Lifestyle

หนังสือระบายสีสำหรับผู้ใหญ่ เทรนด์ฮิตช่วยกระตุ้นสมอง ป้องกันโรคอัลไซเมอร์

Pinterest LinkedIn Tumblr

นพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่คิดว่าหนังสือระบายสีเหมาะสำหรับเด็กเท่านั้น ขอท้าให้คุณลองลงมือแต่งแต้มสีสันในหนังสือระบายสีสำหรับผู้ใหญ่ดูสักครั้ง เชื่อว่าคุณต้องเปลี่ยนความคิดแน่นอน เพราะหนังสือระบายสีมีประโยชน์สำหรับผู้ใหญ่เช่นกัน และยังเป็นที่นิยมมากในหลายประเทศทั่วโลก ทั้งเกาหลี จีน อังกฤษ อเมริกา ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส ฯลฯ หนังสือระบายสีสำหรับผู้ใหญ่ไม่ได้มีเพียงแค่ลายเส้นที่สวยงามเท่านั้น แต่การบรรจงลงสียังช่วยให้คุณผ่อนคลายหายเครียด ที่สำคัญยังช่วยกระตุ้นสมอง เยียวยาผู้ป่วยระยะพักฟื้น และป้องกันโรคอัลไซเมอร์ได้อีกด้วย

นพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ หัวหน้ากลุ่มที่ปรึกษากรมสุขภาพจิต กล่าวถึงปัญหาสุขภาพของผู้สูงอายุว่า “คนสูงอายุมีโอกาสมากที่จะรู้สึกเครียด วิตกกังวล ว้าเหว่ และเปล่าเปลี่ยว ซึ่งความรู้สึกแบบนี้ มีผลต่อสมองก็จะเสื่อมลงไปเรื่อยๆ เนื่องจากสมองไม่ได้รับการกระตุ้นให้ใช้ (passive brain) สิ่งนี้จะเป็นปัจจัยนำไปสู่โรคอัลไซเมอร์ แต่ถ้าได้ทำอะไรที่เกิดประโยชน์ รู้สึกมีคุณค่า และมีความคิดสร้างสรรค์ ก็จะช่วยกระตุ้นให้สมองยังทำงานอยู่ (active brain) เป็นการป้องกันสมองเสื่อมที่ดีที่สุด”

โดยทั่วไปสมรรถภาพสมองจะยังสูงอยู่แม้ความจำจะลดลง นายแพทย์ยงยุทธกล่าวว่า “ถ้าสมมติคุณอายุ 60 ปี เกษียณออกมาแล้วนั่งหน้าโทรทัศน์ทั้งวัน ไม่กี่ปีคุณก็จะเข้าสู่โรคอัลไซเมอร์ มีคนศึกษาว่าสมองคนเราจะรักษาศักยภาพได้ถึงอายุ 70 ปี หลังจากนั้นสมองก็จะเริ่มทำงานลดลง แต่เรารักษาศักยภาพและลดความเสื่อมได้ด้วยการทำกิจกรรมที่ช่วยกระตุ้นสมอง”

“ความจริงแล้วผู้สูงอายุกระตุ้นให้สมองทำงานได้ผ่านกิจกรรมต่างๆ วิธีการที่ดีที่สุดคือการทำงาน หากทำงานหารายได้ไม่ได้ก็อาจทำงานอาสาสมัคร ถัดลงมาคืองานอดิเรก เช่น การเย็บปักถักร้อย การทำสวน หรือการสร้างสรรค์งานศิลปะ เป็นต้น”

งานศิลปะเป็นงานอดิเรกช่วยกระตุ้นสมองผู้สูงวัยได้ดี โดยอาจจะวาดภาพตามแบบ หรือระบายสีลงในหนังสือระบายสีสำหรับผู้ใหญ่ก็ได้ นายแพทย์ยงยุทธกล่าวเสริมว่า “ประโยชน์ที่สำคัญของการระบายสีหลักๆ คือ 1) ลดความเครียด ลดความว้าวุ่นและความวิตกกังวล ทำให้มีสติในการทำงาน 2) ช่วยทำให้มีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น เพราะทำให้เราเลือกตัดสินใจได้ด้วยตัวเองผ่านการเลือกแบบเลือกสีในการระบาย สิ่งที่ตามมาคือจะได้เห็นคุณค่าของตัวเราเอง เป็นการสร้างผลงาน นอกจากนี้ยังมีข้อดีอีกคือ เป็นกิจกรรมที่ต้องใช้เวลามากในการระบายสี ทำให้สมองได้เป็นฝ่ายกระทำ ต่างจากการดูโทรทัศน์ซึ่งสมองได้แค่รับอย่างเดียว”

นอกจากนี้ การระบายสียังช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองของผู้ป่วยพักฟื้นได้อีกด้วย “ขณะที่เราป่วยสิ่งที่เสียไปด้วยคือสมอง เพราะเราแทบไม่ได้ใช้สมองทำอะไรเลย การมีกิจกรรมมาช่วยกระตุ้นสมองในช่วงนี้จะเป็นสิ่งที่ดี การระบายสีเป็นหนึ่งในตัวช่วยเพื่อฟื้นฟูสมองได้ สำหรับผู้ป่วยที่มีปัญหาสุขภาพจิต เช่น วิตกกังวล ซึมเศร้า สมองเสื่อม สามารถใช้การระบายสีเพื่อช่วยบรรเทาได้ (Art Therapy) หากจะรักษาจริงๆ สามารถทำได้โดยปรึกษาจิตแพทย์ หรือนักจิตวิทยาหรือผู้บำบัด

ไม่เพียงแค่ผู้สูงวัยหรือผู้ป่วยพักฟื้นเท่านั้นที่ควรหันมาทำงานอดิเรกอย่างการระบายสี คนทั่วไปก็ควรเริ่มระบายสีกระตุ้นสมองเช่นกัน นพ.ยงยุทธ กล่าวว่า “คนเราต้องทำอะไรสักอย่างให้เกิดการพักผ่อนจิตใจ การระบายสีก็เหมือนกับการสร้างสมดุลย์ชีวิต (Work Life Balance) คือจะต้องทำบางอย่างให้ชีวิตได้เข้าถึงความสงบ ความงาม ความสร้างสรรค์ ความพอเพียง ซึ่งการวาดภาพระบายสีเป็นทางเลือกที่ดี”

อย่าปล่อยให้สมองของคุณต้องเสื่อมลงไปตามกาลเวลา มากระตุ้นสมองปลุกความสร้างสรรค์ในตัวคุณ ผ่านกิจกรรมเวิร์กช็อป “ศาสตร์และศิลป์แห่งสี บำบัดเครียด เยียวยาป่วย ด้วยหนังสือระบายสี” เรียนรู้การสร้างสมดุลในชีวิตด้วยการระบายสี ระบายสีอย่างไรให้ไม่เครียดและผ่อนคลายพร้อมสร้างสมาธิ และแนะเทคนิคการลงสีให้ภาพดูสวยโดดเด่นพร้อมมีชีวิตผ่านหนังสือระบายสี วิทยากรโดย ครูอ๋า-สิทธิพร กุลวโรตตมะ ในวันเสาร์ที่ 27 สิงหาคม 2559 เวลา 13.30-16.00 น. ณ อาคารนานมีบุ๊คส์เฮาส์ ซอยสุขุมวิท 31 (สวัสดี) สอบถามเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่ง โทร. 0-2662-3000 ต่อ 4425 (กิจกรรมมีค่าลงทะเบียน)




Comments are closed.

Pin It