เปิดประสบการณ์ “ปวดหลัง” ที่ไม่ได้เกิดจากออฟฟิศซินโดรน แต่เป็นที่นอนไม่เข้ากับสรีระ!

ช่วงที่ต้องทำงานที่บ้านหรือ Work From Home ก็มีข้อดีข้อเสียต่างกัน แน่นอนว่าการทำงานที่บ้านช่วยให้เราประหยัดอะไรได้หลายๆ อย่าง เช่น ไม่ต้องเสียเวลาตื่นนอนตอนเช้าเพื่อรีบเร่งแต่งตัว และการเดินทาง ลดค่าใช้จ่ายทั้งการเดินทาง และกิจกรรมกับเพื่อนร่วมงาน ฯลฯ แต่ข้อเสียคือ ทำให้เราไม่มีระเบียบแบบแผนในการใช้ชีวิต เช่น เวลาตื่นที่ไม่แน่นอน ขี้เกียจการอาบน้ำแต่งตัว และที่สำคัญคือ การได้ขยับร่างกายน้อยลง เพราะไม่ต้องเดินอย่างเร่งรีบ หรือต้องมีกิจกรรมอะไรที่ต้องใช้ร่างกายเมื่อเทียบกับเราต้องเข้าไปทำงานในออฟฟิศ แต่กลับต้องนั่งทำงานอยู่กับที่ติดต่อกันเป็นเวลานาน

ช่วงหนึ่งผมนั่งทำงานที่บ้านจนวันหนึ่งรู้สึกเกิดอาการปวดหลังปวดไหล่ไปจนถึงเอวที่มีอาการตึงและปวด อาการปวดเช่นนั้นสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้มีอาการรุนแรง และจะรู้สึกเสียวกลางสันหลังตอนที่ลุกขึ้นจากที่นอน จนอยู่มาวันหนึ่งผมได้มีโอกาสเดินทางไปท่องเที่ยวต่างจังหวัด แล้วได้พักที่โรงแรมระดับ 5 ดาว เช้าวันนั้นผมตื่นขึ้นมาจากที่นอน แต่อาการปวดหลังกลับน้อยลง ผมจึงลองไปเปิดผ้าคลุมที่นอนดูว่า พนักงานโรงแรมนั้นเขาจัดที่นอนอย่างไร และใช้อะไรในการลองและปูเตียงบ้าง

สิ่งที่ผมค้นพบอย่างแรกเลยคือ ท็อปเปอร์ (Topper) ซึ่งที่นอนที่ผมใช้อยู่ที่บ้านไม่มี เพราะเข้าใจว่าเราซื้อที่นอนราคาแพงแล้วจะช่วยให้การนอนของเราดีขึ้น แต่ในความเป็นจริงกลับเพิ่มให้เกิดอาหารปวดหลัง จากนั้นผมก็โทรศัพท์สอบถามกับผู้เชี่ยวชาญด้านที่นอนกับบริษัทที่จำหน่ายที่นอนที่ผมซื้อมาใช้งาน โดยคำถามแรกที่เขาถามผมก็คือ คุณน้ำหนักตัวเท่าไหร่ ผมก็ตอบไปว่า 57 กิโลกรัม แล้วเขาก็ถามต่อไปว่าใช้ที่นอน รุ่นไหน ผู้เชี่ยวชาญท่านนั้นก็บอกเลยว่า ที่นอนรุ่นนั้นเหมาะกับคนน้ำหนัก 70 กิโลกรัมขึ้นไป ซึ่งนั่นไม่เหมาะกับสรีระของร่างกายผม เพราะมันแข็งเกินไปและไม่เข้ากับสรีระร่างกายจึงทำให้เกิดอาการปวดหลัง

จากนั้นผมก็พยายามศึกษาและขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้เชี่ยวชาญด้านที่นอน ผมจึงค้นพบว่า ร่างกายของผมขณะนอนยังขาดท็อปเปอร์ ที่จะมาเสริมกับที่นอนเดิม ซึ่งท็อปเปอร์ที่ว่าคือยี่ห้อ ซีนุส (Zinus) รุ่น Bess หนา 5 เซนติเมตร หรือประมาณ 2 นิ้ว เมื่อวางเสริมแล้วปูผ้าคลุมเตียงนอนจึงเริ่มนอนคืนแรก มันมหัศจรรย์มากจริงๆ เนื่องจากแกรนด์หลังที่ผมเคยรู้สึกปวดและมีอาการเสียว มันค่อยๆ ลดลง จากนั้นจึงลองนอนติดต่อกันต่อเนื่องเป็นเวลาประมาณ 7 สัปดาห์ จึงค้นพบว่าบริเวณหลังของผมรู้สึกผ่อนคลายขึ้น ไม่ตึง เสียว หรือปวด เหมือนแต่ก่อน

ต้องยอมรับว่าที่อาการปวดหลังและไหล่ของผมรู้สึกดีขึ้น เพราะว่าท็อปเปอร์จริงๆ ซึ่งท็อปเปอร์รุ่นนี้ให้ความรู้สึกเย็นๆ เล็กน้อย เพราะมี MyGel Memory Foam ที่ช่วยปรับอุณหภูมิของร่างกายให้เหมาะสม ทำให้นอนหลับสบายยิ่งขึ้น เวลานอนพื้นท็อปเปอร์จะให้ความรู้สึกนุ่มนวลและสามารถของรับสรีระร่างกายได้เป็นอย่างดี และผ้าหุ้ม Intella-Zoft ยังเป็นนวัตกรรมเส้นใยพิเศษช่วยระบายอากาศและรักษาอุณหภูมิ ป้องกันไรฝุ่นและแบกทีเรีย ที่สำคัญที่นอนรุ่นนี้ได้รับ CertiPUR-US®โฟมได้รับการรับรองตรงตามมาตรฐานที่เข้มงวดว่าไม่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและมีความ ทนทานสูงจากสหรัฐอเมริกา และเมื่อนอนหงายและนอนตะแคง ท็อปเปอร์สามารถคืนตัวได้ 100% ช่วยให้หลังของผมไม่เกร็ง จนก่อให้เกิดอาการปวดหลังตามมา

สรุปแล้วการที่เรามีอาการปวดหลังและไหล่ อย่างเพิ่งคิดเสมอไปว่ามันจะเกิดจากการเป็นออฟฟิศซินโดรมที่เกิดจากการนั่งทำงานนานๆ เสมอไป แต่ให้พิจารณารอบด้าน นอกจากสรีระที่เราใช้ระหว่างนั่งทำงาน โต๊ะทำงาน เก้าอี้ รวมถึง “ที่นอน” และอุปกรณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ “การนอน” เพราะนั่นคือช่วงเวลาสำคัญที่ร่างกายเราการต้องการการผ่อนคลาย