
อาจารย์มิตซูโอะยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่าสิ่งใดที่ภรรยาสบายใจ สุขใจ อาจารย์ก็เต็มใจทำให้ ตามใจทุกอย่าง เช่น ภรรยาอยากจะเดิน Shopping ตามห้าง ไปซื้อของกินของใช้ที่ Seven Eleven ไปซักผ้าที่ Coin Laundry ก็ไปด้วยกันตลอด คอยถือของ ถือตะกร้าผ้า และของต่างๆ ให้ ซึ่งเดิมเราเป็นพระผู้ใหญ่ มีทั้งพระทั้งโยมอุปัฏฐากดูแลเอาใจใส่ทุกอย่างไม่ต้องทำอะไรเลย แต่เราก็ไม่ยึดติด ไม่เคยคิดเปรียบเทียบกับความสะดวกสบาย เมื่อสมัยเป็นพระ เพราะตั้งใจแล้วว่าเมื่อเป็นฆราวาสก็จะเป็นฆราวาสที่ดี เป็นสามีก็จะทำหน้าที่อย่างดีที่สุด ยึดหลักชีวิตทั้งหมดอยู่ด้วยหลักอานาปานสติ อยู่กับปัจจุบัน ทำหน้าที่ในปัจจุบันให้ดีที่สุด รักษาสุขภาพใจดี”
นี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่อาจารย์คิดว่าอาจารย์มีรักแท้ให้แก่ภรรยา ยอมเสียสละทุกอย่าง ตั้งแต่ถอดจีวร ทิ้งทุกอย่างที่ได้สร้างสมบารมีมาตลอด 38 พรรษา ตลอดถึงพยายามละทิฐิ มานะ ตัวตน ต่างๆ ที่เกิดขึ้นก็เป็นจาคะเสียสละทิ้งไป เป็นการตัดกิเลสที่เกิดขึ้นตามเหตุตามปัจจัย แต่ก่อนตัวเราเป็นหลัก โลกหมุนตามเราแต่ตอนนี้เอาชีวิตคู่เป็นหลัก ภรรยาเป็นหลัก ทำให้ภรรยามีความสุขที่สุด
แม้ขณะนี้อาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก จะไม่ได้อยู่ในบทบาทของพระสงฆ์ แต่ก็ยังปฎิบัติกิจวัตรประจำวันเฉกเช่นเดิม โดยในแต่ละวันสิ่งที่ท่านปฎิบัติประกอบด้วย การนั่งสมาธิ เดินจงกรม บริหารเล่นโยคะ เขียนหนังสือ ตามที่จะสะดวก และใจต้องการจะทำอะไรก็ทำไป สิ่งที่ไม่ทิ้งก็คือ การเฝ้าดูความคิด คำพูด การกระทำ มีสติติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง คิดดี ทำดี รักษาใจดี สุขภาพใจดี ตั้งมั่นอยู่ในศีลธรรม จริยธรรม ก็ปฏิบัติเสมอต้นเสมอปลาย
ตอนเช้าตื่นขึ้นมาแล้วก็ลุกขึ้น เช็คน้ำตาลในเลือด แล้วก็นั่งสมาธิ เล่นโยคะ เมื่อรู้สึกเมื่อยอยากจะเอนกายก็เอนกาย กำหนดจิตเป็นอานาปานสติ เหมือนกับช่วงที่ปฏิบัติธรรมที่อินเดีย หลังจากนั่งสมาธิ นอนแล้วก็เกิดสมาธิ เห็นนิมิตต่างๆ ที่น่าสนใจ ถ้าหลับก็นอนหลับไปไม่เป็นไร ปฏิบัติสบายๆ
เมื่อได้เวลาก็รับประทานอาหารเช้ากับภรรยาทุกวัน โดยมากภรรยามีธุระนอกบ้าน รวมถึงการนั่งสมาธิ ติดต่อกัน 3 ชั่วโมง นั่งอยู่คนเดียว ฟื้นฟูการนั่งนานๆ ให้ได้ เพราะช่วงหลังเป็นพระก็ไม่ค่อยได้นั่งนานๆ มาหลายปีแล้ว หรือจะเป็นงการปฏิบัติธรรมร่วมกับภรรยา อย่างน้อยก็นั่งสมาธิด้วยกัน วันละประมาณครึ่งถึงหนึ่งชั่วโมง
การออกกำลังกายสะดวกเมื่อไรก็ทำเมื่อนั้น เดินบนเครื่องออกกำลังกายประมาณ 10 – 15 นาที จนกว่าเหงื่อจะออกโดยมากหลังอาหารเพื่อช่วยย่อยอาหาร และลดน้ำตาลในเลือด
ปกติเดินจงกรมไม่นาน ช่วงเปลี่ยนอิริยาบถ หรือเปลี่ยนกิจกรรมต่างๆ 5 – 10 นาทีเพื่อทำใจให้ว่างจากใช้สมองคิดหรือความรู้สึกต่างๆ ทำใจให้สงบ สงบใจ เบาใจเป็นเป้าหมาย จิตหรือสติเอาไว้ที่ฝ่าเท้า ทานข้าวนอกบ้าน ก็จะมีภรรยาสาวพาไปร้านอาหารต่างๆ ที่เคยไป ชอบอาหารร้านไหนก็ไปร้านนั้น เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ ประมาณอาทิตย์ละครั้ง ไปไหนใครรู้จักก็เข้ามาทักทายไหว้บางคนบอกว่ารู้จักอาจารย์มานานแล้วบ้าง อ่านหนังสืออาจารย์อยู่ และขอถ่ายรูปก็มีมาก
ก่อนจบการแถลงข่าวอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก และ แอนน์-สุทธิรัตน์ มุตตามระยืนยันว่าขณะนี้ กำลังสวีตหวานด้วยการดูแลซึ่งกันและกัน แต่ขอไม่มีทายาทไว้สืบสกุลอย่างแน่นอน ชีวิตต่อจากนี้ขอเผยแผ่หลักสอน ผ่านเฟสบุ๊ค และสื่อโซเชียลมีเดีย พร้อมทำเป็นหนังสือที่กำลังจะแปลอีกกว่า 20 ภาษาให้ทุกคนได้อ่านและเข้าใจกัน
เรื่องของความรักย่อมเป็นเรื่องที่คนเพียง 2 คนเท่านั้นจะเข้าใจและรับรู้ ดังนั้นเราก็ได้แต่ขอให้รักครั้งแรกในชีวิตของ อาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก เป็นความรักที่สวยงาม ลูกศิษย์ลูกหาอาจารย์หลายคนก็คงรอผลงานเขียนของอาจารย์อยู้เรื่อยๆ
Comments are closed.